เดือน: กรกฎาคม 2023

เชื่อหลายคนที่ชอบที่เที่ยวตามสถานที่ต่างๆ มักจะชอบไปนั่งชิลล์ๆ ตามร้านคาเฟ่ มักจะเห็น คาราเมลคัสตาร์ด หนึ่งในเมนูขนมหวานที่ทางร้านแนะนำให้ลองทานคู่กับเครื่องดื่มเย็นๆ เพราะด้วยรสชาติของขนมที่มีความนุ่มเด้งๆ จึงทำให้ทานอร่อยสุดๆ ไปเลย และหลายคนมีความอยากทำลองหาสูตร คาราเมลคัสตาร์ดไว้ทานเล่นๆ ที่บ้าน แต่คิดว่าคงทำยาแน่เลย แท้จริงแล้วเมนูนี้ทำง่ายมากๆ ไม่ต้องใช้เตาอบก็ทำได้เช่นกัน 

วิธีทำสูตร คาราเมลคัสตาร์ด เนื้อเด้งเนียน ทานอร่อย ไม่มีเบื่อ

มาต่อกันที่ขนมสุดฟิน คาราเมล คัสตาร์ด เนื้อเด้งดึง ผสมผสานกับกลิ่นคาราเมลได้อย่างลงตัวสุดๆ และนอกจากรสชาติที่อร่อยถูกใจแล้ว วิธีการทำคัสตาร์ดสูตรคาเมลก็ง่ายๆ แสนง่าย แถมไม่ต้องใช้เตาอบขนม เพียงแค่มีเตาไมโครเวฟก็สามารถทำได้แล้ว อีกทั้งยังสามารถทำสูตรแบบนึ่งก็ได้เช่นกัน ดังนั้นคนที่เป็นมือใหม่ฝึกขนม รับรองว่าทำได้แน่นอน 

วัตถุดิบ และส่วนผสมของซอสคาราเมลที่ต้องเตรียม

1. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
2. น้ำสะอาด 1 ช้อนชา
3. น้ำร้อน 1 ช้อนชา

วัตถุดิบ และส่วนผสมของซอสคัสตาร์ด

1. นมสด 200 กรัม
2. ไข่ไก่ 1 ฟอง
3. กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
4. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

สำหรับส่วนผสมของเบเกอรี่กล่าวมาเป็นขนมคัสตาร์ดสูตรเตาไมโครเวฟ ดังนั้นคนที่มีเตาไมโครเวฟสามารถทำตามวิธีที่เรานำมาแชร์ได้เลย

1. เตรียมน้ำสะอาดใส่ลงไปในภาชนะ แล้วนำไปเข้าเตาไมโครเวฟใช้ไฟแรงสุด ในระหว่างนี้มาทำซอสคาราเมล โดยการนำน้ำตาลทราย และน้ำลงในถ้วยที่เป็นถ้วยกระเบื้อง นำเข้าไมโครเวฟใช้ไฟปานกลางประมาณ 2-3 นาที หรือจนกว่าน้ำตาลจะละลาย และเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม ใส่น้ำร้อนที่เตรียมไว้ลงไปผสมให้เข้ากันเร็วๆ นำไปตักใส่ถ้วย
2. ต่อมาให้ทำคัสตาร์ดคาราเมล เริ่มจากผสมไข่ไก่กับน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน เติมนมสด และกลิ่นวานิลลาลงไป ตีส่วนผสมให้เข้ากัน และนำไปกรองด้วยตะแกรง จากนันเทลงไปในถ้วยที่มีซอสคาราเมล
3. หลังจากนั้น นำถ้วยวางในภาชนะสำหรับเข้าไมโครเวฟ เติมน้ำลงไปในภาชนะประมาณ ½ ถ้วยของขนม เสร็จแล้วนำเข้าเตาไมโครเวฟ โดยใช้ไฟปานกลาง ประมาณ 5 นาที เมื่อคัสตาร์ดพองขึ้นให้นำออกจากเตา ทิ้งไว้สักครู่ นำมาคว่ำใส่จาน พร้อมรับประทาน

หลังจากที่ทำคาราเมลคัสตาร์ด เสร็จแล้ว จะได้คัสตาร์ดที่มีเนื้อนุ่มเด้ง และสีเนียนสวยน่าทาน และที่สำคัญรสชชาติหวานฉ่ำ เมื่อทานแล้วจะได้เนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มละมุนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นคาราเมลเข้มข้นสุดๆ เรียกเป็นอีกเมนูเบเกอรี่ยอดนิยมที่ทำง่าย และขั้นตอนไม่ยุ่งยาก 

แชร์สูตร คาราเมลคัสตาร์ด สไตล์เด็กหอ ทำง่าย ไม่ยุ่งยาก และไม่ซับช้อน 

สำหรับใครที่อยู่หออยากลองทำคาราเมลคัสตาร์ด ซึ่งมีวิธีทำเกอรี่ง่ายๆ ตามฉบับเบเกอรี่ทำเองที่บ้าน เพียงแค่มีหม้อหงข้าวก็สามารถทำคัสตาร์ดทานได้แล้ว โดยเริ่มจากเตรียมวัตถุดิบตามสูตรไมโครเวฟที่กล่าวมาข้างต้น จากนั้นเมื่อผสมส่วนผสมทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ให้นำมาใส่ในหม้อหุงข้าว โดยใช้ผ้ารองก้นหม้อ ทำการเติมน้ำลงไป เสร็จแล้วนำไปหุงในขนมสุก ซึ่งหน้าตาของขนมคัสตาร์ดสไตล์เบเกอรี่โฮมเมดที่นึ่งเสร็จแล้วจะมีลักษณะคล้ายไข่ตุ๋น แต่จะมีฟองอากาศเล็กน้อย แต่โดยรวมถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว จากนั้นนำถ้วยขนมมาคว่ำใส่จาน แล้วนำไปแช่ในตู้เย็น เพื่อจะได้ทานขนมแบบเย็นๆ ฉ่ำ ฟินสุดๆ 

อ่านบทความอื่นๆ:

• บานอฟฟี่ การผสมผสานที่อร่อยลงตัว

สนับสนุนโดย: https://sa-game.bet/ 

ขนมครก เป็นขนมชาววังยอดนิยมทานได้แบบไม่มีเบื่อ สำหรับคนที่ชอบทานขนมหวานไทยต้องบอกเลยขนมครกนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นขนมที่มีรสชาติหวานละมุน กรอบนอกนุ่มใน แถมรูปร่างของขนมยังมีความแปลกตาทำให้หลายคนชอบซื้อทานอยู่เป็นประจำ และเป็นขนมที่มักจะเห็นแม่ค้าทำให้ขนมให้ทานแบบสดใหม่ ซึ่งหลายคนอยากลองทำขนมชนิดดู แต่ไม่กล้าทำ เพราะกลัวจะทำไม่อร่อย ดังนั้นเราจึงได้รวบรวมวิธีทำขนมครก ง่าย ๆ ตามฉบับคนฝึกทำขนมมาให้ติดตามกัน

นำเสนอขั้นตอนทำ ขนมครก กรอบนอก นุ่มใน หวานกลมกล่อม

การทำขนมครกเองที่บ้านนั้นจะไม่ยากอีกต่อไป เพราะได้นำวิธีทำขนม ครกสูตร ขนมไทย โบราณ อย่างๆ ทำแล้วแป้งติดกระทะ และขนมไม่ไหม้อีกด้วย และที่สำคัญรสชาติของขนมไม่ผิดเพื้ยนไปจากสูตรดั้งเดิมแน่นอน สำหรับใครที่ยากลองทำทาน หรือจะทำสร้างอาชีพเสริมอีกทางหนึ่งเช่นกัน และต้องบอกเลยว่าสูตรชาววังนี้ รับรองว่าถูกอกถูกใจหลายๆ คนแน่อน อีกทั้งยังทานได้แบบไม่อั้น เพราะเราเป็นคนทำทานเอง ไม่ต้องไปหาซื้อทานก็สามารถทานขนมอร่อยได้ 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

1. แป้งข้าวเจ้า 300 กรัม
2. ข้าวหอมมะลิหุงสุก 100 กรัม
3. น้ำปูนใส 120 กรัม
4. หางกะทิ 300 กรัม
5. หัวกะทิคั้นสด 400 กรัม
6. น้ำตาลทราย 70 กรัม
7. เกลือ 2 ช้อนชา

ส่วนผสม และวัตถุดิบของหน้ากะทิ

1. หัวกะทิคั้นสด 500 กรัม
2. เกลือ ½ ช้อนชา
3. แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสม สำหรับโรยหน้าขนม

1. ข้าวโพดหวาน 1 ฝัก
2. เผือกหั่นนึ่งสุก 1 ถ้วยตวง
3. ต้นหอมซอย 1 ถ้วยตวง
4. น้ำมันพืช ½ ถ้วยตวง
5. ผ้าเช็ดเบ้าขนมครก

ในลำดับที่ต่อมาจะเป็นขั้นตอนการทำขนมครก สูตรขนม ไทย ทำ ง่ายๆ แถมรสชาติอร่อยด้วย ว่าแต่ต้องทำอะไร เราไปเริ่มทำกันเลย 

1. มาเริ่มกันที่นำข้าวโพดมาฝานบางๆ ใส่ในถ้วย และใส่เผือกหั่นลูกเต๋าลงไป จากนั้นนำไปนึ่งให้สุกประมาณ 20 นาที จากนั้นนำต้นหอมเตรียมไว้
2. ขั้นตอนต่อมาจะเป็นการทำน้ำกะทิ นำแป้งข้าวเจ้า หัวกะทิคั้นสด และน้ำตาลราย และเกลือใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ ผสมทั้งหมดให้เข้ากัน 
3. นำแป้งข้าวเจ้า ข้าววสวยสุก น้ำปูนใส กะทิ และเกลือ ปั่นให้ละเอียด และใสภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นนำมาเทใส่ส่วนผสมของน้ำกะทิมาเทรวมกัน จากนั้นนำมาเทใส่กาหัวแหลม
4. เตรียมกะทิหลุมาตั้งเตาโดยใช้ไฟอ่อนๆ ใช้ผ้าชุปน้ำมันเช็ดหลุมพิมพ์ จากนั้นหยอดแป้งที่เตรียมไว้ลงไป ใส่ตันหอมซอย ข้าวโพด และเผือก จะรวมกัน หรือจะใส่อย่างละหลุมก็ได้เช่นกัน หลังจากนั้นรอให้แป้งเซตตัว แล้วปิดฝา ประมาณ 5 นาที หรือรอจนกว่าขอบแป้งจะเป็นสีน้ำตาล ใช้ช้อนคักออกใส่จาน รอมให้เย็นพร้อมทานได้เลย

สำหรับขนมครกที่ทำเสร็จแล้วจะมีรูปร่างที่สวยงาม ไม่ติดกระทะ และขอบไม่ไหม้ แถมรสชาติยังหวาน มันอร่อยเหมือนซื้อทานที่ร้าน ดังนั้นถ้าใครจะทำขายก็สามารถทำขายได้เลย เพราะขนมครกชาววัง เป็นสูตรขนม ไทย ง่ายๆ ไม่ซับช้อน รับรองขายดีแน่นอน 

เทคนิคทำ ขนมครก ให้อร่อย เหมือนซื้อทานที่ร้าน 

การทำ ขนม ครก หลายคนบอกว่าสูตรขนมไทย ทำเองยากมากๆ แต่วันนี้เรามีเทคนิคการทำขนมครกสูตร ขนม ไทยชาววังให้อร่อย โดยต้องใส่น้ำปูนใสลงในส่วนผสมต่างๆ เพราะน้ำปูนใสจะทำให้ขนมมีความกรอบนอก นุ่มใน และต้องใช้กะทิคั้นสดจะทำให้ขนมมีกลิ่นหอมมันกว่ากะทิกล่องนั่นเอง และเมื่อหยอดขนมเสร็จแล้วจะต้องโรยหน้าขนมทันที เพื่อแป้งจะได้ยึดผสานหน้าขนมได้ดี 

อ่านบทความอื่นๆ:

• แชร์สูตร ขนมถ้วย ต้นตำรับโบราณ รสชาติหวานมัน หอมกลิ่นกะทิ

สนับสนุนโดย: https://hilo-88.com/ 

สำหรับใครที่กำลังมองหาขนมแป้งกรุบกรอบ รสชาติหวาน เค็ม และไม่เลี่ยน ขอแนะนำ ขนม กรอบเค็ม เนื้อแป้งกรอบ เคี้ยวเพลิน และรสชาติอร่อยกลมกล่อมฟินทุกคำ สำหรับคนที่ชอบทานขนมหวาน และชอบทำขนมเก็บไว้ทานเอง หรือทำฝากเพื่อนๆ วันนี้เรามีวิธีทำขนมกรอบเค็ม สูตรโบราณมาให้ทุกคนได้ลองทำตามแบบง่ายๆ ไม่ต้องอุปกรณ์เยอะแยะมากมาย เพียงแค่ใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ภายในบ้านก็สามารถขนมได้แล้ว

รวมวิธีทำขนม กรอบเค็ม แป้งกรุบกรอบ ทำง่ายๆ สไตล์ขนมโฮมเมด 

วันนี้เราจะมาแชร์สูตรทำขนมกรอบเค็ม สูตรขนมหวานแบบดั้งเดิม ทำง่ายๆ แถมรสชาติอร่อยแบบไม่มีเบื่อ และทำเก็บไว้ทานได้อีกหลายวัน หรืออยากทำขายก็สร้างกำไรได้อีกด้วย เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพเสริมที่ได้ทั้งเงิน และความสุขอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถทำเป็นของฝากให้ญาติผู้ใหญ่ หรือจะทำขนมกรอบเค็มทานกันในครอบครัวก็สามารถทำได้ สำหรับกรอบเค็ม คือ ขนมมีกลิ่นหอมเครื่องเทศสามเกลออย่างโดดเด่น ตัดความหวาน และแป้งกรอบๆ เคี้ยวเพลินสุดๆ ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราจะมาเริ่มกันที่เตรียมวัตถุดิบกันก่อน ดังนี้

ส่วน และวัตถุดิบของแป้ง

1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 300 กรัม
2. ไข่ไก่ 1 ฟอง
3. น้ำกะทิ 90 กรัม
4. น้ำปูนใส 1 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมสำหรับทำน้ำเชื่อมเคลือบ

1. น้ำตาลมะพร้าว 170 กรัม
2. น้ำเปล่า 4 ช้อนโต๊ะ
3. รากผักซี 4-5 ราก
4. กระเทียม 5 กลีบ
5. พริกไทยขาว 2 ช้อนชา
6. แบะแซ 30 กรัม
7. น้ำปลา 1 ช้อนชา
8. น้ำปลา 1 ช้อา
9. เกลือ ½ ช้อนชา

สำหรับการทำขนมกรอบ เค็มนั้นต้องใช้วัตถุดิบอย่างน้ำตาลมะพร้าว เพราะจะให้ขนมมีความหอมละมุน แต่ถ้าบ้านไหนไม่มีน้ำตาลมะพร้าวสามารถใช้น้ำตาลทรายได้เช่นกัน และในลำดับต่อมาจะเป็นวิธีการทำ สูตรกรอบเค็ม สไตล์ ขนมไทย โบราณอย่างง่าย 

1. นำแป้งสาลีอเนกประสงค์ และเกลือป่นลงในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นผสมส่วนผสมทั้งสองให้เข้ากัน จากนั้นทำหลุมตรงกลาง เสร็จแล้วใส่ไข่ไก่ลงไปตรงกลาง ตามด้วยหัวกะทิ น้ำมันพืช ทำการตะล่อมๆ ให้เข้ากัน 
2. จากนั้นใช้มือนวดแป้งให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วใช้ผ้าขาวบางคลุมไว้ประมาณ 10 นาที ต่อมาให้นำรากผักชี กระเทียม และพริกไทยขาวมาโขลกให้เข้ากัน เมื่อแป้งครอบกำหนดเวลาแล้วให้นำรีดให้เป็นแผ่นใช้มีดตัดเป็นรูปสามเหลี่ยม 
3. นำกระทะมาตั้งเตาใช้ไฟปานกลาง จากนั้นใส่แป้งลงไปทอดจนกว่าแป้งจะเป็นสีเหลืองสวยงาม ตักขึ้นมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
4. ขั้นตอนต่อมาเราจะมาทำน้ำตาลเคลือบ โดยนำน้ำตาลมะพร้าวลงไป ตามด้วยน้ำเปล่า จากนั้นเปิดไฟปานกลาง นำ 3 เกลอลงไปผัดให้เข้ากันจนกว่าส่วนผสมจะเหนียวขึ้น จากนั้นลดไฟลง ใส่แป้งที่ทอดไว้ลงไปคลุกเคล้าให้ทั่ว แล้วตักใส่จานทานได้เลย

จบแล้วไปแล้วกับขั้นตอนการทำขนมกรอบเค็ม แป้งกรอบ หอมกลิ่นสามเกลอที่มาพร้อมกับความหวานละมุนละไมอร่อยจนอดใจไม่ไหวอยากทานอีก แถมยังสามารถเก็บไว้ทานได้อีกหลายวันอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่ง ขนม ไทย ทำ ง่ายด้วยตัวเอง และขั้นตอนไม่ซับช้อนอย่างที่คิด 

ความลับ กรอบเค็ม ขนมทอดกรอบ หอมกลิ่นเครื่องเทศ หวานละมุนลิ้น 

ขนมกรอบเค็ม เป็นขนมที่มีวิธีขนม ไทย ง่ายๆ คนที่เป็นมือใหม่สามารถทำตามขั้นตอนทีนำม่แชร์ได้เลย แต่ขนมไทย ทำเองที่บ้านต้องระวังเรื่องการใช้ไฟในการทอดแป้ง อย่าใช้ไฟแรงเกินไป เพราะจะทำให้ขนมไหม้ และมีรสขมได้ นอกจากขั้นตอนรีบแป้งขนมกรอบเค็ม ตาม สูตร ขนม ไทยต้องให้ได้ความได้ความเท่าแผ่นเกี้ยวจะทำให้ทอดแล้วแป้งบางกรอบสุดๆ 

อ่านบทความอื่นๆ:

• สูตร ขนม กล้วย เนื้อกล้วยแน่นจุใจ หวานน้อย แต่อร่อยทานได้ทั้งวัน

สนับสนุนโดย: https://sa-game.bet/

มาเอาใจชาวคัสตาร์ดกันบ้าง กับเมนูเค้กสุดฟินทานได้ทั้งวันแบบไม่มีเบื่ออย่าง คัสตาร์ดเค้ก เป็นการนำเอาคัสตาร์ดมาผสมผสานกับเค้ก ทำให้รสชาติหวานละมุนไม่แสบคอ เพราะถ้าทานแค่คัสตาร์ดรสชาติจะแสบคอเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นเค้กคัสตาร์ดรสชาติจะละมุนกว่า อีกทั้งคัสตาร์ด เค้กเนื้อนุ่มฟูอร่อยฟินสุดๆ ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมาลองทำสูตรขนมเค้กคัสตาร์ดไว้ทานเป็นของว่างในหยุดกัน

สอนวิธีการทำ คัสตาร์ดเค้ก เนื้อเค้กนุ่ม หอมกรุ่นคาราเมลแบบจุใจ 

คัสตาร์ด เค้ก เป็นเมนูขนมเค้กที่มีความนุ่มนวล และรสชาติหวานอร่อยกำลังดี ทำให้เป็นอีกหนึ่งเมนูขนมเค้กที่หลายคนชอบทาน โดยสามารถหาทานได้ในร้ายขายขนม หรือร้านคาเฟ่ทั่วไป นอกจากนี้เมนูคาราเมล คัสตาร์ดเค้กสามารถทำทานเองได้ด้วย แต่ก่อนอื่นต้องหาซื้อวัตถุดิบ และเตรียมส่วนผสมทั้งหมดดังนี้

วัตถุดิบ และคาราเมลที่ต้องเตรียม

1. น้ำสะอาด 60 กรัม
2. น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
3. น้ำร้อนจัด 1 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมของคัสตาร์ด

1. ไข่แดง 4 ฟอง
2. ไบ่ไก่ 1 ฟอง
3. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
4. นมข้นจืด 300 กรัม
5. น้ำตาลทราย 20 กรัม
6. นมข้นหวาน 200 กรัม

วัตถุดิบ และส่วนผสมของเค้ก

1. น้ำตาลทราย 70 กรัม
2. ไข่ไก่ 3 ฟอง
3. กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
4. น้ำเปล่า 50 กรัม
5. นมข้นจืด 40 กรัม
6. ผงฟู 1 ช้อนชา
7. แป้งเค้ก 100 กรัม
8. เนยจืดละลาย 90 กรัม

สำหรับการทำเมนูเบเกอรี่อย่าง ขนมเค้กคัสตาร์ด ถ้าไม่ชอบหวานที่สามารถทำตาลลงได้ ในส่วนของวิธการทำสามารถทำตามได้ดังนี้

1. ขั้นตอนมาทำซอสคาราเมล โดยเทน้ำตาลทราย และน้ำลงไปในหม้อ จากนั้นนำไปตั้งเตาใช้ไฟอ่อนเคี่ยวน้ำตาลจนให้น้ำตาลมีสีน้ำตาลเข้ม เสร็จแล้วเทลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ 
2. ต่อมาทำคัสตาร์ด โดยการใส่ไข่ไก่ ไข่แดง น้ำตาลทราย และกลิ่นวานิลลาลงในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นใช้ตะกร้อตีส่วนผสมให้เข้ากัน ใส่นมข้นจืดลงไป ตามด้วยนมข้นหวาน คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
3. หลังจากที่คาราเมลเซตตัวเรียบร้อย ให้เทส่วนผสมคัสตาร์ดลงไปในพิมพ์ พักไว้ ในระหว่างนี้มาทำเค้กสปันจ์ เริ่มจากตีไข่ไก่ น้ำตาลทราย เกลือ และกลิ่นวานิลลาตีส่วนผสมให้จนเข้ากัน จากนั้นเติมน้ำตีส่วนผสมอีกครั้ง และเติมนมลงไปตีจยกว่าส่วนผสมจะฟู เสร็จแล้วเติมแป้งที่ร่อนไว้ และเนยลงไปตีส่วนผสมให้เข้ากัน 
4. นำส่วนผสมของแป้งที่ตีเสร็จเรียบร้อย เทใส่พิพ์คัสตาร์ด นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 170 องซาเซลเซียส เป็นเวลา 60 นาที ชัไฟบน-ล่าง เมื่อครบกำหนดเวลาให้อบต่อไปอีก 20 นาที เสร็จนำเค้กออกจากเตาอบ คว่ำหน้าเค้กหลับด้านบนจานที่เตรียมไว้ จากนั้นตัดเป็นชิ้นๆ พอดี ใส่จานได้เลย

วิธีอบคัสตาร์ดเค้ก หนึ่งในขนมเบเกอรี่ยอดนิยม ให้นำพิมพ์วางบนถาดน้ำร้อน พร้อมอบที่อุณภหภูมิ 170-180 องศา ใช้ไฟลบน-ล่าง เพราะการใส่น้ำร้อนจะทำให้ขนมเค้กมีความนุ่มนิ่มมากยิ่งขึ้น และการสังเกตว่าขนมสุกหรือไม่ให้ใช้มีดดันเค้กด้านข่างว่ามีคัดตาร์ดไหลออกมาหรือไม่ ถ้าไม่มีแสดงว่าเค้กสุกดีแล้ว 

ขอแนะนำเมนูสุดฮิต คัสตาร์ดเค้ก ทำทานก็อร่อย ทำขายสร้างกำไร 

คัสตาร์ดเค้กนอกจากจะเป็นขนมเค้กที่มีวิธีทำเบเกอรี่ง่ายๆ แล้วยังสามารถทำขายสร้างกำไรตั้งแต่วันแรกที่ทำขายกันเลยทีเดียว เพราะรสชาติของเบเกอรี่ทำเองจะมีความอร่อย เนื้อเค้กนุ่มนิ่ม หอมกลิ่นคาราเมลเข้มข้น ทำให้เป็นที่ติดอกติดใจหลายๆ คน อีกทั้งเบเกอรี่โฮมเมดที่ทำขายสามารถตกแต่ง หรือใส่ทอปปิ้งจำพวกผลไม้ต่างๆ บนขนมเค้ก คัสตาร์ดได้ตามใจชอบ 

อ่านบทความอื่นๆ:

• บัตเตอร์เค้ก สูตรเนื้อนุ่มละลายในปาก
• แจกสูตร เค้กมันม่วง เค้กเนื้อนุ่ม สีสวยจากธรรมชาติ ทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน

กล้วย ถือว่าเป็นผลไม้ที่มีอยู่แทบทุกบ้าน เพราะกล้วยมีรสชาติหวาน หอม และอิ่มท้องนาน ทำให้คนนิยมทานกันมากที่สุด นอกจากนี้กล้วย ยังสามารถนำมาทำเป็นขนมได้หลากหลายเมนู และหนึ่งในนั้นคือ กล้วยทอด เมนูยอดนิยมตลอดกาล เพราะแป้งกรอบผสมสานกับเนื้อกล้วยหวานอมเปรี้ยวอร่อยสุดๆ แถมยัสามารถได้ทุกวันไม่มีเบื่อ แต่ถ้าใครอยากลองทำกล้วยทอดทานที่บ้าน เรามีวิธี ทํา กล้วยทอด สูตรโบราณ แป้งบางกรอบ หอมกลิ่นงามคั่วละมุนละไม 

วิธีทำ กล้วยทอด แป้งไม่แข็ง ไม่อมน้ำมัน มือใหม่ ทำได้ง่ายๆ 

มาถึงมาถึงเมนูทอดๆ กันบ้างอย่าง อย่างกล้วยทอด เป็นขนมที่ทานมาตั้งสมัยเด็ก และเป็นเมนูที่สามารถทานได้ทุกวันไม่เบื่อ นอกจากนี้กล้วยทอดถือว่าเป็นเมนูที่ขายดีตลอดกาลอีกด้วย สำหรับรสชาติของเมนูนี้จะมีรสชาติที่หวาน กรอบ และนุ่มนิ่มอร่อยจนไม่สามารถเลิกทานได้เลย ดังนั้นถ้าบ้านใครมีกล้วยเหลือไม่รู้จะทำอะไรทานดี ขอแนะนำให้ทำกล้วยทอด เพราะส่วนผสมกล้วยทอดที่ใช้ทำน้อยมาก และสามารถซื้อได้ตามร้านค้าใกล้บ้าน 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ใช้ในการทำขนม

1. กล้วยน้ำว้า (ห่ามๆ) 1 หวี
2. น้ำตาลทราย 90 กรัม
3. แป้งทอดกรอบ 90 กรัม
4. หัวกะทิ 120 กรัม
5. เนื้อมะพร้าวขูด 50 กรัม
6. งาขาวดิบ 20 กรัม
7. น้ำปูนใส 1 ช้อนโต๊ะ
8. เกลือ ½ ช้อนโต๊ะ
9. ใบเตย 2-3 ใบ

สำหรับวัตถุดิบที่เตรียมไว้นั้น เป็นสูตรกล้วยทอด แป้งกรอบ ไม่แข็ง และเนื้อกล้วยไม่เละ แถมยังเป็นสูตรอย่างง่ายที่สามารถทำตามได้ อีกทั้งกล้วยไม่อมน้ำมันอีกด้วย ในส่วนของวิธีกล้วยทอด ง่ายๆ แบบฉบับ ขนมไทย โบราณดังนี้ 

1. อันดับแรก มาเริ่มกันที่นำแป้งทอดกรอบ และหัวกะทิ นำมาใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ เสร็จแล้วใช้ตะกร้อคนพอให้เข้ากัน หลังจากนั้นใส่น้ำปูใส คนส่วนสผมให้เข้ากัน จนกว่าแป้งจะมีเนื้อแป้งจะเป็นเนื้อเดียวกัน 
2. ต่อมาให้ใส่น้ำตาลทราย และเกลือลงไป จากนั้นคนให้น้ำตาลทรายละลายดี แล้วใส่เนื้อมะพร้าวขูดที่คั้นเอาน้ำกะทิออกหมดแล้ว ตามด้วยงาขาว ทำการคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จนกว่าน้ำตาลจะละลายหมด 
3. นำกล้วยที่เตรียมไว้มาปอกเปลือก และทำการหั่นกล้วยเป็นแนวยาว ความหนาประมาณ 0.5 เซนติเมตร จากนั้นนำกระทะมาตั้งเตาใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันให้ท่วม นำกล้วยมาชุปแป้ง แล้วนำลงไปทอดในน้ำมันเดือด โดยจะใส่ทีละชิ้น ตามด้วยใบเตยหั่นลงไปทอดด้วย เพื่อให้กล้วยมีความหอมมากขึ้น ทอดไปเรื่อยจนกว่าแป้งจะมีสีเหลืองสวยงาม
4. เสร็จแล้วตักกล้วยขึ้นมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน หลังจากที่กล้วยเริ่มเย็นตัวแล้ว นำกล้วยจัดใส่จานพร้อมทานได้เลย

ขนมกล้วยทอด สูตรขนม หวาน ไทย หลังจากที่เสร็จใหม่แป้งจะกรอบมากๆ ดังนั้นถ้าอยากทานกล้วยทอดให้อร่อยต้องทานตอนทอดใหม่ๆ สำหรับการทอดกล้วยครั้งหนึ่งสามารถทานได้ทั้งครอบครัว และทานได้เรื่อยๆ แบบไม่รู้เบื่อ แถมรสชาติหวาน หอม ยิ่งเพิ่มความอยากทานมากขึ้นเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเป็นขนม ไทย ทำ ง่ายมากๆ มือใหม่ก็ทำทานได้ 

ขนมกล้วยทอด ขนมสุดฮิต ทานได้ทุกวัน แถมมีโยชน์เพียบ 

กล้วย ทอด เป็นขนม ไทย ง่ายๆ โดยสามารถทำตามสูตรที่เรานำมาแชร์ได้เลย อีกทั้งขนมไทย ทำเองนั้นอร่อยเหมือนกัน แถมแป้งกรอบอร่อย เนื้อกล้วยนุ่มนิ่มอีกด้วย ที่สำคัญกล้วยทอดยังเป็นสูตรสูตร ขนม ไทยโบราณที่สามารถทำขายได้กำไรตั้งแต่ครั้งที่ขายเลยทีเดียว นอกจากนี้กล้วยยังมีประโยชน์มากมาย อาทิ รักษาโรคกระเพาะ บรรเทาอาการเจ็บคอ เป็นต้น

อ่านบทความอื่นๆ:

• สูตร ขนม กล้วย เนื้อกล้วยแน่นจุใจ หวานน้อย แต่อร่อยทานได้ทั้งวัน
• เค้กกล้วยหอม ฟูนุ่ม หอมอร่อย ลองทำดู

สำหรับคนที่ชอบทานขนมเค้กอยู้แล้วไม่ควรพลาด เพราะเรามีหนึ่งสูตรขนมเค้กที่อยากแนะนำให้ลองทาน อย่าง เค้กแครอท เป็นการนำแครอทมาทำเป็นขนมเค้ก ทำให้เนื้อเค้กมีสีส้มผสมผสานกับครีมชีสหอมหวานอร่อยอย่างลงตัว จึงเรียกสูตรนี้ว่าเค้กแครอทครีมชีส ซึ่งสูตรนี้เป็นที่นิยมในกล่มสาวๆ ที่กำลังลดน้ำหนัก ลดน้ำตาล หรือคุมน้ำหนัก เพราะทานแล้วไม่อ้วน แถมยังสุขภาพอีกด้วย

เปิดขั้นตอนทำ เค้กแครอท เนื้อเค้กชิฟฟ่อน ครีมชีสฉ่ำๆ หวานอร่อย แต่ไม่อ้วน

วันนี้เราจะมาแชร์สูตรขนมเค้กแครอทที่มีรสชาติหวาน หอม และอัดแน่ไปด้วยครีมชีสฉ่ำๆ ทานได้ทุกวันไม่อ้วน และไม่มีเบื่อ แม้คนที่คุมน้ำหนักทานได้ นอกจากนี้ขนมเค้กสูตรนี้สามารทำเป็นสูตรเค้กแครอท คลีนไร้น้ำตาล ทานแล้วสุขภาพ และยังมีต่อร่างกายอีกด้วย เรียกว่าได้ทั้งความอร่อย และประโยขน์ต่อสุขภาพไปพร้อมๆ กันเลยทีเดียว ในส่วนสูตรที่ใช้ทำคือ สูตร เค้กแครอทเค้กแครอท ใน ตำนานหาทานได้ยาก ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างไปดูกันเลย

วัตถุ และส่วนผสมที่ต้องเตรียมให้พร้อม

1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 150 กรัม
2. แครอท 200 กรัม
3. เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา
4. ผงฟู ½ ช้อนชา
5. ชินนามอน ¼ ช้อนชา
6. นัทแม็ก ½ ช้อนชา
7. เกลือ ½ ช้อนชา
8. น้ำตาลทรายแดง 60 กรัม
9. น้ำตาลทรายขาว 50 กรัม
10. น้ำมันคาโนล่า 130 กรัม
11. ไข่ไก่ 2 ฟอง
12. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
13. เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 50 กรัม
14. ลูกเกด 50 กรัม

ส่วนผสมของครีมชีสฟรอสติ้ง

1. ครีมชีส 120 กรัม
2. เนยจืด 70 กรัม
3. น้ำตาลไอซิ่ง 70 กรัม

สำหรับส่วนของเบเกอรี่ที่เป็นน้ำตาล หากไม่รสชาติมากสามารถน้ำตาลลงได้ตามความชอบ ในลำดับต่อมาจะเป็นวิธีการทำเบเกอรี่ยอดนิยมอย่างขนมเค้กสูตรแครอท โดยเริ่มจาก

1. นำแครอทมาปอกเปลือกออก และขูดให้เป็นเส้นเล็กๆ จากนั้นนำแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู และเบคกิ้งโซดา มาร่อนในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นเตรียมผงซินนาม่อน ผงนัทเม็ก และเกลือ ตามลงไป เสร็จแล้วใส่น้ำตาลทรายขาว น่ำตาลทรายแดง ไข่ไก่ น้ำมันพาโนร่า และกลิ่นวานิลลาลงไปในภาชนะ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
2. หลังจากนั้นค่อยๆ ใส่ส่วนผสมของแป้งลงไป และทำการคนส่วนผสมให้เข้ากัน หลังจากนั้นตามด้วยแครอท ลูกเกด คนให้เข้ากัน
3. นำมาเทใส่พิมพ์ นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที ในระหว่างที่รอขนมอบ ให้นำครีมชีส และเนยจืดตีให้ขั้ตฟู จากนั้นใส่น้ำตาลไอซ์ซิ่งลงไป ตีต่อไปให้เข้ากัน 
4. นำเค้กที่อบเสร็จแล้วมาพักไว้ปาดด้วยครีมชีส และโรยหน้าด้วยแครอทเล็กน้อย เป็นเสร็จเรียบร้อย

เค้ก แครอท ที่ทำเสร็จแล้วจะมีความหอม และเนื้อเค้กนุ่มละมุน พร้อมกลิ่นครีมชีสเข้มข้นสุดๆ ส่วนรสชาติหวานอร่อยสุดๆ เรียกว่าเป็นขนมเบเกอรี่ง่ายๆ ที่สามารถเองได้ และอร่อยเหมือนทานที่ร้านอีกด้วย

ขนม เค้กแครอท เพื่อสุขภาพ ทำง่าย มีประโยชน์ ไม่อ้วน 

สำหรับคนรักสุขภาพแต่อยากทานขนม ขอแนะนำเค้กแครอทสูตรคลีน ไร้น้ำตาล และแป้ง ส่วนวิธีทำนั้นสามารถทำตามขั้นตอนที่เรานำมาแชร์ได้เลย เพียงแต่เปลี่ยนจากแป้งเป็นข้าวโอ๊ต และน้ำตาลทรายเป็นสารให้ความหวานแทน เพียงแค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยสำหรับเมนูเบเกอรี่ทำเองง่ายๆ แถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกายไปในตัวอีกด้วย ที่สำคัญสูตรเบเกอรี่โฮมเมดที่นำมาแชร์นั้นสามารถทำขายได้กำไรดีสุดๆ 

อ่านบทความอื่นๆ:

• เค้กนมสด เค้กวันเกิดทำเองได้ง่ายๆ อุปกรณ์น้อย
• แจกสูตร เค้กมันม่วง เค้กเนื้อนุ่ม สีสวยจากธรรมชาติ ทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน

หากพูดถึง เครปโรล ถือว่าเป็นเมนูขนมหวานที่มีแป้งบางนุ่มอัดแน่นไปด้วยไส้วิปครีมทะลัก เนื้อสัมผัสนุ่มนิ่มละลายในปาก เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานวิปครีมสุดๆ อีกทั้งยังเป็นเครปที่สามารถทานได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ หรือทานได้ทั้งครอบครัวเลยทีเดียว นอกจากนี้เครปแบบม้วนยังเป็นขนมหวานที่สามารถทำง่ายๆ ซึ่งอุปกรณ์ ทำ เค ร ป โรลมีน้อยนิด ส่วนขั้นตอนการทำก็ไม่ซับช้อนทำง่ายมากๆ คนที่ไม่เคยทำขนมมาก่อนก็สามารถทำได้สบายมาก

ขั้นตอนทำ เครปโรล แป้งนุ่มละมุน ไส้เน้นๆ อย่างง่าย ไม่ยุ่งยาก อร่อยจนต้องทำอีก 

มาถึงเมนูที่ทุกคนรอคอยอย่าง เครป โรล เมนูที่ขึ้นชื่อว่าไส้เยอะที่สุด แถมยังเป็นขนมที่สามารถทำทานได้เองที่บ้าน โดยที่ไม่ต้องเป็นลงคร์อสเรียนให้เสียเวลาก็สามารถทำขนมได้เช่นกัน ว่าจะทำขนมโรลเครปสูตรไหนดีที่ทำง่าย และไม่ใช้วัตถุดิบเยอะเกินไป ขอแนะนำเครปโรลโอริโอ้ รสชาติหวานเข้ม หอมกลิ่นโอริโอ้สุดๆ และที่สำคัญวัตถุดิบแสนน้อย แถมยังประหยัดงบในการซื้อวัตถุดิบอีกด้วย นอกจากนี้ส่วนผสมของสูตรขนมเครปยังใช้น้อยมาก แต่ก่อนที่เราจะเริ่มทำเครปแบบโรล เราต้องมาเตรียมส่วนผสมให้พร้อมกันก่อน

1. โอริโอ 5 ห่อ
2. นมสดรสจืด 3 ช้อนโต๊ะ
3. นมข้นหวาน 3 ช้อนโต๊ะ

หลังจากที่เตรียมส่วนผสมแล้วจะเห็นว่าวัตถุดิบ และส่วนผสมในการทำเครปแบบโรลนั้นน้อยมาก และยังสามารถซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาด และที่สำคัญใช้ไม่เยอะ ดังนั้นวัตถุดิบที่ใช้ไม่หมดสามารรถนำมาใช้ขนมเบเกอรี่ได้ในรอบต่อไป 

1. มาเริ่มกันที่ขั้นตอนแรกกันเลย โดยนำขนมโอริโอ้มาแยกตัวครีมออกจากคุกกี้ จากนั้นนำมาใส่ถุงซิปล็อค หรือถุงพลาสติก จากนั้นใช้ไม้พายค่อยๆ บดคุกกี้ให้ละเอียด เสร็จแล้วเทใส่ภาชนะสำหรับผสมที่เตรียมไว้ 
2. ใส่นมสดที่เตรียมไว้ลงไป ตามด้วยนมข้นหวาน จากนั้นค่อยๆ นวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน หรือนวดจนกว่าคุกกี้จะเป็นเนื้อเดียวกัน สำหรับขั้นตอนการนวดอย่าลืมทาเนยที่ถุงมือ เพื่อไม่ให้คุกกี้ติดถุงมือ ทำการนวดไปเรื่อยๆ จนกว่าส่วนผสมของคุกกี้จะเป็นจะเป็นเนื้อเหนียวหนึบหนับ
3. นำคุกกี้ที่นวดเสร็จแล้วมาวางบนกระดาษไข จากนั้นค่อยๆ รีดให้เป็นแผ่นๆ เมื่อคุกกี้เป็นแผ่นแล้วให้ใช้มีดตัดคุกกี้ให้เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมเท่าๆ กัน นำไส้ครีมที่แยกไว้ใส่ลงไปบนแผ่นคุกกี้เกลี่ยไส้ให้ทั่วแผ่นคุกกี้ เสร็จแล้วนำไปแช่ตู้เย็น 
4. นำเครปออกจากตู้เย็น นำมาตัดขนาดตามความต้องการ จากนั้นจัดวางใส่จานเพียงแค่นี้เป็นเสร็จเรียบร้อย 

เครปโรลสูตรโอริโอ้ จะใช้ขนมโอ้แทนแป้งเครป ซึ่งจะมีความหนึบหนับ และรสชาติมีความอร่อย แบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม ดังนั้นรสชาติที่ได้จึงเป็นรสชาติของขนมผสมสานกับนมจืดที่เพิ่มความหอมอร่อยมากขึ้น สำหรับขนมเครปแบบโรลเป็นขนมที่มีเนื้อแป้งที่นุ่มนิ่ม และสอดไส้ด้วยวิปครีมเป็นหลัก โดยจะมีความแตกต่างจากเครปญี่ปุ่นที่เนื้อแป้งจะกรอบๆ และไส้ค่อนข้างหลากหลายกว่านั้นเอง 

แชร์สูตรลับความอร่อย เครปโรลสูตรโอริโอ้ หวานนุ่ม คุกกี้โอริโอ้จัดเต็ม

เครปโรลถือว่าเป็นเมนูเบเกอรี่ยอดนิยม และทำง่ายที่สุด โดยส่วนผสม และวัตถุดิบหาได้ง่าย อีกทั้งไม่ต้องมีอุปกรณ์เยอะก็สามารถขนมได้ เรียกว่าเป็นเมนูเบเกอรี่ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอนก็สามารถทำเสร็จ และใช้เวลาไม่นานอีกด้วย สำหรับเครปโอริโอ้ที่เป็นเบเกอรี่ทำเองจะมีความนุ่มหวานละมุน และอยากให้รสชาติมีความอร่อยมากขั้นสามารถนำเครปโอริโอ้ หนึ่งในสูตรเบเกอรี่โฮมเมด ไปแช่เย็นก่อนนำมารับประทาน เนื้อขนมจะหนึบหนับทานแล้วได้ความฟินทุกคำ 

อ่านบทความอื่นๆ:

• บัตเตอร์เค้ก สูตรเนื้อนุ่มละลายในปาก
• ขนมปังฮอกไกโด สอดไส้ครีมคัสตาร์ด ขนมปังเนื้อนุ่ม หอมกลิ่นนม สไตล์ญี่ปุ่น