Categories
เบเกอรี่

ขนมหวานสุดน่ารัก วาฟเฟิล ฮ่องกง ไส้ทะลัก กรอบนอก นุ่มใน

วาฟเฟิล ฮ่องกง

วาฟเฟิล ฮ่องกง หรือวาฟเฟิลไข่มีเนื้อแป้งกรอบนอกนุ่มใน โดยส่วนผสมหลักจะเป็นแป้งเค้ก ผสมไข่ และน้ำตาล นำมาเทใส่เตาวาฟเฟิลให้แป้งสุกแล้วจะได้ขนมกลิ่นหอมอบอวลชวนทาน ที่มาพร้อมรูปร่างของขนมสุดน่ารัก สำหรับวาฟ เฟิล ฮ่องกงสามารถหาซื้อได้ตามตลาดอาหารทั่วไป โดยขนมวาฟเฟิลไข่มีให้เลือกทั้งแบบออริจินอล และแบบมีท๊อปปิ้ง ซึ่งท็อปปิ้งที่นิยมมากที่สุดจะเป็นไส้ช็อกโกแลตเยิ้มๆ ทานคู่กับแป้งกรอบๆ เข้ากันสุดๆ นอกจากนี้ยังมีท็อปปิ้งหลากหลายชนิดให้เลือกทานได้ตามใจชอบ เรียกได้ว่าหากจะทานเพียงชิ้นเดียวคงไม่พอแน่นอน

ขั้นตอนทำขนม วาฟเฟิล ฮ่องกง สูตรดั้งเดิม แป้งกรอบ หอมกลิ่นเนยสด 

วาฟเฟิล ฮ่องกง

หากพูดถึงขนมหวานที่สามารถทานได้ทุกวัน ต้องยกให้กับขนมวาฟเฟิล ฮ่องกง รสชาติหวานละมุนที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และยังมีความกรุบกรอบของแป้งเคี้ยวได้อย่างเพลิดเพลิน แถมยังเป็นขนมที่สามารถทานคู่กับอะไรก็อร่อยรสชาติไม่จำเจ และสามารถทานได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อ อย่างไรก็ตามขนมวาฟเฟิลเป็นขนมยอดนิยมที่ผู้คนต่อคิวกันซื้อเป็นจำนวนมาก สำหรับคนที่ขี้เกียจรอนาน เรามีสูตรขนมวา ฟ เฟิ ล ไส้ ทะลักมาให้ได้ลองทำอย่างง่ายๆ ดังนี้

วาฟเฟิล ฮ่องกง
  1. แป้งอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
  2. แป้งมันสำปะหลัง 1 ช้อนโต๊ะ
  3. ผงคัสตาร์ ½ ช้อนโต๊ะ
  4. ผงฟู 1 ช้อนชา
  5. น้ำตาลทรายขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  6. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  7. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  8. กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนโต๊ะ
  9. ซ็อกโกแลตแท่ง 2 แท่ง
  10. น้ำเปล่า 200 กรัม

ในส่วนของวัตถุดิบที่เตรียมไว้นั้น เป็นสูตรวาฟเฟิลสอดไส้ช็อกโกแลตเยิ้มๆ แต่ถ้าอยากเพิ่มท็อปปิ้งอย่าง สตรอเบอร์รี่ ลูกเกด หรือจะเป็นผลไม้ชนิดอื่นก็ได้ตามใจชอบ เมื่อได้ส่วนผสมที่ต้องการแล้วต่อมาจะเข้าสู่กระบวนการทำขนม วา ฟ เฟิ ลตามฉบับโฮมเมดดังนี้

วาฟเฟิล ฮ่องกง
  1. นำแป้งอเนกประสงค์ ผงฟู ผงคัตตาร์ และแป้งมันสัมปะหลังมาร่อนใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นใส่ไข่ไก่ น้ำเปล่า น้ำตาลทรายขาว ตามด้วยกลิ่นวานิลลา ผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เสร็จแล้วให้นำช็อกโกแลตมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เตรียมไว้
  2. ในลำดับต่อมาให้เตรียมเตาวาฟเฟิล โดยการอุ่นเครื่องเปิดไฟสูง ประมาณ 1-2 นาที จากนั้นให้ลดไฟลงเป็นปานกลาง นำน้ำมันพืชมาทาให้ทั่วกระทะทั้ง 2 ด้าน 
  3. ต่อมาให้ตักน้ำแป้งที่เตรียมไว้ลงไปในกระทั่ว จากนั้นใส่ช็อกโกแลตลงไป ทำการปิดฝากระทะให้สนิท เสร็จแล้วให้กลับด้านกระทะอีกด้าน รอประมาณ 2 นาที แล้วกลับอีกด้านขึ้นมาให้รอประมาณ 2 นาที เมื่อแป้งสุกแล้วให้ค่อยๆ เปิดฝาวาฟเฟิลออก เอาขนมวาฟเฟิลใส่จาน ตกแต่งให้สวยงาม
วาฟเฟิล ฮ่องกง

เมื่อทำขนมเสร็จแล้วจะได้เนื้อแป้ง วา ฟ เฟิ ลกรอบนอก นุ่มในกลิ่นหอมละมุน ส่วนด้านในของแป้งอัดแน่นไปด้วยช็อกโกแลตไส้ทะลัก รสชาติหวานจัดจ้านอร่อยทานเพลินเลยทีเดียว และหากราดน้ำผึ้งลงไปในแป้งวา ฟ เฟิ ล กรอบจะช่วยเพิ่มรสชาติของขนมให้มีความโดดเด่นทานแล้วฟินสุดๆ 

เคล็ดลับของความอร่อยไม่จำเจ วาฟเฟิลฮ่องกง ไอศกรีม หวานเย็นชื่นใจ 

วาฟเฟิล ฮ่องกง

ขนมวาฟเฟิล ฮ่องกง เป็นขนมหวานที่มีวิธีทำค่อนข้างง่าย และไม่ต้องรอนานก็ได้ทานขนมกรอบอร่อยได้ที่บ้าน นอกจากนี้วาฟเฟิลไข่ยังสามารถนำมาประยุกต์เป็นกรวยใส่ไอศกรีมหวานๆ ได้ด้วย ซึ่ง สูตร วา ฟ เฟิ ล ไอศกรีมก็ง่ายนิดเดียว โดยเริ่มจากทำวาฟเฟิลให้กรอบพอดี เสร็จแล้วพักไว้ให้เย็น นำมาม้วนคล้ายกรวย ตักไอศกรีมรสชาติตามใจชอบใส่ในกรวย ราดด้วยช็อกโกแลต หรือคาราเมล เพิ่มความอร่อยด้วยวิปปิ้งครีมพร้อมทานได้เลย

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: ufaball.bet

Categories
เบเกอรี่

แจกสูตร แพน เค้ก กล้วย หอม ไร้แป้ง หอมอร่อย เพื่อสุขภาพ

แพน เค้ก กล้วย หอม

เชื่อว่าหลายคนที่กำลังลดน้ำหนักมักจะประสบปัญหาอยากทานขนมหวานอร่อยๆ แต่กลัวอ้วน ดังนั้นเรามีหนึ่งเมนูขนมหวานที่ทานแล้วไม่อ้วนนั่นก็คือ แพน เค้ก กล้วย หอม สูตรไร้แป้ง น้ำตาลน้อย ที่สำคัญยังเป็นเมนูที่ได้สุขภาพ และดีต่อร่างกาย เพราะสูตรนี้จะใส่ข้าวโอ๊ตแทนแป้งสาลี ส่วนรสชาติต้องบอกเลยว่าอร่อยโดนใจทานได้ไม่มีเบื่อ ในส่วนวิธีทำแพนแค้ก กล้วยหอม ข้าวโอ๊ตก็ทำทานเองได้โดยไม่จำเป็นต้องไปซื้อทานให้เสียเวลา แถมยังสามารถทำเก็บไว้ทานในวันถัดไปได้ด้วย 

วิธีทำ แพน เค้ก กล้วย หอม สูตรคลีน ไม่ใส่แป้ง หวานน้อย แต่อร่อย 

แพน เค้ก กล้วย หอม

วันนี้ขอแนะนำเมนูขนมหวานสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก และคนรักสุขภาพอย่าง แพนเค้ก กล้วย หอม สูตรคลีน รสชาติหวานน้อยแต่มาพร้อมกับความอร่อยเหมือนแพนเค้กสูตรดั้งเดิมเลยทีเดียว ซึ่งแพนเค้กไร้แป้งจะมีปริมาณแคลลอรี่น้อยทานแล้วน้ำหนักไม่เพิ่ม และไม่อ้วน ดังนั้นใครที่อยากลองทำแพนเค้กทานเองที่บ้าน ต้องไม่พลาดกับสูตรแพน เค้ก กล้วย หอม คลี น กลิ่นหอมชวนทาน ทำง่าย มือใหม่ก็ทำได้ 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องทำการเตรียม

แพน เค้ก กล้วย หอม
  1. ข้าวโอ๊ต 1 ½ ถ้วยตวง
  2. กล้วยหอม 1 ผล
  3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  4. น้ำมันรำข้าว 1 ช้อนชา
  5. เมเปิ้ลไซรัป 1 ช้อนชา
  6. นมถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ
  7. อัลมอนด์อบ 1 ช้อนโต๊ะ

สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก หรือคนที่แพ้แป้งสาลีสามารถลองทำขนมสูตรแพนเค้ก กล้วยหอม ไม่ ใส่ แป้งสาลีได้เลย รับรองว่ารสชาติ เนื้อขนมอร่อยเหมือนสูตรออริจินอลแน่นอน ในส่วนของส่วนผสมที่เป็นนมถั่วเหลืองสามารถเปลี่ยนเป็นนมอัลมอนด์ได้ตามใจชอบ 

แพน เค้ก กล้วย หอม
  1. ขั้นตอนแรกนำกล้วยที่เตรียมไว้มาปอกเปลือกให้เรียบร้อยแล้ว นำมาใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้จากนั้นบดให้ละเอียด พักไว้ก่อน ต่อมานำข้าวโอ๊ตใส่ในเครื่องปั่นทำการปั่นให้ละเอียด เทใส่กล้วยบด ตามไข่ไก่ นมถั่วเหลือง คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
  2. นำกระทะมาตั้งเตาใช้ไฟอ่อนๆ ใส่น้ำมันข้าวเล็กน้อย จากนั้นตักแป้งแพนเค้กลงไปในกระทะ เกลี่ยให้เป็นวงกลม รอให้เกิดฟองอากาศเล็กๆ และรอจนกว่าแป้งจะเป็นสีเหลือง เสร็จแล้วกลับด้านรอให้ดีแล้ว ตักออกใส่จาน ต่อมาให้ทำแป้งแพนเค้กแบบเดิมอีกประมาณ 3-4 แผ่น หรือจะทำมากกว่านี้ก็ได้ตามใจชอบ 
  3. นำขนมแพนเค้กที่ได้ราดไซรัป โรยหน้าขนมด้วยเมล็ดอัลมอนด์ ตามด้วยกล้วยหั่นเป็นชิ้นๆ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย 

ขนมแพน เค้ก กล้วยหอมที่ทำเองจะมีรสชาติหวานอ่อนๆ ของไซรัป และมีกลิ่นหอมอบอวลของข้าวโอ๊ตที่ทำเสร็จใหม่ๆ หากลองทานจะได้เนื้อสัมผัสของขนมแพนเค้กที่นุ่มนิ่มผสมผสานกับเนื้ออัลมอนด์ และเนื้อกล้วยหอมหวานเล็กน้อยได้อย่างตัว และที่สำคัญขนมแพนเค้กสูตรคลีนสามารถทำทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ทานอร่อยได้สุขภาพทั้งครอบครัว

แนะนำแพน เค้ก กล้วย หอม แคลต่ำ ทานคู่กับอะไรก็อร่อยได้สุขภาพ 

แพน เค้ก กล้วย หอม

แพนเค้กกล้วยหอม เป็นสูตรขนมที่สามารถทำได้ง่าย และมีส่วนผสมเพียงเล็กน้อย สำหรับใครที่ชอบทานโยเกิร์ตสามารถใช้เป็นวัตถุดิบเพิ่มเติมในสูตรแพน เค้ก กล้วย หอม ไร้ แป้งที่เรานำมาแชร์ได้เลย โดยขนมแพนเค้กที่ทำเสร็จแล้วจะมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว และหากทานคู่กับน้ำผึ้งเข้มข้นจะยิ่งทำให้ขนมมีรสชาติอร่อยและได้สุขภาพ เพราะในโยเกิร์ตมีส่วนช่วยระบบขับถ่ายดีขึ้น พร้อมทั้งเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และยังสามารถช่วยคุมน้ำหนักได้อีกด้วย ดังนั้นคนที่กำลังจะลดน้ำหนักสามารถทำแพนเค้กสูตรกล้วยหอมคลีนทานได้เองที่บ้าน รับรองว่าน้ำหนักลดอย่างแน่นอน 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

Categories
เบเกอรี่

ล้วงสูตรลับ!! แพน เค้ก แป้งนิ่ม หวานนุ่มลิ้น ทานคู่กับอะไรก็อร่อย

แพน เค้ก

หากใครที่เบื่ออาหารเช้าเมนูเดิมๆ ขอแนะนำ แพน เค้ก แป้งหนานุ่มวางทับรวมกันหลายๆ ชั้นน่าทานสุดๆ ในส่วนรสชาติหวานน้อยสไตล์คนรักสุขภาพทานแล้วไม่อ้วน และยิ่งทานตอนแป้งอุ่นๆ จะช่วยเพิ่มความอร่อยไม่มีเบื่อเลยทีเดียว ในปัจจุบันมีแป้งแพนเค้กสำเร็จรูปที่ช่วยให้สามารถทำขนมได้สะดวกสบายมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูขนมเบเกอรี่ที่ใช้เวลาทำไม่นาน แถมประหยัดเวลาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ขนมแพนเค้กสามารถทานร่วมกับน้ำผึ้งได้อร่อยอย่างลงตัวที่สุด 

สอนทำ แพน เค้ก สูตรลับ ทำง่าย แป้งหนานุ่ม หอมละมุน สไตล์โฮมเมด

แพน เค้ก

อาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน เพราะหากไม่ทานอาหารเช้าอาจจะทำให้เกิดผลเสียตามมาในอนาคตได้ ดังนั้นหากใครคิดเมนูอาหารไม่ออกว่าจะทำอะไรทานดีในช่วงเวลาที่เร่งรีบแบบนี้ ต้องไม่พลาดกับ แพน เค้กแป้งนุ่มๆ เมนูเบเกอรี่ง่าย ๆ ที่สามารถทำได้เองโดยใช้เวลาเพียงน้อยนิด อีกทั้งยังสามารถทำเผื่อคนในครอบครัวได้ด้วย ในส่วนของวิธีทำขนมปัง แพน เค้กก็มีขั้นตอนเพียงน้อยนิดคนไม่เคยทำขนมมาก่อนสามารถทำได้แน่นอน

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

แพน เค้ก
  1. แป้งเค้ก 150 กรัม
  2. เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
  3. น้ำตาลทราย 5 ช้อนชา
  4. ผงฟู 1 ช้อนชา
  5. นมสด 250 กรัม
  6. ไข่ 1 ฟอง
  7. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  8. น้ำผึ้ง 1 ขวด
  9. ผลไม้ตามใจชอบ 1 ถ้วยตวง
  10. น้ำมันรำข้าว 30 กรัม
  11. น้ำตาลไอซิ่ง 1 ช้อนชา

สำหรับสูตรแพนเค้กที่นำมาแชร์เป็นสูตรออริจินอลรสชาติดั้งเดิมหอมกลิ่นวานิลลาละมุนละไม และหลังจากที่เตรียมส่วนผสม แพน เค้กเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในลำดับถัดไปจะเป็นการลงมือทำ แพน เค้กแป้งนุ่มฟูอย่างง่ายดังนี้

แพน เค้ก
  1. มาเริ่มที่ขั้นตอนแรก นำนมสดมาผสมกับน้ำมันรำข้าว ไข่แดง กลิ่นวานิลลา น้ำตาลทราย และเกลือป่น คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เสร็จนำมาเทใส่แป้งเค้กที่เตรียมไว้ ตามด้วยผงฟู และเบกกิ้งโซดา ทำการตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากัน 
  2. ต่อมานำไข่ขาวมาตีให้เป็นฝองหยาบๆ จากนั้นใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีส่วนผสมให้ตั้งยอดปานกลาง ตักใส่ส่วนผสมแป้งแพนเค้กตะล่อมให้เข้ากัน หลังจากนั้นใส่ไข่ขาวที่เหลือลงไปคนส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
  3. นำกระทะมาตั้งเตาใช้ไฟอ่อนๆ ทากระทะด้วยไฟอ่อนๆ ตักแป้งแพนเค้กลงไป เกลี่ยให้เป็นวงกลม พอให้มีฟองปุดๆ เล็กๆ เมื่อแพนเค้กหน้าแพนเค้กเหลืองสุกดีแล้ว ให้ทำการพลิกกลับด้านอีกครั้ง หลังจากที่แป้งสุกทั้งสองด้านแล้วให้ทำการตักออกใส่จานก็จะได้ขนมแพนเค้กแป้งนุ่มๆ ราดด้วยน้ำผึ้ง โรยหน้าด้วยน้ำตาลไอซิ่ง และผลไม้ตามใจชอบพร้อมทาน
แพน เค้ก

หลังจากที่ได้ดูการทำแพนเค้กหนึ่งในเบเกอรี่ยอดนิยมไปแล้วจะเห็นได้ว่าสูตรและวิธีการทำแพน เค้ก ง่ายๆ ไม่ซับช้อน สำหรับส่วนผสมที่เป็นแป้งเค้กถ้าไม่อยากทำเองสามารถใช้แป้งแพน เค้ก สำเร็จรูปจะสะดวก และทำง่ายมากขึ้น เพียงแค่นี้ก็จะได้แพนเค้กขนมเบเกอรี่โฮมเมดแสนอร่อยรสชาติหวานละมุน หอมกรุ่นๆ อร่อยโดนใจ 

รู้หรือไม่! ขนมแพน เค้ก ขนมปังแป้งนุ่ม อร่อยดีมีประโยชน์

แพน เค้ก

ขนมแพน เค้ก เป็นขนมหวานที่สามารถทานได้ทั้งวัน และยังเป็นของว่างที่อิ่มท้องได้นาน หากทานคู่กับสตรอเบอร์รี่ และบลูเบอรี่จะช่วยเพิ่มรสชาติของขนมได้อร่อยจนหยุดไม่ได้เลยทีเดียว ที่สำคัญแพนเค้กยังเป็นเบเกอรี่ทำเองที่สามารถให้ประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะแป้งสาลี แพน เค้กเป็นคาร์โบไฮเดรตชั้นดีที่เป็นแหล่งพลังงานให้กับร่างกาย นอกจากนี้น้ำผึ้งยังเป็นแหล่งพลังงาน เพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกายเช่นกัน และที่สำคัญผลไม้ช่วยแก้ท้องผูกได้อีกด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

Categories
เบเกอรี่

สูตร นูกัต ขนมตังเมแสนหวาน เนื้อเหนียวหนึบหนับ รสชาติหวานมัน

นูกัต

หากไปเที่ยวประเทศไต้หวันเชื่อว่าหลายคนต้องเคยลองทานขนม นูกัต หรือเรียกอีกชื่อว่านูกัตฝรั่งเศส หนึ่งในขนมที่มีชื่อเสียงของไต้หวันอย่างแน่นอน ซึ่งในอดีตการทำขนมชนิดนี้จะต้องใช้แรงงานคนเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งขนมค่อนข้างเหนียวจึงต้องใช้แรงในการทำขนมค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีการทำขนมด้วยเครื่องจักรแทนการใช้แรงงานคน สำหรับขนมนูกัตคือ ขนมที่มีส่วนประกอบเป็นน้ำผึ้ง น้ำตาล ไข่ขาว และส่วนผสมที่ถั่ว ไม่ว่าจะเป็น อัลมอนด์ วอลนัท เฮเซลนัท เป็นต้น หรือบางสูตรอาจจะใช้ผลไม้แห้งอย่างเช่น แครนเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ ทำให้ขนมมีกลิ่นหอม รสชาติหวานอร่อยละมุนละไม

ชวนมาดูวิธีทำขนมยอดนิยม นูกัต ตังเมไต้หวัน ทำง่ายสไตล์โฮมเมค 

นูกัต

นู กัต หรือนูกาท์ ขนมที่มีชื่อเสียงของไต้หวัน มีรสชาติหวาน หอมละมุนละไม อร่อยกลมกล่อม และเนื้อเหนียวนุ่มหนึบหนับคล้ายกับขนมตังเมบ้านเรา จึงทำให้หลายคนเรียกขนมชนิดนี้อีกชื่อหนึ่งว่า ขนมตังเมไต้หวันนั่นเอง ซึ่งขนมชนิดนี้มีขายที่ประเทศไต้หวัน และตามร้านค้าออนไลน์ทั่วไปในบ้านเรา ทำให้ไม่ต้องเดินทางไปซื้อถึงต่างประเทศก็สามารถหาซื้อทานในไทยได้เช่นกัน หรือหากอยากลองทำเองที่บ้านในช่วงวันหยุดยาว วันนี้เรามีวิธีทำ Nougat รสชาติหวานอร่อย ที่มาพร้อมกับเนื้อแป้งกรุบกรอบที่อร่อยอย่างลงตัว แต่ก่อนที่จะไปดูขั้นตอนการทำขนมเบเกอรี่ง่ายๆ จะต้องเตรียมส่วนผสม และวัตถุดิบกันก่อนดังนี้

  1. เนยสดจืด 70 กรัม
  2. มาร์ชเมลโล่ 150 กรัม
  3. ผงโกโก้ 5 กรัม
  4. แครกเกอร์ 10 ชิ้น

ในส่วนวิตถุดิบ และส่วนผสมที่กล่าวมาเป็นสูตรแครกเกอร์นูกัตที่มีเนื้อเหนียวหนับ และกรุบกรอบ รสชาติหวาน หอมกลิ่นเนยสดอร่อยโดนใจ สำหรับบ้านไหนที่ไม่มีส่วนผสมที่เป็นผงโกโก้สามารถใช้ผงซ็อกโกแลตที่หาซื้อได้ตามร้านค้าสะดวกซื้อใกล้บ้านแทนได้ 

นูกัต
  1. ลำดับแรกนำเนยมาตั้งไฟอ่อนๆ จากนั้นเคี่ยวจนเนยละลาย เสร็จแล้วสามาร์ชเมลโล่ คนให้ละลาย เมื่อส่วนผสมละลายประมาณ 70-80% ให้ปิดไฟและยกออกจากเตา ทำการคนให้เนย และมาร์ชเมลโล่รวมเป็นเนื้อเดียวกัน
  2. จากนั้นเติมผงนม และผงโกโก้ลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากันดีแล้วให้พักไว้พออุ่นๆ นำมาปั้นเป็นไส้ก้อนกลมๆ นำมาวางบนแครกเกอร์ และใช้แครกเกอร์อีกชิ้นมาวางประกบกัน เมื่อทำการใส่ไส้ขนมทั้งหมดเรียบร้อยดีแล้วให้นำมาจัดใส่กล่อง ปิดฝาให้เรียบร้อย
นูกัต

เมื่อทำขนมเบเกอรี่อย่างแครกเกอร์สูตรนูกัตเสร็จเรียบร้อยแล้วก็นำมารับประทานได้เลย โดยขนมเบเกอรี่ทำเองจะมีรูปร่าง และรสชาติอร่อยเหมือนซื้อมาจากไต้หวันเลยทีเดียว แถมไส้เหนียวยืดๆ รสหวาน ทานแล้วไม่ติดฟัน ซึ่งเคล็บลับที่ไม่ทำให้ขนมติดฟันคือจะต้องไม่เคี่ยวมาร์ชเมโล่ในช่วงแรกนานเกินไป เพียงแค่นี้ก็จะได้ขนมสูตรเบเกอรี่โฮมเมดแสนอร่อยทานได้ทั้งวัน

สูตรนูกัต ออริจินอล เหนียวหนึบหนับ ทำง่ายนิดเดียว ไม่ยากอย่างที่คิด

นูกัต

สำหรับการทำนูกัต ขนมเบเกอรี่ยอดนิยมสูตรคัสตาร์ดออริจินอลสามารถทำได้ตัวเอง และวิธีการทำนั้นง่ายนิดเดียว แถมส่วนผสมมีเพียงน้อยนิด ซึ่งส่วนผสม และวัตถุดิบสามารถใช้ร่วมกับสูตรที่กล่าวมาข้างต้นได้เลย แค่ไม่ใส่แครกเกอร์ แต่เพิ่มอัลมอนด์หั่นครึ่ง จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดมาเคี่ยวให้เข้ากัน นำมาเทใส่กระดาษไข พับชายกระดาษเข้าหากัน ใช้ไม้นวดแป้งคลึงให้แป้งมีความหนาเท่ากัน จากนั้นใช้มีดตัดเป็นชิ้นๆ เสร็จแล้วนำเก็บเข้าตู้เย็น เพื่อเก็บรักษาให้ขนมมีอายุได้นานมากขึ้น และก่อนที่จะนำขนมออกมาทานควรทิ้งไว้ 10 นาที ให้ขนมนุ่ม และเหนียวเคี้ยวง่ายขึ้น 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: hilo-88.net

Categories
ขนมไทย

สูตร ข้าวเหนียวสังขยา ขนมโบราณ รสชาติหวานเข้มข้น หอมละมุน

ข้าวเหนียวสังขยา

สำหรับใครที่ยังต้องการขนมหวานทานคลายเครียดในวันที่เร่งรีบอย่างนี้ ต้องไม่พลาด เพราะเรามีขนมหวานๆ มาให้ลองหาชิมกันนั่นก็คือ ข้าวเหนียวสังขยา เป็นขนม หวาน ไทยที่มีรสชาติหวาน มัน หอมกลิ่นกะทิละมุน ที่มาพร้อมกับความหวานหอมของไส้สังขยาที่อร่อยมากๆ และเข้ากันกับข้าวเหนียวมูนได้เป็นอย่างดี สำหรับขนมข้าวเหนียวมูนหน้าสังขยาสามารถหาทานได้ง่าย และยังมีวิธีการทำที่ง่ายมากๆ หากใครไม่อยากซื้อทานสามารถทำทานได้เอง แถมเป็นการประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย ว่าแต่วิธีทำขนมจะง่ายขนาดไหนไปดูกันเลย

ขั้นตอนการทำ ข้าวเหนียวสังขยา ข้าวนุ่มนิ่ม หอมอร่อย ทำง่าย ไม่ยุ่งยาก 

ข้าวเหนียวสังขยา

วันนี้เรามีเมนูขนมหวานไทยๆ มาแนะนำให้ลองทำตามกัน เชื่อว่าทุกคนต้องทำได้ และรสชาติอร่อยแน่นอน สำหรับข้าวเหนียวสังขยา ขนมที่มีส่วนประกอบหลักเป็นข้าวเหนียวมูนรสชาติมัน เค็ม หอมกลิ่นกะทิอ่อนๆ และเพิ่มความอร่อยด้วยหน้าสังขยาที่มีรสชาติหวานหอมกลิ่นไข่ เมื่อทานคู่กับข้าวเหนียวมูนทำให้รสชาติอร่อยฟินทุกคำ และในส่วนของวิธีทำ และสูตรข้าวเหนียวสังขยาทำง่ายมาก แถมวัตถุดิบก็ใช้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากใครเป็นมือสามารถลองทำตามได้เลย

  1. หัวกะทิ 300 กรัม
  2. ไข่เป็ด 5 ฟอง
  3. ไข่ไก่ 5 ฟอง
  4. น้ำตาลมะพร้าว 200 กรัม
  5. เกลือป่น ½ ช้อนชา
  6. ใบเตยหั่น ½ ถ้วยตวง
ข้าวเหนียวสังขยา

วัตถุดิบ และส่วนผสมของข้าวเหนียวมูน

  1. ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 500 กรัม
  2. หัวกะทิ 300 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 150 กรัม
  4. เกลือป่น ½ ช้อนชา
  5. ใบเตยหั่น ½ ถ้วยตวง
  6. สารส้ม 1 ก้อน

สำหรับการทำขนมข้าวเหนียว สังขยา ในส่วนวัตถุดิบจะเป็นของข้าวเหนียวสังขยาไข่ เป็นสูตรขนม ไทย ทำ ง่ายๆ  โดยจะแบ่งขั้นตอนออกเป็นสองส่วน คือส่วนที่เป็นหน้าสังขยา และส่วนที่เป็นข้าวเหนียวมูน ซึ่งมีวิธีทำขนมมีดังต่อไปนี้

ข้าวเหนียวสังขยา
  1. มาเริ่มกันที่นำข้าวเหนียวมาล้างด้วยน้ำสะอาดผสมสารส้มจะช่วยให้เมล็ดข้าวเงางามขึ้น จากนั้นล้างข้าวเหนียวให้สะอาด แช่ข้าวทิ้งไว้ประมาณ 4 ชั่วโมง ทำการหุงข้าวด้วยการใส่น้ำลงไปในหม้อ ใส่ใบเตย เพื่อเพิ่มความหอม นำผ้าขาวบางมารองด้านล่าง จากนั้นใส่ข้าวแล้วนึ่งให้สุก 
  2. เมื่อข้าวเหนียวสุกแล้วให้ใส่นำมาทำข้าวเหนียวมูน ด้วยการนำหัวกะทิมาผสมกับข้าวเหนียว ใช้ไม้พายคนไปในทิศทางเดียวกัน พักไว้ 20 นาที และคนอีกครั้ง ทิ้งไว้ 20 นาที เพื่อให้น้ำกะทิซึมเข้าไปในข้าว 
  3. ต่อมาจะเป็นการทำสังขยา เริ่มจากนำไข่ไก่ และไข่เป็ดมาผสมในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นใสส่เกลือ น้ำกะทิ น้ำตาลมะพร้าว และใบเตย ใช้มือขยำให้เข้ากัน นำมานึ่งให้สุก และพักไว้ให้เย็น
  4. ตักข้าวเหนียวมูนใส่ในใบตอง จากนั้นนำใส่สังขยาเป็นหน้าข้าวเหนียว ทำการห่อให้สวยงาม เป็นเสร็จเรียบร้อย
ข้าวเหนียวสังขยา

จบลงไปแล้วกับเมนูขนมไทย ทำเองสูตรข้าวเหนียวมูน หน้าสังขยา รสชาติหวาน หอมกลิ่นกะทิ ทานได้ทุกวัน และยังอิ่มอร่อยอีกด้วยนะ แต่ถ้าลองทำขนมข้าวเหนียวมูนสูตรอื่นบ้าง ขอแนะนำ ข้าวเหนียวสังขยาหน้ากุ้ง หอมอร่อยชวนทานที่สุด และยังทำง่ายนิดเดียว

เปิดเทคนิคการทำ ขนมข้าวเหนียวสังขยา หวานละมุน สไตล์ทำเอง 

ข้าวเหนียวสังขยา

ข้าวเหนียว สังขยา ถือว่าเป็นขนมที่มีรสชาติอร่อย และยังเป็นขนมที่มีหลากหลายสูตร และแต่ละสูตรมีความอร่อยแตกต่างกันไป โดยข้าวเหนียวสังขยาหน้าต่างๆ ที่ได้รับความนิยม อาทิ หน้ากุ้ง หน้ามะพร้าว และหน้าปลาแห้ง แต่ที่นิยมทานมากที่สุดจะเป็นหน้าสังยาไข่ที่มีความนุ่ม และหวานมัน สำหรับเทคนิคการทำขนมสังขยาขนม ไทย ง่ายๆ ให้น่าทาน ในขั้นตอนการนึ่งสังขยาต้องใช้ไฟอ่อนๆ และค่อยๆ นึ่งไปเรื่อยๆ และต้องไม่ให้น้ำหยดลงขนมจะช่วยให้หน้าขนมเรียบเนียนชวนทาน นอกจากนี้การเตรียมข้าวเหนียวมูนถ้าอยากให้ข้าวเม็ดเงางามสามารถใช้สารส้มล้างข้าวให้เงางามได้ รับรองหากทำตามเทคนิคที่กล่าวมานั้นจะต้องทำขนมออกมาได้น่าทานแน่นอน 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: ufaball.bet

Categories
ขนมไทย

นำเสนอสูตร ขนมมันสําปะหลัง เนื้อนุ่มหนึบหนับ หวานมันอร่อย

ขนมมันสําปะหลัง

เชื่อว่าหลายคนยังไม่ทราบว่ามันสำปะหลังสามารถนำมารับประทานได้ด้วย ซึ่งคนในสมัยก่อนจะนำมาทำขนมทานกันครอบครัว เพราะมันสำปะหลังเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ตามบ้านเรือน แต่มันสำปะหลังที่นำมารับประทานต้องเป็นสายพันธุ์ห้านาทีเท่านั้น โดยลักษณะของมันชนิดนี้จะมีหัวขนาดใหญ่ เนื้อแป้งเรียบเนียน โดยมักจะนิยมนำมาทำ ขนมมันสําปะหลัง เนื้อนุ่มหนึบหนับ ผสมผสานกับความหวานละมุน และมะพร้าวขูดได้อย่างลงตัว แถมยังเป็นขนมไทย โบราณที่ทานแล้วไม่อ้วน และอิ่มท้องนานทานได้ทั้งวันไม่เบื่อ แต่อย่างไรก็ตามขนมชนิดนี้ค่อนข้างหาทานได้ยาก เพราะมีขายเฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น สำหรับใครอยากทานขนมแสนอร่อยนี้ เรามีสูตรขนม หวาน ไทย อย่างมันสัมปะหลัง เนื้อนุ่ม หวานกลมกล่อมมาให้ได้ทำทานด้วยตัวเอง รับรองว่าทำได้อร่อยโดนใจแน่นอน

วิธีทำ ขนมมันสําปะหลัง มะพร้าวขูด เนื้อหวานละมุน อร่อยกลมกล่อม

ขนมมันสําปะหลัง

หากไม่รู้จะทำขนมอะไรทานดีในช่วงวันว่างๆ ขอเสนอขนมมันสําปะหลัง หนึ่งในขนม ไทย ทำ ง่ายๆ รสชาติหวานน้อย แต่อร่อยกลมกล่อม ทานแล้วไม่อ้วน เพราะเป็นขนมไทย ไร้แป้ง เนื้อนุ่ม หนึบหนับ ทานได้ไม่มีเบื่อ สำหรับสูตรขนมที่จะพาลองทำนั้นเป็นสูตรขนมมันสำปะหลังคลุกมะพร้าวขูดแสนอร่อยสามารถทำได้เอง โดยไม่ต้องตะเวนหาซื้อทานให้เสียเวลา อีกทั้งขนมชนิดนี้ยังหาทานได้ยากอีกด้วย

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

  1. มันสำปะหลังพันธุ์ห้านาที 2 กิโลกรัม
  2. น้ำตาลทรายขาว 700 กรัม
  3. มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 1 ถ้วยตวง
  4. เกลือป่น 1 ช้อนชา

สำหรับมันสัมปะหลังที่นำมาทำขนมจะต้องเลือกหัวที่ไม่แก่เกินไป เพราะถ้าใช้หัวมันแก่จะมีเสี้ยนเยอะ ทำให้ขนมมันสัมปะหลังเนื้อไม่เรียบเนียน และไม่อร่อย เมื่อได้ส่วนผสมทั้งหมดแล้วเรามาลงมือทำขนมไทย ทำเองแสนอร่อยกันเลย

ขนมมันสําปะหลัง
  1. นำหม้อมาตั้งเตา ใส่น้ำ จากนั้นใส่ใบเตยลง ต้มไปเรื่อยๆ จนกว่าน้ำจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว และมีกลิ่นหอม ปิดไฟ พักวไว้ก่อน
  2. ต่อมานำมันสำปะหลังมาปลอกเปลือก คว้านไส้แข็งๆ ออก นำไปล้างน้ำ 2-3 รอบ จนกว่าน้ำจะใส และไม่ขุ่น จากนั้นนำมาขูดเป็นฝอยๆ ใส่ลงไปในชาม ตามด้วยน้ำตาลทราย ใส่น้ำต้มใบเตยใช้มือนวดไปเรื่อยๆ จนกว่าน้ำตาลทรายจะละลายดี และได้มันที่มีเนื้อเนียน ตักมันใส่ถาดเกลี่ยให้หน้าเรียบเนียน นำไปนึ่งให้สุกประมาณ 30 นาที หลังจากที่นึ่งมันสุกแล้ว ยกออกจากถากหม้อนึ่ง พักไว้ให้ขนมเย็นลง 
  3. นำมะพร้าวขูดทึนทึกที่เตรียมไว้มานึ่งให้สุกประมาณ 5 นาที ใส่เกลือป่นคลุกเคล้าให้เข้ากัน หลังจากนั้นใช้มีดตัดเป็นชิ้นๆ นำมะพร้าวขูดมาคลุกเคล้ากับขนมให้เข้ากัน จากนั้นตักใส่จาน โรยด้วยมะพร้าวขูดเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ขนมมันสําปะหลัง

สำหรับขนมมันสำปะหลังไร้แป้งที่ทำเองนั้นจะมีเนื้อมันที่นุ่มๆ หวานอร่อยกำลังดี และยังได้กลิ่นมะพร้าวนึ่งเสร็จใหม่ๆ หอมกรุ่นเข้ากันกับขนมเป็นอย่างดี และหากได้ทานคู่กับน้ำชายิ่งเพิ่มความอร่อยมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นขนมหวานที่อร่อย แถมวิธีทำก็ง่ายนิดเดียว เหมาะสำหรับทำทานกันในครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง

สูตร (ไม่) ลับ ขนม มันสําปะหลัง เนื้อนุ่มนิ่ม หวานอร่อยกำลังดี

ขนมมันสําปะหลัง

ขนมมันสําปะหลังเป็นสูตร ขนม ไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และยังสามารถทำทานได้เอง โดยไม่ต้องซื้อทาน ซึ่งวิธีทำมันสำปะหลังขนม ไทย ง่ายๆ ให้อร่อยนั้นจะต้องไม่ใส่แป้งทุกชนิด เพราะหากใส่แป้งจะทำให้ขนมมีเนื้อแข็ง เหนียวเคี้ยวไม่ได้ แต่ควรใช้เนื้อมันสำปะหลังขูดฝอยๆ แล้วนำมาคลุกเคล้ากับน้ำตาลจะทำให้เนื้อขนมนุ่มนิ่ม หนึบหนับ นอกจากนี้ควรเลือกใช้มะพร้าวทึนทึกที่ขูดแล้วมีสีขาว เนื้อแน่น ทานแล้วกรุบกรอบ แต่ไม่ควรใช้มะพร้าวอ่อน เพราะไม่เหมาะกับการนำมาทำขนมมันสำปะหลัง และที่สำคัญรสชาติขนมไม่อร่อยอีกด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

Categories
เบเกอรี่

ขนมสุดเก๋ พานาคอตต้า เปรี้ยว หวาน มัน กลิ่นหอมชวนชิม

พานาคอตต้า

อีกหนึ่งขนมอิตาเลี่ยนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย และเชื่อว่าหลายคนยังไม่คุ้นชินมากนัก สำหรับ พานาคอตต้า เป็นขนมที่มีเนื้อนุ่มเด้งคล้ายเจลาติน รสชาติหวาน หอม ที่มักจะมีรูปร่างสุดคิ้วชวนทาน และมักจะตกแต่งหน้าขนมด้วยผลไม้นานาชนิดสีสันสวยงาม และหากนำไปแช่ในตู้เย็นจะทำให้ขนมมีความหวานฉ่ำอร่อยชื่นใจ เหมาะกับสภาพอากาศร้อนๆ ในช่วงนี้เป็นที่สุด สำหรับขนมพานา คอตต้าสามารถหาซื้อทานได้ตามร้านสะดวกซื้อชั้นนำ หรือร้านคาเฟ่ต่างๆทั่วไป อีกทั้ยังเป็นขนมที่มีราคาไม่แพงนักเรียนก็สามารถซื้อทานได้

แชร์วิธีทำ พานาคอตต้า เนื้อเนียนเด้ง หอมอบอวล อร่อยไม่มีเบื่อ

พานาคอตต้า

หากใครกำลังหาขนมหวานๆ คลายร้อนอยู่ตอนนี้ ขอแนะนำ พานา คอตต้า ขนมที่มีชื่อสุดเก๋ไม่ช้ำใคร แถมยังมีรสชาติอร่อย กลิ่นหอมละมุน ซึ่งหากใครที่ได้ลองทานแล้วรับรองต้องติดใจหาซื้อทานอีกแน่นอน และยิ่งสภาพอากาศร้อนแบบนี้ต้องทานขนมพา นาค อ ต ต้า ชาเขียว หอมอร่อยชื่นใจสุดๆ แต่สำหรับที่ชอบทำขนมทานเอง เราก็มีวิธีทํา พานาคอตต้าอย่างง่ายๆ ที่ทำแล้วออกมาสวยน่าทานมาให้ได้ติดตาม และสูตรที่ใช้ทำนั่นก็คือ พานาคอตต้าสตรอเบอรี่ เนื้อสตรอเบอร์รี่ฉ่ำๆ หวานชื่นใจ 

พานาคอตต้า

วัตถุดิบ และส่วนผสมของเนื้อขนม

  1. วิปปิ้งครีม 1 ถ้วยตวง
  2. เจลาติน 4 แผ่น
  3. น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง
  4. นมสด ½ ถ้วยตวง
  5. ผลสตรอเบอร์รี่ ½ ถ้วยตวง
  6. วานิลลา ½ ช้อนชา

วัตถุดิบ ส่วนผสมของซอสสตรอเบอร์รี่

  1. สตรอเบอร์รี่ ½ ถ้วยตวง
  2. เจลาติน 2 แผ่น
  3. น้ำมะนาว ½ ช้อนชา
  4. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

ก่อนที่จะไปลงมือทำขนมเบเกอรี่ง่ายๆ อย่างพานาคอตต้า เรามาดูความแตกต่างของขนมพานาคอตต้า กับ พุดดิ้ง โดยขนมพานาคอตต้าจะมีเนื้อที่เนียนละเอียด และรสชาติหวานมะมุน และที่สำคัญมีกลิ่นหอมชวนทานมากกว่าพุดดิ้งนั่นเอง และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาลงมือทำขนมแสนอร่อยสไตล์เบเกอรี่โฮมเมดกันเลย

พานาคอตต้า
  1. ลำดับแรกนำแผ่นเจลาตินมาแช่ในน้ำเย็นจัด เป็นเวลา 10 นาที และในระหว่างที่รอแผ่นเจลาตินนุ่ม เราทำเนื้อขนมกันเลย โดยเริ่มจากใส่วิปปิ้งครีม และนมสดลงไปในหม้อนำไปตั้งเตาพร้อมเปิดไฟปานกลาง พอนมเริ่มร้อนให้ใส่น้ำตาลทรายลงไป จากนั้นนำแผ่นเจลาตินลงไปคนให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ปิดไฟ และใส่กลิ่นวานิลลาลงไป คนให้เข้ากัน
  2. นำสตรอเบอร์รี่มาปั่นให้ละเอียด จากนั้นนำลงไปใส่หม้อตั้งไฟอ่อนๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไปคนส่วนผสมทั้งหมดให้ละลาย ใส่น้ำมะนาว และเจลาตินลงไป คนไปสักพักให้ยกออกจากเตา 
  3. ตักเนื้อพานอคอตใส่พิมพ์ นำไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที ใส่ซอสสตรอเบอร์รี่ลงไป นำไปแช่เย็นอีกครั้ง พร้อมทานได้
พานาคอตต้า

หลังจากได้ขนมพานาคอตต้าหนึ่งในเมนูเบเกอรี่ยอดนิยมเรียบร้อยแล้วสามารถตกแต่งหน้าขนมด้วยผลสตรอเบอร์รี่ลูกใหญ่ฉ่ำๆ สีสันสวยงาม ซึ่งหากได้ลองชิมขนมแล้วจะรับรู้ถึงรสชาติหวานอมเปรี้ยว หอมกลิ่นวานิลลาอ่อนๆ อร่อยจนอยากทำเพิ่มอีกหลายแก้วเลยทีเดียว 

เพิ่มความอร่อย ขนม พานาคอตต้า หลากหลายรสชาติ ทำง่าย มือใหม่ก็ทำได้

พานาคอตต้า

พานาคอตต้าถือว่าเป็นเบเกอรี่ที่มีหลากหลายสูตร หลากหลายรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นสูตรเสาวรส ลิ้นจี่ และอีกหนึ่งสูตรที่อยากแนะนำให้ลองทำอย่าง สูตรราสป์เบอร์รี่ สีแดงสดใส และรสชาติ หวาน หอม มัน อร่อยครบรส ในส่วนวิธีทำก็สามารถทำตามสูตรสตรอเบอร์รี่ได้เลย เพียงแต่เปลี่ยนสตรอเบอร์รี่เป็นผลไม้ชนิดอื่นๆ ดังนั้นถ้าใครอยากทำขนมพานาค็อตตาเมนูเบเกอรี่ทำเองง่ายๆ ก็สามารถทำตามสูตรที่กล่าวมาข้างต้นได้เลย ส่วนน้ำซอสผลไม้สามารถเลือกได้ตามใจชอบ

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: hilo-88.net

Categories
เบเกอรี่

แจกสูตรขนม เค้กเรดเวลเวท ขนมแห่งความรัก รสหวานฉ่ำ สีแดงสดใส

เค้กเรดเวลเวท

ในช่วงเทศกาลแห่งความรักผู้คนมักซื้อสิ่งของต่างๆ ที่สื่อถึงความรักเป็นของขวัญให้กับคนพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น ดอกไม้ ช็อกโกแลต แต่อีกหนึ่งอย่างที่สื่อถึงความรักได้เช่นกันนนั่นก็คือ เค้กเรดเวลเวท ขนมเค้กแป้งนุ่มที่มาพร้อมกับสีแดงสดใส รสชาติหวานละมุน หอมกลิ่นชีสเข้มข้นอร่อยโดนใจ ถ้าหากได้ทานแล้วจะต้องติดอกติดใจแน่นอน แถมเค้กเรดเวล เวทยังเป็นขนมที่สื่อถึงความรักได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญขนมเค้ก เรดเวลเวท ยังเป็นขนมที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองด้วยนะ

เปิดครัวชวนทำ เค้กเรดเวลเวท นุ่มนิ่ม หวานละมุน ทำได้ด้วยตัวเอง 

เค้กเรดเวลเวท

สำหรับใครกำลังมองหาขนมหวานแสนอร่อยทานในช่วงวันหยุด ขอแนะนำขนมเค้กเรดเวลเวท หนึ่งในขนมยอดนิยมของวัยรุ่น และยังเป็นขนมที่ชาวคาเฟ่สั่งมาถ่ายรูปชิคๆ คูลๆ ลงโซเซียล เพราะนอกจากขนมจะน่าตาน่าทานแล้วยังมีรสชาติหวานนุ่มละลายในปาก แต่อยากลองทำทานเอง เราก็มีสูตรขนมเรดเวลเวท เค้กนุ่มๆ ทำง่ายๆ มาให้ลองทำตามกัน หรือจะทำให้คนพิเศษในวันพิเศษก็ได้เช่นกัน

วัตถุดิบ และส่วนผสมของแป้งเค้ก

  1. แป้งเค้ก 130 กรัม
  2. เนยสดละลาย 2 ช้อนชา
  3. น้ำตาลทราย 90 กรัม
  4. นมสด 50 กรัม
  5. ไข่ไก่ 3 ฟอง
  6. นมข้นจืด 50 กรัม
  7. เกลือ ½ ช้อนชา
  8. ผงฟู 2 ช้อนชา
  9. กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา
  10. ผงโกโก้ 30 กรัม
  11. น้ำส้มสายชู 10 กรัม
  12. สีผสมอาหาร (สีแดง) 1 ช้อนโต๊ะ
เค้กเรดเวลเวท

ส่วนผสม และวัตถุดิบของครีมชีส

  1. เนยจืด 195 กรัม
  2. น้ำตาลไอซิ่ง 190 กรัม
  3. น้ำมะนาว 20 กรัม
  4. เกลือ 1/6 ช้อนชา
  5. ครีมชีส 300 กรัม

สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ทำขนมเบเกอรี่ที่ต้องเตรียมเพิ่มเติมคือ ถาดอบเค้ก กระดาษไข สำหรับรองแป้งเค้ก และในส่วนของสีที่ใช้ผสมหากอยากใช้สีธรรมชาติ แนะนำให้ใช้บีตรูต นำมาปั่นคั้นเอาแต่น้ำ ต่อมาจะมาดูวิธีทำขนมเค้กเบเกอรี่ทำเอง ดังนี้

เค้กเรดเวลเวท
  1. นำไข่ตอกลงไปในภาชนะ ตามด้วยนมจืด นมสด เกลือ กลิ่นวานิลลา และนมข้นจืด จากนั้นร่อนแป้ง ผงฟู น้ำตาลทรายลงไป ตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน หลังจากที่แป้งเป็นเนื้อเดียวกันเรียบร้อยแล้ว ใส่ผงโกโก้ กับน้ำส้มสายชู สีผสมอาหารตามลงไป ใช้เครื่องตีส่วนผสมให้เข้ากันจนกว่าแป้งจะเป็นเนื้อเดียวกัน ใส่เนยละลายตีส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง 
  2. นำถาดอบขนมมารองด้วยกระดาษไข จากนั้นเทแป้งเค้กลงไป ถาดหน้าแป้งให้เรียบเนียน นำไปเข้าเตาอบขนมที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส เปิดไฟล่าง อบประมาณ 15-20 นาที เอาออกมาพักไว้ให้เย็น
  3. ในลำดับต่อมาจะเป็นขั้นตอนการเตรียมชีส โดยการใส่ครีมชีส เนยจืด ลงไปในโถตีแป้ง ใช้หัวใบพายตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เติมน้ำตาลไอซิ่งลงไป ตีส่วนผสมให้เนื้อเนียนสวย ใส้น้ำมะนาว ตีให้ส่วนผสมเข้ากัน เทใส่ถุงบีบ 
  4. นำเค้กที่เตรียมไว้ นำมากลับด้านเนื้อเค้ก และออกกระดาษไขออก นำพิมพ์รูปหัวใจมากดลงในแป้งเค้ก ตกแต่งหน้าเค้กด้วยครีมชีสให้สวยงาม
เค้กเรดเวลเวท

สำหรับสูตรเค้ก เรดเวลเวทที่ทำเองสามารถทำเป็นรูปร่างต่างๆ ได้ตามที่ต้องการ ไม่จำเป็นต้องทำรูปหัวใจก็ได้เช่นกัน ในส่วนของวิธีทำขนมเค้กเบเกอรี่ง่าย ๆ ขั้นตอนไม่ซับช้อนอย่างที่คิด แถมยังทำออกเหมือนสูตรดั้งเดิมทุกประการ และรสชาติอร่อยด้วย

เผยขนม เค้กเรดเวลเวท สูตรคัพเค้ก หวานเข้มข้น ก้อนกลม สุดคิ้วท์ 

เค้กเรดเวลเวท

ขนมเค้กเรดเวลเวทสามารถทำได้หลายสูตร และหนึ่งในนั้นคือ คัพเค้กเรดเวลเวท เป็นสูตรเบเกอรี่โฮมเมดที่มีรูปร่างสุดน่ารัก ซึ่งวิธีทำนั้นไม่ยากสามารถทำตามสูตรที่แชร์ข้างต้นได้เลย โดยการนำแป้งที่ผสมส่วนผสมทั้งหมดมาบีบใส่พิมพ์กระดาษ จากนั้นนำเข้าตู้อบได้เลย เพียงเท่านี้ก็จะได้ขนมคัพเค้กเบเกอรี่ยอดนิยมสีแดงสดใส และตกแต่งหน้าด้วยครีมชีสให้สวยงาม เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เรียกได้ว่าเค้กเรดเวลเวท คือ ขนมที่สามารถทำเองได้โดยไม่ต้องออกไปซื้อที่ร้าน แถมยังสามารถทำขายสร้างกำไรรายได้ดีมากขึ้น

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: ufaball.bet

Categories
เบเกอรี่

แจกสูตรขนม กระยาสารท ขนมหวานโบราณ แสนอร่อย อัดแน่นด้วยธัญพืช

กระยาสารท

กระยาสารท เป็นหนึ่งในกลุ่มเมนูขนม โบราณที่นิยมใช้ในงานบุญในสมัยก่อน โดยเป็นขนมที่มีความสำคัญกับพระพุธศาสนามาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ สำหรับขนมข้าว กระยาสารทจะใช้ในงานบุญเดือนสิบ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วันสารทไทย ซึ่งเป็นสำคัญอีกวันหนึ่งของไทยเรา โดยกระยาสารทหมายถึง การอุทิศส่วนกุศลให้กับญาติ หรือบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว แต่ปัจจุบันขนมชนิดนี้มีการทำขายตลอดทั้งปี โดยสามารถหาซื้อทานได้ตามตลาดนัด หรือร้านขายขนมหวานไทยใกล้บ้าน ในส่วนของรสชาติต้องบอกเลยว่าหากได้ลองชิมแล้วต้องติดใจแน่นอน เพราะเป็นขนมที่มีรสชาติหวาน หอมกลิ่นธัญพืช 

แชร์ขั้นตอนการทำขนม กระยาสารท ขนมธัญพืชโบราณ ทำง่าย อร่อยถูกใจ

กระยาสารท

มาเอาใจสายขนมโบราณที่ชอบทานของหวานอยู่เป็นประจำ โดยเมนูที่เราจะแนะนำถือว่าเป็นเมนูขนมอร่อยมีประโยชน์ต่อร่างกาย และเมนูนั้นก็คือ ขนมกระยาสารท เป็นขนมไทยที่ใช้วัถตุดิบหลักๆ เป็นธัญพืชต่างๆ ที่มาพร้อมกับความหวานละมุนทานได้ทุกวันไม่มีเบื่อ แถมยังได้ประโยชน์มากมายจากกลุ่มธัญพืชที่นำมาทำขนมอีกด้วย สำหรับใครอยากทำทานเอง วันนี้เรามีสูตรกระยาสารท วิธีทำขนมอย่างง่ายสามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน ไม่ยุ่งยาก แถมยังได้ทานขนมไทย โบราณที่มีประโยชน์เต็มอิ่ม

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมทำขนม

กระยาสารท
  1. น้ำกะทิ 300 กรัม
  2. แบะแซ 200 กรัม
  3. น้ำตาลโตนด 300 กรัม
  4. เกลือ ¼ ช้อนชา
  5. ข้าวเม่า 200 กรัม
  6. แมกคาเดเมีย 100 กรัม
  7. ข้าวตอก 100 กรัม
  8. งาดำ และงาขาว 100 กรัม
  9. เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 100 กรัม
  10. น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

ขนมข้าวกระยาสารทจะใช้วัตถุดิบที่เป็นธัญพืชเป็นส่วนประกอบหลักในการทำขนม โดยปกติทั่วไปจะใช้ถั่วลิสง แต่สูตร ขนม ไทยที่ทำเองจะใช้แมกคาเดเมียแทน เพราะมีความหอม และอร่อยกว่าถั่วลิสง นอกจากนี้หากที่บ้านไม่มีน้ำตาลโตนดสามารถใช้น้ำตาลทรายแทนได้เช่นกัน ในลำดับถัดมาจะเป็นวิธีทำขนม ไทย ง่ายๆ ไม่ยากดังนี้

กระยาสารท
  1. ในขั้นตอนแรกเราจะทำการคั่วข้าวตอก โดยนำหม้อมาตั้งเตาจากนั้นเปิดไฟอ่อนๆ ใส่ข้าวตอกลงไป คนข้าวตอกเรื่อยๆ เพื่อให้ข้าวตอกได้รับความร้อนอย่างทั่วถึง เมื่อข้าวตอกสุกแล้วให้ยกออกจากเตา ปิดไฟ และยกออกจากเตา พักไว้ให้เย็น หรือถ้ามีเตาอบสามารถนำข้าวตอกเข้าอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 นาที 
  2. นำกระทะมาตั้งเตา ใช้ไฟปานกลาง จากนั้นใส่กะทิ เกลือ กะทิ และน้ำตาล คนจนกว่าส่วนผสมละลายดี และเติมแบะแช เคี่ยวจนเป็นยางมะตูม ใส่น้ำมะนาว ตามด้วยข้าวตอก พร้อมใส่ข้าวเม่า แมกคาเดเมีย เม็ดมะม่วงหิมะพานต์ คนให้เข้ากัน โรยด้วยงา จากนั้นนำมาเทใส่ถาด ใช้ไม้คลึงแป้งกดให้เรียบ และตัดเป็นชิ้นๆ จัดวางใส่จานทานได้เลย
กระยาสารท

สำหรับวิธีการทำขนมไทย ทำเองอย่างกระยาสารทนั้นจะเห็นว่าทำง่ายมากๆ แถมยังได้ทานขนมหวานที่หอมอร่อย รสชาติหวานละมุน และที่สำคัญยังเป็นขนมที่ทานแล้วอิ่มท้องนาน เพราะอุดมไปด้วยธัญพืชที่หลากหลายชนิด เหมาะสำหรับทานรองท้องในวันที่เร่งรีบสุดๆ 

สูตรขนมกระยาสารท ขนมหวานธัญพืช อร่อยมีประโยชน์เหลือล้น

กระยาสารท

กระยาสารทนอกจากจะเป็นขนม ไทย ทำ ง่ายๆ และรสชาติอร่อยไม่จำเจแล้วยังเป็นขนมที่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย สำหรับใครกำลังลดน้ำหนักสามารถทานขนมชนิดนี้ในช่วงท้องว่างได้ แถมยังช่วยให้สุขภาพดีอีกด้วย เพราะกระยาสารท ประโยชน์มากมาย อาทิ ช่วยฟื้นฟูพลังงานหลังออกกำลังกายหนักๆ เนื่องจากในส่วนผสมของขนมเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วย โปรตีน ไขมัน วิตามิน และธาตุเหล็กต่างๆ ที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น

อ่านบทความเพิ่มเติม:

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

Categories
เบเกอรี่

ขนมสุดน่ารัก ชีสเค้ก Tom & Jerry เนื้อนุ่ม หอมชีส สีสวยน่าทาน

ชีสเค้ก Tom & Jerry

อีกหนึ่งขนมยอดนิยมอย่าง ชีสเค้ก Tom & Jerry ขนมแสนอร่อยของเจ้าหนูJerry รสชาติหวาน เนื้อเค้กนุ่มนิ่ม หอมกลิ่นชีสชวนทาน ที่มาพร้อมกับความโดดเด่นของรูปร่างคล้ายก้อนชีสสุดๆ นอกจากนี้ขนมTomand JerryCheesecake ถือว่าเป็นขนมที่หาทานได้ยาก ถึงแม้จะมีขายตามร้านคาเฟ่แต่มีเฉพาะร้านดังๆ หรูๆ เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ขนมชนิดนี้จะหาทานยาก แต่ก็ใช่ว่าทำทานเองไม่ได้ ซึ่งสูตร และวิธีทำชีสเค้กเจอรี่ง่ายมาก แถมไม่ต้องใช้เตาอบ และใช้อุปกรณ์การทำขนมเพียงน้อยนิด 

วิธีทำขนม ชีสเค้ก Tom & Jerry สีเหลืองสวยงาม ก้อนเล็ก สุดน่ารัก

ชีสเค้ก Tom & Jerry

สำหรับใครที่เป็นสายขนมชีสต้องลองทานขนม ชีสเค้ก Tom&Jerry ก้อนเล็กน่ารัก ที่สามารถทำทานได้ด้วยตัวเอง แถมขนมชีสเค้ก ทอมแอนด์ เจอร์ รี่ วิธี ทำง่ายๆ ไม่ยากอย่างที่คิด แต่ก่อนที่จะไปทำขนมเราต้องมาทำความรู้จักกับชีส ทอมแอนด์ เจอร์ รี่ คือ ชีส อะไร สำหรับขนมชนิดนี้เป็นเบเกอรี่ยอดนิยมอย่างมากประมาณ 3 ปีที่แล้ว โดยจุดเริ่มต้นมากจากเชฟเกาหลีได้ทำขนมเค้กJerry ที่มีลักษณะเป็นก้อนสามเหลี่ยม สีเหลือง รสชาติหวานละมุน หอมกลิ่นชีสอ่อนๆ กำลังดี 

วัตถุดิบ และส่วนผสมของครีมชีส

  1. ไวท์ช็อคโกแลต 70 กรัม
  2. ครีมชีส 150 กรัม
  3. วิปปิ้งครีม 100 กรัม
  4. กลิ่นวานิลาลา ½ ช้อนชา
ชีสเค้ก Tom & Jerry

วัตถุดิบ และส่วนผสมของตัวเคลือบชีสเค้ก

  1. ไวท์ช็อคโกแลต 250 กรัม
  2. เจลผสมอาหารสีเหลือง ½ ช้อนชา

ส่วนผสมของแคร็กเกอร์

  1. เนยละลาย 30 กรัม
  2. ไดเจสทิฟบิสกิต 50 กรัม

สำหรับสูตรที่นำมาแจกนั้นเป็นสูตร ชีสเค้ก ทอมแอนด์เจอร์รี่ แบบไม่ต้องใช้เตาอบก็สามารถทำขนมเบเกอรี่ได้ โดยสามารถทำตามวิธีทำชีสเค้กเบเกอรี่ง่าย ๆ ได้ดังนี้

ชีสเค้ก Tom & Jerry
  1. ขั้นตอนแรกนำไวท์ช็อคโกแลตไปตุ๋นละลายเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำไปแช่ในโถน้ำเย็นแล้วทำการนำมาตุ๋นใหม่อีกรอบ จากนั้นใช้เจลผสมอาหารที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในไวท์ช็อกโกแลตผสมให้เข้ากัน หลังจากนั้นนำมาหยดใส่พิมพ์ซิลิโคนรูปชีส และกลิ้งไวท์ช็อกโกแลตให้ทั่วรูปพิมพ์ นำพิมพ์ไปแช่ตู้เย็น
  2. ต่อมาจะเป็นการทำตัวเค้ก เริ่มจากนำไวท์ช็อกโกแลตไปตุ๋นให้ละลาย จากนั้นยกมาพักให้คลายร้อน เสร็จแล้วนำแคร็กเกอร์มาบด และทำการผสมกับเนยละลาย นำครีมชีสมาใส่ในชามผสม และใช้ตะกร้อไฟฟ้าตีให้ชีสอ่อนตัว ใส่วิปปิ้งครีม และกลิ่นวานิลลาลงไป ตีส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง ตามด้วยไวท์ช็อกโกแลตตีส่วนผสมให้เข้ากัน แล้วเทใส่ถุงบีบ
  3. นำพิมพ์ออกจากตู้เย็น นำถุงบีบที่เตรียมไว้มาบีบครีมชีสลงไปในพิมพ์ครึ่งเดียว จากนั้นใส่บีสกิตตามด้วยครีมชีสอีกชั้น เสร็จแล้วนำไวท์ช็อกโกแลตมาเคลือบอีกครั้งปาดให้เรียบ นำไปแช่ในตู้เย็น 1 ชั่วโมง เมื่อครีมชีสเชตตัวดีแล้วให้นำออกมาจากพิมพ์จัดใส่จานได้เลย
ชีสเค้ก Tom & Jerry

ขนมชีสเค้กทอมแอ็นด์เจอรี่สูตรเบเกอรี่ทำเองสามารถเก็บไว้ได้นานประมาณ 2-3 วัน โดยเก็บรักษาไว้ในตู้เย็น และถ้าอยากทานขนมให้อร่อยควรนำไปแช่ในตู้เย็นก่อนนำมารับประทานจะช่วยเพิ่มรสชาติให้ขนมมีความหวานเย็น หอมกลิ่นชีสสุดฟอิน 

แชร์สูตร ชีสเค้ก Tom & Jerry สูตรน้ำตาลน้อย ทานอร่อย 

ชีสเค้ก Tom & Jerry

ใครที่ไม่ชอบทานขนมหวานมากเกินไป ต้องไม่พลาดกับขนมชีสเค้ก Tom & Jerry สูตรเบเกอรี่โฮมเมดน้ำตาลน้อย รสชาติละมุน ทานแล้วอร่อยกำลังดี ซึ่งวัตถุดิบและส่วนผสมต่างๆ สามารถทำตามสูตรชีสเค้กทอมแอ็นด์เจอรี่ดั้งเดิมได้เลย เพียงแค่ลดปริมาณน้ำตาลลงครึ่งหนึ่ง หรือหากกลัวอ้วนสามารถใช้สารให้ความหวานอิริทริทอลแทนน้ำตาลได้ รับรองว่าจะได้ขนมแสนอร่อยทานแล้วไม่อ้วนแน่นอน

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: ufaball.bet