Categories
ขนมไทย

เปิดตำราชวนทำ เต้าส่วน ขนมหวานยอดฮิต หอมอร่อยย่างไทย

เต้าส่วน

ขนมหวานของไทยมีหลากหลายชนิด และแต่ละเมนู แต่ละสูตรจะมีความอร่อยที่แตกกต่างกันออกไป โดยเฉพาะขนม เต้าส่วน ขนมสุดคลาสสิกที่ได้รับความนิยมตลอดกาลที่มีรสชาติหวาน อร่อย หอมชื่นใจ อีกทั้งยังเป็นขนมไทย โบราณที่สามารถหาลองชิมได้ง่ายในปัจจุบัน โดยมีขายทั่วไปในท้องตลาด และร้านขายขนมหวานทั่วไป นอกจากขนมจะหาทานได้ง่ายแล้วในส่วนของวิธีทำก็สามารถทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก แถมทำทานเองได้ที่บ้าน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูขนม โบราณที่ใช้วัตถุดิบในการทำขนมเพียงน้อยนิดแต่รสชาติอร่อยมากเลยทีเดียว

วิธีทำขนมหวานสุดคลาสสิก เต้าส่วน น้ำแป้งใสแจ๋ว หวานมันอร่อย

เต้าส่วน

หลังจากที่ห่างหายจากการทำขนมหวานแสนอร่อยไปนานพอสมควร วันนี้เราจะมาเข้าครัวทำขนมหวานๆ ทานที่บ้าน ว่าแต่จะทำขนมอะไรที่ทำง่าย วัตถุดิบน้อยนิดเดียว แต่รสชาติอร่อยชื่นใจ คงต้องลองทำเมนูสุดคลาสสิกอย่างขนมเต้าส่วน หนึ่งในขนม ไทย ทำ ง่ายๆ มือใหม่ที่ฝึกทำขนมสามารถทำได้แน่นอน แถมสูตรเต้าส่วนถั่วเหลือง เป็นเมนูขนม หวาน ไทยโบราณที่ทำจากถั่วทอง รสชาติอร่อย หอมกลมกล่อม แต่ก่อนอื่นจะต้องเตรียมวัตถุดิบก่อนดังนี้

เต้าส่วน
  1. ถั่วเขียวซีกเลาะเปลือก 500 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 400 กรัม
  3. แป้งท้าวยายม่อม 5 ช้อนโต๊ะ
  4. กะทิกล่อง 100 กรัม
  5. แป้งข้าวเจ้าผสมน้ำกะทิ ½ ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำเปล่า 2,500 กรัม
  7. ใบเตย 5 ใบ

ในส่วนของวัตถุดิบที่เป็นถั่วเขียวซีกเลาะเปลือกควรหาซื้อที่บรรจุแบบมิดชิด ไม่มีแมลงเข้าไปเจาะกิน ซึ่งขนมถั่งทองสามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อ หรือร้านขายของชำใกล้บ้าน และสูตรขนมที่จะทำในวันนี้เป็นสูตรเต้าส่วน กะทิกล่องหอมละมุน และในส่วนของวิธีทำเต้าส่วนก็ง่ายๆ สามารถทำตามได้ดังนี้

เต้าส่วน
  1. ขั้นตอนแรกให้นำถั่วเขียวเลาะเปลือกมาล้างน้ำให้สะอาดประมาณ 2-3 รอบ หรือจนกว่าน้ำจะใสสะอาด เสร็จแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นให้เทน้ำออก แล้วนำไปพักทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ 
  2. นำหม้อมาตั้งเตา เปิดไฟแรง ใส่น้ำลงไปรอให้น้ำเดือด ทำการลดไฟลงปานกลาง นำถั่วเขียวซีกเลาะเปลือกใส่ลงไปในหม้อนึ่งให้สุก ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
  3. เตรียมส่วนผสมที่เป็นแป้ง โดยเริ่มจากนำแป้งท้าวยายม่อมลงไปในภาชนะ ตามด้วยน้ำเปล่า คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นนำหม้อขนาดใหญ่มาตั้งเตา ใส่น้ำลงไป เปิดไฟปานกลาง ใส่ใบเตยมัด น้ำตาลทราย คนส่วนผสมให้ละลาย ต้มให้เดือดอีก 3 นาที ใส่แป้งที่เตรียมไว้ลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน และคนจนกว่าน้ำเชื่อมจะใส ข้นหนืด หลังจากที่แป้งข้นหนืดดีแล้ว ให้ใส่ถั่วเขียวซีกนึ่งลงไป คนส่วนผสมรอให้น้ำเดือด และข้นหนืดดีแล้ว ให้ยกออกจากเตาได้
  4. ต่อมาจะเป็นการทำน้ำกะทิ โดยนำกะทิใส่ในหม้อ นำไปตั้งเตาใส่เกลือ รอให้น้ำกะทิเดือดแล้วค่อยใส่แป้งข้าวเจ้าลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน เมื่อได้น้ำกะทิเรียบร้อยแล้วยกออกจากเตา ตักเต้าส่วนใส่ถ้วย ราดด้วยน้ำกะทิ เป็นอันเรียบร้อย
เต้าส่วน

เชื่อว่าหลายคนที่ได้ดูวิธีทำเต้าส่วนโบราณง่ายๆ ไปแล้วต้องอยากลองทำทานเองที่บ้านแน่นอน เพราะขนมเต้าส่วนมีรสชาติ หวาน น้ำกะทิเข้มข้น แถมทำขนมครั้งเดียวสามารถทานได้ทั้งบ้านเลยทีเดียว หรือถ้าใครอยากเพิ่มความอร่อยสามารถทำเต้าส่วนทรงเครื่องใส่ปาท่องโก๋ชิ้นโตๆ รับรองอร่อยถูกใจแน่นอน 

แชร์เคล็ดลับความอร่อย ขนมเต้าส่วน ทำไม่ยาก รสชาติอร่อยกำลังดี

เต้าส่วน

การทำขนมเต้าส่วน โดยเฉพาะขนมไทย ทำเองจะต้องมีเทคนิคในการทำน้ำเชื่อมให้เหนียวข้น โดยจะต้องใส่แป้งท้าวยายม่อมเพียงชนิดเดียว หรือจะใส่แป้งท้าวยายม่อมผสมกับแป้งมันในอัตราส่วน 1:1 ต้มที่อุณหภูมิไฟอ่อนๆ ไม่ควรใช้ไฟแรง เพราะจะทำให้น้ำเชื่อมข้นเกินไป รสชาติของขนมจะไม่อร่อย เพียงเท่านี้ก็จะได้ขนมเต้าส่วนหนึ่งในขนมหวานที่มีวิธีทำ ขนม ไทย ง่ายๆ ที่มาพร้อมกับความหวาน มัน เค็ม อร่อยรบรส 

อ่านบทความอื่นๆ: 

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

Categories
เบเกอรี่

สูตร เค้กลาวา ชาเขียว เยิ้มๆ ล้นทะลัก หวานนุ่มละมุน หอมชื่นใจ

เค้กลาวา ชาเขียว

เค้กลาวา ชาเขียว เป็นขนมเค้กที่มีน้ำซอสวาลาเยิ้มๆ รสชาติหวานจัด เนื้อเค้กนุ่มละลายในปาก ทานอร่อยไม่มีเบื่อ นอกจากนี้ขนมเค้กชาเขียวลาวายังสามารถทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เรียกได้ว่าทานได้ทั้งครอบครัวกันเลยทีเดียว และที่สำคัญเค้กชาเขียวลาวายังเป็นขนมยอดนิยมในร้านคาเฟ่ที่ผู้คนนิยมสั่งมาทาน พร้อมถ่ายรูปสวยๆ อัพลงโซเซียลกันอย่างเพลิดเพลิน หรือจะซื้อเป็นของฝากในวันสำคัญให้กับคนพิเศษได้ด้วย เพราะนอกจากขนมจะอร่อยแล้วรูปร่างหน้าตาของขนมยังสวยน่าทานมากๆ 

ขั้นตอนการทำ เค้กลาวา ชาเขียว น้ำซอสชาเขียวเข้มข้น ทำง่าย ใช้เวลาไม่นาน 

เค้กลาวา ชาเขียว

หากพูดถึงเมนูชาเชียวเชื่อว่าทุกคนต้องนึกถึงเครื่องดื่มชาเขียวแน่นอน และหลายคนก็ชอบทานชาเขียวเป็นชีวิตจิตใจ เรียกว่าชีวิตนี้ขาดเครื่องดื่มชาเขียวไม่ได้เลยก็ว่าได้ สำหรับชาเขียวไม่เพียงเป็นแค่เครื่องดื่มเท่านั้น แต่สามารถนำมาทำเป็นขนมหวานแสนอร่อยอย่าง เค้กลาวาชาเขียว รสชาติหวานจัดจ้าน ชาเขียวลาวาล้นทะลัก หอมอบอวลไปด้วยกลิ่นชาเขียวชื่นใจ ส่วนแป้งเค้กลาวาชาเขียวนุ่มนิ่มเคี้ยวเพลิดเพลินที่สุด นอกจากนี้ขนมเค้กลาวาชาเขียวยังสามารถหาซื้อทานได้ตามร้านเบเกอรี่ทั่วไปที่มีการอบใหม่ๆ ทุกวัน แถมราคาไม่แพง แต่ถ้าจะลองทำทานเอง เราก็มีสูตรเค้กชาเขียวมัทฉะลาวา ไส้ทะลัก และวิธีทำเค้ก ลาวาง่ายๆ ตามฉบับขนมลาวาเค้กชาเขียวทำเอง 

วัตถุดิบ และส่วนผสมของแป้งเค้ก

  1. แป้งเค้ก 50 กรัม
  2. ผงฟู ¼ ช้อนชา
  3. ผงชาเขียวมัทฉะ 20 กรัม
  4. นมสด 60 กรัม
  5. ไข่ไก่ 3 ฟอง
  6. น้ำตาลทราย 35 กรัม
  7. น้ำมันรำข้าว 50 กรัม
  8. เกลือป่น ¼ ช้อนชา
  9. กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
  10. ครีมออฟทาร์ทาร์ ¼ ช้อนชา
เค้กลาวา ชาเขียว

ส่วนผสม และวัตถุดิบที่เป็นชาเขียวลาวา

  1. น้ำตาลทราย 35 กรัม
  2. ผงชาเขียวมัทฉะ 20 กรัม
  3. แป้งข้าวโพด 20 กรัม
  4. นมสด 200 กรัม
  5. เนยสดรสจืด 40 กรัม

สำหรับการทำขนมเค้ก ลาวา ชาเขียวจะใช้วัตถุดิบที่ค่อนข้างมาก แต่รับรองว่าทำออกมารสชาติอร่อย ได้ไส้ลาวาเยิ้มๆ ตรงตามสูตรดั้งเดิมแน่นอน

เค้กลาวา ชาเขียว
  1. มาเริ่มเตรียมแป้งกันก่อน นำไข่ไก่มาแยกไข่แดง ไข่ขาวออกจากกัน นำไข่แดงมาผสมกับนมสด น้ำมันรำข้าว กลิ่นวานิลลา น้ำตาลทราย และเกลือ ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน จากนั้นร่อนแป้ง และผงฟูลงไป คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน คนจนกว่าจะเป็นเนียนละเอียด เอาเข้าไปพักในตู้เย็น 
  2. นำไข่ขาวที่เก็บไว้ในตู้เย็นมาตีจนขึ้นฟอง จากนั้นใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ และน้ำตาลทรายลงไป ตีส่วนผสมทั้งหมดจนกว่าจะตั้งยอดอ่อนๆ นำส่วนผสมทั้งหมดที่เตรียมไว้มาผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำมาเทใส่พิมพ์ นำไปอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 35 นาที เปิดไฟบน-ล่าง อบเสร็จแล้วนำเค้กออกมาเจาะรู 3 รู พักไว้ก่อน
  3. ต่อมาจะเป็นการทำน้ำซอส โดยการนำนมสดไปตุ๋นบนเตาให้พออุ่น ใส่แป้งข้าวโพดคนให้เข้ากัน ใส่ผงชาเขียวมัทฉะ และน้ำตาลทราย และใส่เนยคนให้เข้ากัน ยกออกจากเตา นำไปราดบนเค้ก โรยด้วยผงชาเขียว เพื่อเพิ่มความสวยงาม
เค้กลาวา ชาเขียว

เป็นอย่างไรบ้างกับวิธีการทำเบเกอรี่ง่าย ๆ อย่างเค้กชาเขียวลาวาเยิ้มๆ ล้นทะลัก หอมละมุน รสชาติหวานอร่อย พร้อมเสิร์ฟคู่กับเครื่องดื่มเย็นๆ อร่อยชื่นใจ หรือถ้าอยากเพิ่มความอร่อยเป็นพิเศษต้องทานคู่กับไอศครีมรสชาติหวานเย็นอร่อยฟินทุกคำ

เคล็ดลับการทำ เค้กลาวา ชาเขียว น้ำซอสเข้มข้น อร่อยฟินๆ

เค้กลาวา ชาเขียว

เค้กลาวาชาเขียว ขึ้นชื่อว่าเป็นขนมหวานเบเกอรี่โฮมเมดที่ได้รับความนิยมมากๆ ในกลุ่มสาวกชาเขียว เพราะขนมมีรสชาติหวานนุ่มนวล ที่มาพร้อมกับกลิ่นชาเขียวฟินๆ สำหรับการทำขนมเค้กชาเขียวลาวาสไตล์เบเกอรี่ทำเอง น้ำซอสชาเขียวจะต้องเข้มข้น และเคล็ดลับง่ายๆ ในการทำน้ำซอสชาเขียวจะต้องใส่แป้ง และชาเขียวในปริมาณที่พอเหมาะ เคี่ยวให้ส่วนผสมเข้มข้นมากที่สุด แล้วนำมาราดกับเค้กจะทำให้กลิ่นหอมอบอวลมากยยิ่งขึ้น 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: ufaball.bet

Categories
ขนมไทย

เปิดสูตร ขนม ทองม้วน แป้งบางกรอบ หวาน มัน หอมกลิ่นงาดำ

ขนม ทองม้วน

ขนม ทองม้วน คือหนึ่งในขนม หวาน ไทยในอดีตที่ยังคงอยู่คู่กับคนไทยในหลายยุคหลายสมัย และยังเป็นขนมที่ได้รับความนิยมตลอดกาล โดยในปัจุจบันขนมทองม้วนได้มีการดัดแปลงสูตรไปเยอะมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะป็นสูตรฟักทอง หมูหยอง รสเค็ม รสกล้วย งาดำ รสโกโก้ รสขข้าวโพด และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีทองม้วนสดที่มีลักษณะแป้งนุ่ม รสชาติหวานอร่อย ไม่แพ้ทองม้วนกรอบเลยทีเดียว อีกทั้งขนมทองม้วนยังเป็นขนมไทย โบราณมงคลที่คนไทยมักจะนิยมมอบเป็นของขวัญในวันสำคัญต่างๆ อีกด้วย 

เปิดวิธีการทำ ขนม ทองม้วน กรอบ หวาน มัน อร่อยครบทุกรสชาติ

ขนม ทองม้วน

วันนี้จะมาเปิดตำราชวนทำขนมกรุบปรอบอย่าง ขนมทองม้วน เนื้อแป้งบางกรอบ ที่มาพร้อมกับรสชาติหวาน มัน และโดดเด่นด้วยกลิ่นงาดำ เรียกได้ว่าเป็นขนมไทยที่มีแต่ความอร่อย ที่สำคัญยังเป็นขนมที่สามารถทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะทานง่ายรสชาติอร่อยถูกปากอีด้วย นอกจากวิธีทำทองม้วน กรอบ กรอบ ก็ง่ายๆ คนทั่วไปสามารถทำทานได้เองที่บ้าน หรือจะทำขายก็ขายได้แบบไม่อั้น สำหรับใครต้องการทำขนมชนิดนี้ไว้ลองขายตามตลาดนัดใกล้บ้าน เรามีสูตร ทองม้วนกรอบ ชาววัง รสชาติอร่อย ทำง่ายๆ มาให้ได้ติดตามด้วยนะ

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่จะเตรียมทำขนม

ขนม ทองม้วน
  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 150 กรัม
  2. แป้งมันสำปะหลัง 300 กรัม
  3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  4. เกลือป่น ¼ ช้อนชา
  5. น้ำตาลมะพร้าว 200 กรัม
  6. หัวกะทิ 450 กรัม
  7. งาดำ 2 ช้อนโต๊ะ

สำหรับวัตถุดิบ และส่วนผสมที่กล่าวมาข้างต้นเป็นของสูตรทองม้วนกะทิสดตามสูตรขนม โบราณชาววัง และยังเป็นหนึ่งในสูตรขนมทองม้วนขนม ไทย ทำ ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก คนมือใหม่ทำได้แน่นอน

ขนม ทองม้วน
  1. นำแป้งสาลี แป้งมันสัมปะหลังมาร่อนลงในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นเปิดหลุมใส่ไข่ไก่ลงไป ตามด้วยเกลือป่น น้ำตาลมะพร้าว กะทิใส่ลงไปเล็กน้อย จากนั้นใช้มือนวดแป้งให้เข้ากัน และนวดจนกว่าน้ำตาลจะละลาย เมื่อแป้งเนียนเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ให้ใส่น้ำกะทิลงไปจนหมด นวดแป้งให้เป็นเนื้อเดียวกันอีกครั้ง 
  2. นำแป้งที่นวดเสร็จแล้ว นำไปพักไว้ที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นใส่งาดำลงไปที่เตรียมไว้ลงไป ทำการคลุกเคล้าให้เข้ากัน 
  3. ขั้นตอนต่อมา เตรียมอุปกรณ์สำหรับทำขนม เริ่มจากนำพิมพ์ทองม้วนไปวางบนเตา เปิดไฟอ่อนๆ ทาน้ำมันพืชลงไปบนพิมพ์ทั้งด้านบน และด้านล่าง รอให้พิมพ์ร้อน หยอดแป้งที่เตรียมไว้ลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ เกลี่ยแป้งให้ทั่วพิมพ์ รอประมาณ 2 นาที และในระหว่างที่กำลังย่างขนมอยู่ให้บีบพิมพ์ให้แน่น โดยการย่างขนมอย่างละ 1 นาที จากนั้นม้วนให้ทรงกระบอก นำไปพักไว้ให้เย็น เป็นอันเสร็จเรียบร้อย 
ขนม ทองม้วน

สำหรับทองม้วน กรอบ สูตรโบราณที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว หากยังไม่รับประทานทันที เรามีวิธีเก็บขนม ไทย ง่ายๆ ให้พ้นจากความชื้น โดยการเก็บไว้ในภาชนะที่มีฝาปิด หรือใส่ในถุงพลาสติกและมัดปากถุงให้เรียบร้อยจะทำให้ขนมอยู่ได้นานประมาณ 1 สัปดาห์ แถมรสชาติของขนมยังมีความหวาน หอมอร่อยเหมือนที่ทำเสร็จใหม่ๆ 

ขนม ทองม้วน สูตรหมูหยอง ทำง่ายๆ ทำอร่อย ไม่ง้อร้าน

ขนม ทองม้วน

ขนม ทองม้วนเป็นขนมที่มีหลากหลายสูตร และสูตรที่กำลังได้รับความนิยมคือ สูตรหมูหยอง แป้งบางกรอบ สอดไส้หมองแน่นๆ ดังนั้นใครที่สนใจขนมไทย ทำเองอย่างทองม้วนสูตรหมูหยอง เรามีสูตร ขนม ไทยอย่างง่ายมาให้ลองทำดู ซึ่งสูตรขนมเราสามารถใช้ร่วมกับสูตรกะทิสดได้เลย เพียงเพิ่มหมูหยองเข้าไปและม้วนแป้งเข้าหากัน นำมาพักไว้ให้เย็นก่อนนำมารับประทาน 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: hilo-88.nethttp://hilo-88.net

Categories
เบเกอรี่

สาวกคาสิโนต้องไม่พลาด ขนม เค้กลาวา ช็อกโกแลตเยิ้มๆ ทานคลายเครียด

เค้กลาวา

ขนมหวานเป็นอีกหนึ่งเมนูของชาวคาสิโนที่ต้องทานเป็นประจำ เพราะขนมหวานทานแล้วรู้สึกอารมณ์ดี แถมยังทำให้เล่นเกมได้ทั้งวันทั้งคืนเลยทีเดียว ว่าแต่จะทานขนมอะไรดีที่ทานแล้วรู้สึกผ่อนคลายได้ตลอดทั้งวัน ต้องยกให้ขนม เค้กลาวา สูตรช็อกโกแลตที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อช็อกโกแลตเข้มข้นแบบจัดเต็ม แถมยังมีแป้งเค้กที่นุ่มนิ่มทานแล้วรู้สึกละมุนละไมสุดๆ สำหรับสาวกคาสิโนที่ต้องการทำขนมช็อกโกแลตลาวาเค้กนุ่มนิ่มทานเองในช่วงว่างจากการเล่นพนัน วันนี้เรามีสูตร และวิธีการทำขนมเค้กลาวาช็อกโกแลตมาฝากให้ติดตามกัน

วิธีทำ ขนม เค้กลาวา เนื้อนุ่มละลายในปาก หอมกลิ่นช็อกโกแลตจัดเต็ม

เค้กลาวา

เชื่อว่าชาวคาสิโนทุกคนต้องอยากลองทำขนมทานเองที่บ้านแน่นอน เพราะนอกจากจะได้พักผ่อนสมองแล้ว การทำขนมยังเป็นการผ่อนคลายร่างกายได้เป็นอย่างดี ดังนั้นวันนี้เรามีขนมสุดฮิตอย่างเค้กลาวา เป็นขนมก้อนกลมสุดน่ารักที่มีเนื้อเค้กที่นุ่มนิ่ม และด้านในมีเนื้อช็อกโกแลตเยิ้มๆ ทำให้เมื่อทานแล้วรู้ฟินไปกับรสชาติที่หวานฉ่ำ ที่มาพร้อมกับความหอมของกลิ่นช็อกโกแลตได้ละมุนลิ้นจนไม่สามารถหยุดทานได้เลย สำหรับชาวพนันออนไลน์คนไหนที่อยากทำเค้ก ช็อก ลาวาด้วยตัวเอง ต้องไม่พลาดเพราะเรามีสูตรเค้กลาวา ไมโครเวฟอย่างง่าย ไม่ง้อเตาอบ แต่ก่อนอื่นเราไปเตรียมวัตถุดิบให้พร้อม

เค้กลาวา
  1. แป้งเค้ก ½ ถ้วยตวง
  2. น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง
  3. ผงฟู ½ ช้อนชา
  4. ผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ
  5. เนยสด 2 ช้อนโต๊ะ
  6. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  7. กลิ่นวนิลลา ½ ช้อนชา
  8. ดาร็กช็อกโกแลต 30 กรัม
  9. นมสด 2 ช้อนโต๊ะ
  10. เกลือ ½ ช้อนชา

สำหรับวัตถุดิบ และส่วนผสมทั้งหมดเป็นสูตรเค้ก ช็อกโกแลต ลาวา ไมโครเวฟ เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเตาอบที่บ้าน โดยขนมที่อบไมโครเวฟจะรสชาติอร่อยเหมือนใช้เตาอบ แถมยังได้สัมผัสช็อกโกแลตเยิ้มๆ เหมือนสูตรเตาอบแน่นอน 

เค้กลาวา
  1. มาเริ่มที่นำแป้ง น้ำตาล ผงโกโก้ ผงฟู และเกลือมาเทใส่ในถ้วยแก้ว คนส่วนผสมทั้งมหมดให้เข้ากัน ใส่เนยละลายลงไป นมไข่ และวานิลลา ทำการผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน 
  2. จากนั้นนำดาร์กช็อกโกแลตใส่ตรงกลางถ้วย จากนนั้นเทน้ำเปล่าลงไปในถ้วยแก้ว เสร็จแล้วนำเข้าเตาไมโครเวฟเป็นเวลา 1 นาที หากขนมยังไม่สุกสามารถเพิ่มเวลาได้ โดยค่อยๆ เพิ่มทีละ 10 วินาที หรือจนกว่าจะสุกดี ซึ่งสามารถสังเกตแล้วว่าขนมด้านข้างสุก และเซ็ตตัวดี ส่วนตรงกลางอาจจะยังเปียกเล็กน้อย แสดงว่าขนมสุกเรียบร้อย จากนั้นนำออกมาวางไว้ให้เย็น พร้อมทานได้เลย
เค้กลาวา

สูตร เค้กลาวาไมโครเวฟจะใช้เวลาในการทำไม่นานเพียงแค่ 1-2 นาที ก็จะได้ขนมเบเกอรี่ลาวาที่นุ่มฟู ช็อกโกแลตเยิ้มๆ รสชาติหวานฉ่ำอร่อยชื่นใจ และหากได้ทานคู่กับผลไม้รสเปรี้ยวจะสามารถช่วยตัดความหวานของช็อกโกแลตได้เป็นอย่างดี สำหรับข้อดีของการทำขนมเบเกอรี่โฮมเมดในเตาไมโครเวฟคือไม่ต้องใช้อุปกรณ์ในการทำขนมมากมาย มีเพียงแค่ถ้วย หรือแก้วกาแฟก็สามารถทำเบเกอรี่ยอดนิยมอย่างเค้กช็อกโกแลตลาวาได้แล้ว 

แชร์สูตรเค้กลาวาชาไทย แสนอร่อย หอมกลิ่นชาไทยละมุนละไม

เค้กลาวา

หากใครชอบทานชาไทยต้องไม่พลาดกับขนมเค้กลาวาชาไทยเยิ้มๆ รสชาติหวาน หอมกลิ่นชาไทยอร่อยโดนใจ ที่สำคัญยังเป็นขนมเค้กเบเกอรี่ทำเองได้ด้วย แถมวิธีทำเบเกอรี่ง่าย ๆ เพียงแค่มีเตาอบก็สามารถทำได้แล้ว โดยสูตรจะคล้ายกับสูตรช็อกโกแลตลาวา เพียงแต่จะใช้ไวท์ช็อกโกแลตผสมกับชาไทยแทนดาร์กช็อกโกแลต จากนั้นนำไปอบให้สุก เป็นอันเสร็จเรียบร้อย พร้อมทานได้เลย 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: hilo-88.net

Categories
ขนมไทย

ขนม โป๊งเหน่ง ขนมวัยเด็ก ก้อนกลมสุดคิ้วท์ แป้งนุ่ม อิ่มอร่อย

ขนม โป๊งเหน่ง

วันนี้จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ ขนม โป๊งเหน่ง เป็นขนมไทย โบราณที่ได้รับความนิยมขายตามเทศกาลต่างๆ ในสมัยอดีต สำหรับขนมชนิดนี้มีชื่อเรียกที่หลากหลายตามสถานที่ของแต่ละพื้นที่ อาทิ ขนมลูกตุ้ม ขนมไมโครโฟนที่เด็กๆ สมัยก่อนจะชอบทานเพราะ เป็นขนมที่ที่มีความโดดเด่นของรูปร่างกลมเหมือนลูกบอล สอดไส้ด้วยไส้กรอกรสชาติกลมกล่อม และเสียบไม้ยาวๆ ให้สามารถถือได้ อีกทั้งยังมีความพิเศษในด้านวิธีการทำที่ไม่เหมือนขนมชนิดอื่นๆ แถมยังต้องอาศัยความใจเย็นอีกด้วย ในส่วนรสชาติของขนมถือว่าอร่อยกำลังดี ไม่หวานเกินไป แถมเนื้อแป้งนุ่มละมุน ที่มาพร้อมกับรสชาติกลมกล่อมของไส้กรอกที่ลงตัวเป็นอย่างมาก

วิธีทำขนมสุดคิ้วท์ ขนม โป๊งเหน่ง ขนมวัยเด็ก ขนมหน้าโรงเรียน รสชาติอร่อย 

ขนม โป๊งเหน่ง

มาย้อนรอยทำขนมวัยเด็กกันบ้างกับขนม โป๊งเหน่ง หนึ่งในขนม โบราณยอดนิยมที่มีรสชาติหวาน หอม อร่อยทานได้ทุกวันไม่มีเบื่อ และที่สำคัญยังเป็นขนมไทยที่ทานแล้วอิ่มท้องนานอีกด้วย สำหรับชนิดนี้เป็นขนมที่หาทานยากมาก และกำลังจะถูกเลือนหายไปตามกาลเวลา ดังนั้นเราจะมาชวนทุกคนลองมาทำขนม หวาน ไทยอย่าง โป๊งเหน่ง ขนมก้อนกลม สุดน่ารักไว้ให้เด็กๆ หรือผู้ใหญ่ในครอบครัวได้ลองทาน เหมือนได้กลับไปในวัยเด็กอีกครั้ง แถมยังเป็นการอนุรักษ์ขนมหาทานยากให้เด็กๆ ได้รู้จักขนมโบราณแสนอร่อยอีกด้วย

ส่วนผสม และวัตถุดิบที่ต้องเตรียม

ขนม โป๊งเหน่ง
  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 450 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 250 กรัม
  3. ไข่ไก่ 4 ฟอง
  4. น้ำเปล่า 300 กรัม
  5. ไส้กรอกหั่นท่อน 15 ท่อน
  6. ไม้เสียบลูกชิ้น 15 อัน
  7. น้ำมันพืช 1 ขวด

สำหรับการทำขนมไทย ทำเองจะมีข้อดีคือสามารถทำขนมได้ในปริมาณที่ต้องการ และสามารถเพิ่มวัตถุดิบที่อยากทานได้ ดังนั้นหากใครอยากลองทำขนมโป๊งเหน่งสอดไส้ด้วยไส้กรอกชีสสามารถเปลี่ยนได้เลยตามใจชอบ

ขนม โป๊งเหน่ง
  1. มาเริ่มเตรียมส่วนผสมของแป้งกันเลย เริ่มจากนำแป้งสาลี ไข่ไก่ น้ำตาลทราย น้ำเปล่า ผงฟู และเกลือป่น มาผสมให้เข้ากัน จนได้แป้งเนื้อเนียน
  2. นำกระทะมาตั้งเตา จากนั้นใส่น้ำมันพืชลงไป เปิดไฟแรง รอให้น้ำมันร้อนได้ที่ และลดไฟลงปานกลาง เตรียมไม้เสียบลูกชิ้นมาเสียบไส้กรอกที่หั่นเป็นท่อนๆ เรียบร้อย นำไปจุ่มแป้งในแนวตรง นำไปจุ่มในน้ำมันร้อนๆ รอให้แป้งสุก ยกออกมารอให้สะเด็ดน้ำมัน แล้วนำไปจุ่มน้ำมันอีกรอบ ทำแบบเดิมประมาณ 3-4 รอบ ก็จะได้ขนมที่มีแป้งกลมตัวโต 
ขนม โป๊งเหน่ง

เป็นอันเสร็จเรียบร้อยกับวิธีทำขนม ไทย ง่ายๆ อย่างขนมลูกตุ้ม หรือโป้งเหน่งที่เรารู้จักกันในวัยเด็ก ซึ่งขั้นตอนที่เรานำมาแชร์เป็นสูตร ขนม ไทยอย่างง่าย ทำได้ไม่ยาก และที่สำคัญรสชาติ อร่อย หวานหอม เหมือนได้ย้อนรอยไปในวัยเด็กเลยทีเดียว 

แนะนำเทคนิคการทำ ขนมโป๊งเหน่ง อย่างง่าย ไม่อมน้ำมัน 

ขนม โป๊งเหน่ง

ขนมโป๊งเหน่ง หนึ่งในขนมงานวัดที่สามารถทำทานได้เอง หรือจะทำขายก็สามารถสร้างกำไรได้อย่างงาม แต่การทำขนม ไทย ทำ ง่ายๆ เองที่บ้านหนึ่งสิ่งที่ทุกคนต้องพบเจอนั่นก็คือ ขนมอมน้ำมัน ดังนั้นเราจึงมีเทคนิคการทำขนมไม่ให้อมน้ำมันมาฝากสามารถทำตามได้ โดยในส่วนของการนำแป้งลงทอดในน้ำมันจะต้องจับไม้เสียบลูกชิ้นในแนวตั้งทอดให้สุกประมาณ 1 นาที จากนั้นหมุนแป้งทอดกับน้ำมัน เพื่อให้แป้งสุกทั่วกัน จากนั้นยกออกมาให้สะเด็ดน้ำมัน นำไม้ไปจุ่มแป้งอีกครั้ง และทำแบบเดิม จนกว่าจะได้ขนมลูกตุ้มที่มีขนาดใหญ่ตามที่ต้องการ เสร็จแล้วนำมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน และชับด้วยกระดาษซับมัน เพียงแค่นี้ขนมก็จะไม่อมน้ำมัน ทานอร่อยได้อย่างเพลิดเพลิน 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

Categories
เบเกอรี่

ขนมปัง มันม่วง ขนมของนักคาสิโนออนไลน์ แป้งหอมนุ่มฟู ทานได้ทั้งวัน

ขนมปัง มันม่วง

นักพนันทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วว่าการเล่นเกมพนันออนไลน์จะไม่ค่อยได้ออกมาทานอาหารนอกบ้าน และไม่ค่อยมีเวลาทำอาหารทานเอง แต่อย่างไรก็ตามกองทัพต้องเดินด้วยท้อง และความหิวมีผลต่อการเล่นเกมอีกด้วย ดังนั้นเราจึงมีขนมแสนอร่อยมาแนะนำนั่นก็คือ ขนมปัง มันม่วง ก้อนโต นั่นเอง โดยขนมปังทำมาจากเนื้อมันม่วงที่ได้รับการคัดสรรวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ ทำให้ขนมมีความหอมกรุ่น เนื้อแป้งนุ่มฟู รสชาติอร่อยสามารถทานคู่กับอะไรก็ได้ นอกจากนี้วิธีทำขนมปังมันม่วงก็ง่ายๆ สามารถทำทานเองได้ และยังสามารถเก็บไว้ทานในวันถัดไปได้อีกด้วย

เปิดครัวสไตล์ฝรั่ง ชวนทำ ขนมปัง มันม่วง แป้งนุ่มฟู หอมกรุ่น ทานอร่อย 

ขนมปัง มันม่วง

สายพันออนไลน์ที่ชอบอยู่บ้าน หากเบื่อๆ ไม่มีอะไรทำ และกำลังหากิจกรรมยามว่างทำแก้เบื่อ ว่าแต่จะทำอะไรดีนะ วันนี้เรามีกิจกรรมที่น่าสนใจอย่างการทำขนมทานเอง และขนมกำลังเป็นที่นิยมอยู่ตอนนี้คือ ขนมปังมันม่วง แป้งนุ่ม หอมกลิ่นมันม่วงอ่อนๆ ทานอร่อย ทานได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ และสูตรที่เราจะมาทำนั้นเป็นสูตรขนมปังมันม่วงอย่างง่าย แถมขั้นตอนการทำต่างๆ ไม่ซับซ้อนสามารถทำได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็จะได้ขนมปังแสนอร่อยทานแล้ว

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

ขนมปัง มันม่วง
  1. แป้งขนมปัง 500 กรัม
  2. เนยสด 70 กรัม
  3. ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ
  4. มันม่วงนึ่ง 250 กรัม
  5. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  6. นมสด 50 กรัม
  7. เกลือ 1 ช้อนชา
  8. น้ำตาลทราย 100 กรัม

สำหรับขนมปังทำเองสูตรมันม่วงวัตถุดิบที่เป็นมันม่วงจะต้องเลือกหัวที่ดีไม่เป็นโรค และไม่มีเชื้อรา เพราะหากใช้มันม่วงไม่มีคุณภาพจะทำให้ขนมปังรสชาติไม่อร่อย และกลิ่นไม่หอมนั่นเอง หลังจากที่ได้วัตถุดิบครบทั้งหมดในลำดับต่อมาเราจะมาทำเบเกอรี่สูตรมันม่วง โดยมีขั้นตอนดังนี้

ขนมปัง มันม่วง
  1. นำมันม่วงนึ่งสุกมาบดให้ละเอียด จากนั้นละลายเนย เติมน้ำตาลทราย เกลือ ไข่ไก่ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เสร็จแล้วเทมันม่วงบดลงไป ตามด้วยแป้ง ยีสต์ นวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน โดยใช้เครื่องตีขนม 
  2. นำแป้งที่ได้มานวดด้วยมืออีกครั้ง จากนั้นนำมาใส่ชามปิดด้วยพลาสติกแรปพักไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นนำแป้งมาแบ่งเป็น 4 ก้อน เท่าๆ กัน พักไว้ 10 นาที 
  3. นำแป้งมารีดเป็นแผ่นแล้วม้วนตามขวางเป็นท่อนกลม นำมาวางใส่พิมพ์ที่ทาด้วยไขมันเรียบร้อยแล้ว ใช้พลาสติกแรปคลุมอีกครั้งให้แป้งฟูขึ้น จากนั้นทาหน้าแป้งด้วยไข่ไก่ผสมน้ำมัน นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เปิดไฟบนล่าง เป็นเวลา 15 นาที เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ขนมปัง มันม่วง

สำหรับขนมปังสูตรเบเกอรี่ทำเองสามารถเลือกขนาดของขนมปังได้ตามใจชอบ และหากต้องการให้ขนมปังมีสีสวยสามารถใช้ฟรอยคลุมหน้าขนมไว้ในขณะกำลังอบจะช่วยให้ขนมไม่สีเข้มเกินไปได้ด้วย จากนั้นอบต่ออีก 15 นาที จนได้ขนมที่มีสีเหลืองทอง พักไว้ให้เย็น นำพลาสติกแรปมาห่อใส่ตู้เย็น 3 ชั่วโมง เพียงแค่นี้ก็จะได้ขนมปังมันม่วงสไตล์เบเกอรี่โฮมเมดที่มีแป้งนุ่มเด้งมากขึ้น

ขนมปังมันม่วง สูตรโฮมเมค ทำง่าย มีประโยชน์มากมาย 

ขนมปัง มันม่วง

ขนมปังมันม่วง ถือว่าเป็นเบเกอรี่ยอดนิยมที่สามารถทำทานเองได้ โดยไม่ต้องหาซื้อทานให้เสียเวลา สำหรับใครที่อยากลองทำเบเกอรี่ง่าย ๆ ต้องลองทำเมนูขนมปังมันม่วง นอกจากจะอิ่มอร่อยแล้วยังมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย เพราะมันม่วงช่วยชะลอความแก่ บำรุงตับ ยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็ง และยังช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: hilo-88.net

Categories
ขนมไทย

แนะนำสูตร ขนมดอกจอก โบราณ ขนมหวานทอดกรอบ เคี้ยวเพลิน

ขนมดอกจอก

ขนมดอกจอก เป็นอีกหนึ่งขนม โบราณที่มีรสชาติไม่หวานเกินไป และแป้งกรุบกรอบ ทำให้เป็นที่นิยมของคนในสมัยอีต โดยขนม หวาน ไทยชนิดนี้มีส่วนประกอบหลักเป็น แป้ง น้ำตาลทราย หัวกะทิ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คืองาดำคั่วหอมๆ ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน จากนั้นใช้พิมพ์จุ่มแป้งแล้วนำไปทอดให้เหลืองทองสวยงาม ในส่วนรสชาติมีความหวานน้อย เนื้อแป้งกรอบ กรอบ เคี้ยวเพลินอร่อยฟินทุกชิ้น เรียกว่าเป็นขนมที่รสชาติอร่อยคุ้มค่ากับการหาซื้อทานสุดๆ และเหมาะที่อนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานได้ลองทานสืบต่อไป 

กระบวนการทำ ขนมดอกจอก แป้งบางกรอบ ไม่อมน้ำมัน หอมกลิ่นงาดำ

ขนมดอกจอก

ขนม ดอกจอก ขึ้นชื่อว่าเป็นขนมไทย โบราณที่มีรูปทรงสวยงามแปลกตา ที่มาพร้อมกับความอร่อยที่โดดเด่นของกลิ่นงาคั่วผสมผสานกับกลิ่นกะทิหอมละมุนละไม และเนื้อแป้งบางกรอบอร่อยถูกปากทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ นอกจากนี้ในส่วนของกระบวนการทำต่างๆ นั้นทำง่ายมากๆ แถมยังสามารถขายได้ด้วย ดังนั้นหากใครกำลังหาสูตรดอกจอกโบราณทำง่ายๆ ต้องไม่พลาด เพราะเรามีสูตรขนมดอกจอกไม่อมน้ำมันมาให้ได้ติดตาม เผื่อได้ลองทำทานกันในครอบครัว 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ใช้ทำขนม

ขนมดอกจอก
  1. แป้งมัน 150 กรัม
  2. แป้งข้าวเจ้า 150 กรัม
  3. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม
  4. ไข่แดง 3 ฟอง
  5. หัวกะทิ 250 กรัม
  6. น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำปูนใส 150 กรัม
  8. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  9. เกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ
  10. งาดำ 1 ช้อนโต๊ะ
  11. น้ำดอกอัญชัน ½ ถ้วยตวง

สำหรับขั้นตอนการทำขนมดอกจอกนั้นไม่ยาก แต่จะทำอย่างไรขนมจึงจะไม่อมน้ำมัน ไม่ต้องวังวลไป เพราะเรามีวิธี ทำ ดอกจอก ไม่อมน้ำมัน แถมแป้งบางกรอบ และสูตรที่จะทำเป็นสูตรดอกจอกอัญชันสีม่วงสดใสสวยงามแปลกตา ต่อมาจะเป็นวิธีขนม ไทย ง่ายๆ ดังนี้

ขนมดอกจอก
  1. เริ่มจากนำแป้งมัน แป้งข้าวเจ้า และแป้งสาลีอเนกประสงค์ มาร่อนใส่ในชามที่เตรียมไว้ จากนั้นใส่น้ำตาลทราย เกลือ ลงไป ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นใส่กะทิลงไปใช้มือนวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ใส่ไข่แดง น้ำมันพืช ตามด้วยน้ำปูนใส ผสมจนกว่าแป้งจะเป็นเนื้อเนียน
  2. หลังจากที่ได้น้ำแป้งที่มีเนื้อเนียนดีแล้ว จากนั้นให้น้ำอัญชันลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน ขั้นตอนสุดท้ายใส่งาดำลงไปคนให้เข้ากัน 
  3. นำกระทะมาตั้งเตา ใส่น้ำมันลงไป เปิดไฟอ่อนๆ รอให้น้ำมันร้อนให้เอาพิมพ์ดอกจอกมาจุ่มให้ร้อน จากนั้นยกออกเช็ดน้ำมันด้วยกระดาษซับมัน เสร็จแล้วจุ่มลงไปในแป้ง นำไปทอดให้แป้งหลุดออก และทอดต่อจนเหลืองหอม ทำการตักออกพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน และรอให้ขนมเย็นสนิท เสิร์ฟได้ทันที
ขนมดอกจอก

วิธีการทำขนมดอกจอก บางกรอบ ตามสูตร ขนม ไทยโบราณนั้นจะต้องไม่ผสมแป้งให้เข้มข้นเกินไป เพราะหากน้ำแป้งข้นจะทำให้ขนมที่ทอดออกมานั้นหนา และเนื้อแป้งแข็งเกินไปทานไม่อร่อย หากใครอยากให้ขนมมีหลากสีมากขึ้น แนะนำให้ทำสูตรดอกจอกแฟนซี เป็นขนมไทยสีสันสดใสชวนทานที่สุด สำหรับขนมดอกจอกที่ทำเสร็จสามารถเก็บใส่ถุง หรือกล่องปิดฝาให้มิดชิดจะทำให้ขนมกรอบ และสามารถเก็บไว้ได้นานขึ้น 

แจกความฟิน ขนมดอกจอก สูตรข้าวโพด แป้งกรอบ หอมอร่อยชวนทาน

ขนมดอกจอก

ขนมดอกจอกถือว่าเป็นขนมไทย ทำเองง่ายๆ ไม่ต้องไปเรียนทำขนมให้เสียเวลา และสูตรที่กำลังฮิตอยู่ตอนนี้คือ ดอกจอกสูตรข้าวโพด ซึ่งวิธีทำ ดอกจอก ข้าวโพด หนึ่งในเมนูขนม ไทย ทำ ง่ายๆ โดยทำตามสูตรขนมดอกจอกอัญชัน โดยการนำข้าวโพดไปปั่นให้ละเอียด จากนั้นนำมาผสมกับแป้ง และส่วนผสมอื่นๆ จากนั้นนำไปทอดในน้ำมันให้เหลืองกรอบ สำหรับการใส่ข้าวโพดลงไปในแป้งจะทำให้ขนมมีความหอม และอร่อยมากยิ่งขึ้น 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: sa-game.bet