Categories
เบเกอรี่

FOCACCIA ขนมปังทำง่าย สูตรไม่ต้องเปลืองเวลานวด

FOCACCIA

FOCACCIA โฟคาชช่า หรือ ฟอคคาเซีย ขนมปังโบราณที่ได้รับความนิยมมากในประเทศอิตาลี มีรสชาติหวาน เค็ม อร่อย มีกลิ่นหอม สามารถรับประทานได้ในทุกมื้ออาหาร มีต้นกำเนิดในแคว้น LIGURIA เมืองทางตอนเหนือ ติดทะเล ด้วยความที่มีอากาศหนาวเย็น และมีไอเกลือ ทำให้ยีสต์ที่ใช้ทำขนมปังทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงทำให้ขนมปังชนิดนี้มีรูปร่างแบน แปลกตากว่าขนมปังชิ้นอื่น ๆ 

วัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีการทำ FOCACCIA ต้นตำรับพิซซ่าดั้งเดิม

รู้หรือไม่ว่า “พิซซ่า” ที่เรารับประทานกันอยู่เป็นประจำนั้น มีต้นกำเนิดมาจาก FOCACCIA หรือขนมปังแบน อีกทั้งยังเชื่อกันว่าเป็น อาหารประจำชาติ เมนูแรกของอิตาลี วัตถุดิบสูตรดั้งเดิมประกอบด้วยน้ำ แป้ง และน้ำมันมะกอกเพียงเท่านั้น ก่อนจะถูกส่งต่อกันมารุ่นต่อรุ่น และถูกพัฒนาปรับปรุงสูตรจนกลายเป็นฟอคคาเซียอย่างในปัจจุบัน หากใครอยากลองรับประทาน เราก็ไม่พลาดที่จะนำสูตรวิธีการทำมาบอกต่อให้ได้ลองทำตามกันง่าย ๆ ดังนี้

วัตถุดิบทำขนมปัง

  1. แป้งทำขนมปัง หรือแป้งอเนกประสงค์ 250 กรัม 
  2. น้ำอุ่น 190 มิลลิลิตร
  3. ยีสต์ผง 1 ช้อนชา
  4. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
  5. น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ

วัตถุดิบสำหรับแต่งหน้าขนมปัง

  1. โรสแมรี่ ปริมาณตามชอบ
  2. น้ำมันมะกอก ปริมาณตามชอบ
  3. มะเขือเทศเชอรี่ ปริมาณตามชอบ
  4. มะกอกดำ ปริมาณตามชอบ
FOCACCIA

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. ขั้นตอนแรกผสมแป้งอเนกประสงค์กับเกลือเข้าด้วยกัน ตามด้วยการใส่ยีสต์แล้วคนให้เข้ากัน เตรียมชามผสมอีกหนึ่งชามเพื่อใส่น้ำอุ่น และน้ำมันมะกอก จากนั้นนำแป้งที่เตรียมไว้ใส่ลงไป ใช้ไม้พายกวนส่วนผสมให้จับตัวเป็นก้อน และไม่มีผงแป้ง 
  2. เมื่อแป้งได้ที่แล้วให้ห่อชามผสมด้วยแผ่นฟิล์มถนอมอาหาร พักไว้ 20 นาที จากนั้นเทน้ำมันมะกอกใส่ลงไปในชามผสมเล็กน้อย ใช้มือจุ่มน้ำ และยืดแป้งเขย่าเล็กน้อย ก่อนจะพับทบเข้าหากันจนเป็นรูปสี่เหลี่ยม ทำซ้ำทั้งสี่ด้านแล้วกลับด้านแป้ง พักไว้อีก 20 นาที นำออกมาทำซ้ำ และพักแป้งครั้งที่ 3 ด้วยเวลาเท่าเดิม
  3. เตรียมถาดสี่เหลี่ยมสำหรับอบ ทาด้วยน้ำมันมะกอกให้ทั่วพิมพ์ โรยเกลือใส่ลงไปเล็กน้อย และนำแป้งที่เตรียมไว้แผ่ลงไปให้ทั่วพิมพ์ ใช้ปลายนิ้วมือกดให้ทั่วพิมพ์ ห่อด้วยฟิล์มถนอมอาหาร พักไว้ 30 นาที
  4. โรยน้ำมันมะกอกลงไปให้ทั่วแป้ง จากนั้นตกแต่งหน้าขนมปังด้วยโรสแมรี่ มะเขือเทศเชอรี่ และมะกอกดำ ตกแต่งเสร็จแล้วใช้ปลายนิ้วกดลงไปที่แป้งให้ทั่วอีกครั้ง 
  5. นำขนมปังเข้าอบด้วยอุณหภูมิ 220 องศา เป็นเวลา 25 นาที หรือจนกว่าขนมปังจะสุกดี (แล้วแต่ความหนาของแป้ง) เสร็จแล้วนำออกจากเตาอบ ตัดแบ่งเป็นชิ้นแล้วนำมารับประทานร้อน ๆ ได้เลย
FOCACCIA

ฟอคคาเซีย มีเสน่ห์ตรงรูปร่างของขนมที่ไม่แน่นอน สามารถทำได้ทั้งรูปสี่เหลี่ยม วงกลม หรือรูปร่างอื่น ๆ และด้วยความนิยม ทำให้ ขนมปังอิตาลี ชิ้นนี้มีมากมายหลากหลายสูตร ที่มีความแตกต่างกันอย่างลงตัว สามารถรังสรรค์ใส่สมุนไพร หรือวัตถุดิบอื่น ๆ เพิ่มเข้าไปเพิ่มรสชาติได้อร่อยเข้ากัน อีกทั้งยังเพิ่มสีสันให้น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น อย่าลืมนำสูตรเบเกอรี่ขนมปังไปลองทำกันที่บ้านนะคะ

Categories
ขนมไทย

ขนมลืมกลืน สูตรหวานมัน เนื้อเหนียวนุ่มละลายในปาก

ขนมลืมกลืน

ขนมลืมกลืน หนึ่งในขนมไทยโบราณประเภทกวนที่หลายคนยังไม่รู้จัก มีลักษณะเป็นชิ้นเล็กๆประกอบด้วยสองส่วนที่แตกต่างกัน คือส่วนของตัวขนมสีหวานที่ทำมาจากแป้งถั่วเขียว หรือแป้งซ่าหริ่มเหนียวนุ่ม และหน้าขนมจากกะทิหวานมัน โรยด้วยถั่วทองเพิ่มความกรอบ เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะสัมผัสได้ถึงความหวาน มัน เค็ม เรียกได้ว่าเป็นขนมไทยที่อร่อยครบในชิ้นเดียวเลยจริงๆ

วัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีทำ ขนมลืมกลืน ขนมไทยโบราณหาทานยาก

การทำขนมลืมกลืน นั้นสามารถทำได้ง่าย ใช้วัตถุดิบที่หาได้ทั่วไป ไม่ต้องทำหลายขั้นตอนเหมือนอย่างในสมัยก่อน ที่ต้องเตรียมวัตถุดิบเองตั้งแต่ขั้นตอนแรก เนื่องจากยุคสมัยที่เปลี่ยนไปก็มีการรังสรรค์วัตถุดิบสำเร็จรูปขึ้นมา เพื่อให้การ ทำขนมไทย ในแต่ละครั้งสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ในสมัยก่อนนั้นมักจะใช้กระทงใบตองในการใส่ขนม เพื่อให้ได้ความหอมของกลิ่นใบตอง แต่ในปัจจุบันสามารถใช้พิมพ์วุ้นในแทนที่ขนมลืมกลืนใบตอง ได้เลย

วัตถุดิบทำตัวขนมลืมกลืน

  1. แป้งถั่วเขียว 80 กรัม
  2. น้ำเปล่า 800 กรัม
  3. น้ำตาลทรายขาวปั่นละเอียด 240 กรัม
  4. สารแต่งกลิ่นตามชอบ 1/4 ช้อนชา
  5. สีผสมอาหารตามชอบ

วัตถุดิบทำหน้ากะทิ

  1. หัวกะทิ 300 กรัม
  2. แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนตวง
  3. แป้งถั่วเขียว 2 ช้อนตวง
  4. น้ำตาลทราย 1 ช้อนตวง
  5. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
  6. ถั่วทองทอด สำหรับตกแต่ง
  7. ถ้วยวุ้นขนาดเล็ก 50 ถ้วย
ขนมลืมกลืน

ขั้นตอนวิธีการทำ 

  • ขั้นตอนแรกในการทำขนมลืมกลืน ให้เตรียมชามผสมแล้วใส่แป้งถั่วเขียว น้ำตาลทราย สารแต่งกลิ่น และน้ำเปล่าลงไป ใช้ตะกร้อมือคนผสมให้ละลายเข้ากัน
  • แบ่งส่วนผสมในขั้นตอนที่ 1 ใส่ชามผสมในปริมาณเท่ากันตามจำนวนสีที่เลือกใช้ ผสมสีผสมอาหารลงไปคนให้เข้ากัน
  • เทแป้งสีแรกใส่กระทะแล้วเปิดเตาด้วยไฟอ่อน กวนแป้งไปในทางเดียวกันตลอดเวลาจนกว่าแป้งจะสุกใส เสร็จแล้วปิดเตานำไปเทใส่ถุงบีบแล้วบีบใส่พิมพ์วุ้น (บีบในขณะที่แป้งร้อน เพื่อให้แป้งเรียบ) ทำซ้ำขั้นตอนนี้กับสีอื่นๆที่เลือกใช้
  • ต่อมาเป็นขั้นตอนการทำหน้ากะทิ เริ่มจากการใส่กะทิ แป้งข้าวจ้าว แป้งถั่วเขียว และเกลือลงไปในกระทะแล้วคนให้ละลายเข้ากันดี เปิดเตาด้วยไฟอ่อน จากนั้นคนตลอดเวลาเพื่อให้กะทิสุกข้น ปิดเตาได้แล้วตักกะทิใส่ถุงบีบ นำไปบีบตกแต่งบนหน้าขนมให้สวยงาม โรยด้วยถั่วทองทอด เป็นอันเสร็จสิ้น
ขนมลืมกลืน

ก่อนจะจากกันไปในบทความ สอนทำขนมไทย เมนูนี้ เราขอฝากข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของชื่อขนมลืมกลืน ที่มีอยู่หลายเรื่องราวที่เล่าสืบต่อกันมา บ้างก็บอกว่า เมนูขนมไทย เมนูนี้อร่อยเสียจนคนที่ได้กินเคี้ยวเพลินจนลืมกลืนเลยทีเดียว บ้างก็บอกว่าชื่อนี้มาจากความนุ่มลื่น เคี้ยวแล้วกลืนง่ายของขนม เป็นที่มาของชื่อ

Categories
เบเกอรี่

คัพเค้ก เบเกอรี่ชิ้นเล็ก แต่งหน้าหลากหลาย อร่อยได้ไม่มีเบื่อ

คัพเค้ก

คัพเค้ก หรือ CUPCAKE เบเกอรี่รูปร่างหน้าตาคล้ายเค้กชิ้นเล็กที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ เป็นเบเกอรี่ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกค้นพบครั้งแรกในช่วงปี ค.ศ. 1828 หรือในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 โดยมีเรื่องเล่ากล่าวถึง เบเกอรี่เค้กชิ้นเล็ก นี้ว่าถูกคิดค้นสูตรโดยแม่บ้านที่มีความต้องการอยากทำเค้กชิ้นเล็กให้กับสมาชิกในบ้านได้รับประทาน จึงได้ใช้ถ้วยอาหารขนาดเล็กมาใช้แทนพิมพ์เค้กปอนด์ จากนั้นก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ

วัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีทำ คัพเค้ก แสนอร่อย

ในบทความนี้เราก็ไม่พลาดที่จะนำเอา สูตรคัพเค้ก แบบง่าย ๆ มาบอกต่อให้ทุกคนได้ลองทำรับประทานกันเองที่บ้าน โดยตกแต่งหน้าตาเบเกอรี่ได้ตามชอบ ไม่ว่าจะเป็นคัพเค้กแฟนตาซี , คัพเค้กการ์ตูน หรือแม้แต่คัพเค้กวันเกิดก็สามารถทำได้ โดยสูตรนี้สามารถทำ คัพเค้ก ได้ 20 ถ้วย หากต้องการทำในปริมาณที่เพิ่มขึ้น หรือลดลง สามารถปรับอัตราส่วนได้เลยค่ะ

วัตถุดิบทำเค้ก

  1. แป้งเค้ก 75 กรัม
  2. ผงฟู 1/2+1/4 ช้อนชา
  3. ไข่ไก่เบอร์ 2 3 ฟอง
  4. น้ำตาลทรายละเอียด 75 กรัม
  5. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
  6. นมสดรสจืด 40 กรัม
  7. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  8. เอสพี 11 กรัม
  9. น้ำมันรำข้าว 57 กรัม

วัตถุดิบแต่งหน้าขนม

  1. วิปปิ้งครีมนอนแดรี่ 350 กรัม
  2. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  3. สีผสมอาหารตามชอบ
  4. วัตถุดิบตกแต่งหน้าขนมตามชอบ
คัพเค้ก

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. ขั้นตอนแรกใส่ไข่ นมสดรสจืด เกลือป่น น้ำตาลทราย และกลิ่นวานิลลาลงไปในชามผสม ตามด้วยการร่อนแป้งกับผงฟูลงไป 
  2. ใช้ตะกร้อมือตีให้เข้ากันเพื่อป้องกันไม่ให้แป้งฟรุ้งกระจาย ตามด้วยการนำไปตีด้วยเครื่องผสมอาหารสปีดต่ำสุด ปิดเครื่องแล้วปาด SP ใส่หัวตะกร้อ เปิดเครื่องตีต่อด้วยสปีดสูงสุดประมาณ 5 นาที จนส่วนผสมขึ้นฟู ตีต่อด้วยสปีดกลางเป็นเวลา 2 นาที ระหว่างนี้ให้ทยอยเทน้ำมันที่เตรียมไว้ใส่ลงไปจนหมด และตีต่อเป็นเวลา 3 นาที จนแป้งไหลเป็นสาย ไม่ข้นจนเกินไป เสร็จแล้วนำแป้งใส่ถุงบีบ
  3. เตรียมถ้วยคัพเค้กขนาด 5 CM. วางเรียงกันในถาดรองอบ จากนั้นหยอดแป้งลงไปในปริมาณ ¾ ของถ้วยตวง เมื่อครบทุกถ้วยแล้วให้กระแทกถาดรองอบเบา ๆ เพื่อไล่ฟองอากาศ และนำไปอบด้วยอุณหภูมิ 170 องศา ไฟบนล่าง เปิดพัดลม เป็นเวลา 15 – 20 นาที แล้วนำออกมาพักไว้ให้เย็น
  4. เตรียมชามผสม ใส่วิปครีม และกลิ่นวานิลลาลงไปตีด้วยสปีดกลางจนส่วนผสมขึ้นฟู ตั้งยอดแข็ง จากนั้นตีต่อด้วยสปีดต่ำเพื่อตัดอากาศ ให้ส่วนผสมเนียนขึ้น เสร็จแล้วนำมาแยกใส่สีผสมอาหารได้ตามชอบ และนำไปใส่ลงไปในถุงบีบ
  5. บีบวิปครีมลงไปตกแต่งหน้าขนม โดยเริ่มบีบวนจากตรงกลาง ก่อนจะวนขึ้นด้านบนให้สวยงาม ตกแต่งด้วยวัตถุดิบสำหรับแต่งหน้าขนมได้ตามชอบ เป็นอันเสร็จสิ้น รับประทานได้เลย
คัพเค้ก

การทำคัพเค้ก สามารถทำได้ง่ายกว่า ขนมเค้ก ทั่วไป แม้ว่าจะใช้วัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีการทำที่คล้ายกัน แต่สามารถรังสรรค์ตกแต่งหน้าตาได้หลากหลายกว่า และทำครั้งเดียวได้หลายชิ้น แบ่งกันรับประทานได้อย่างจุใจ แถมขั้นตอนการแต่งหน้าเค้กยังง่ายดาย และเต็มไปด้วยความสนุกสนาน นำไปเป็นกิจกรรมยามว่างกับครอบครัวได้ อย่าลืมนำเอา สูตรคัพเค้ก ไปลองทำตามที่บ้านนะคะ

Categories
เบเกอรี่

เค้กแครอท การผสมผสานที่ลงตัวของแครอท และครีมชีส

เค้กแครอท

เค้กแครอท หรือแครอทเค้ก ขนมหวานทานง่ายมีส่วนผสมของผักสีส้มมากล้นประโยชน์ มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และได้รับความนิยมเรื่อยมาในหมู่คนรักสุขภาพ และคนที่ชอบทานขนมหวาน ด้วยหน้าตาของขนมที่แปลกตาเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนเค้กชิ้นอื่น ๆ แถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนั้น เราจึงได้นำสูตรการทำขนมง่าย ๆ มาให้ทุกคนได้ลองทำกันในบทความนี้

วัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีการทำ เค้กแครอท

ใครที่ยังไม่เคยรับประทานเค้กแครอท มาก่อนเลย ขอบอกว่า แครอทเค้ก มีเนื้อนุ่ม แน่น ชุ่มฉ่ำ ได้เนื้อสัมผัสกรุบ ๆ ของแครอทในระหว่างรับประทาน รสหวานของเครื่องเทศ และส่วนผสมอื่น ๆ ผสานกับ ครีมชีสรสเปรี้ยว แล้วเข้ากันเป็นอย่างดี อีกทั้งยังหอมกลิ่นอบเชย หากได้ลองทานสักครั้งรับรองว่าต้องติดใจอย่างแน่นอน 

วัตถุดิบทำเนื้อเค้กแครอท

  1. เนื้อแครอทขูด  225 กรัม 
  2. น้ำตาลทราย 215 กรัม
  3. เนยเค็มละลาย 180 กรัม 
  4. แป้งเค้ก 225 กรัม 
  5. ผงฟู 2 ช้อนชา
  6. เบกกิ้งโซดา 1+1/2 ช้อนชา.
  7. ผงอบเชย  4 กรัม
  8. ไข่ไก่ 4 ฟอง
  9. วอลนัท 80 กรัม

วัตถุดิบทำครีมชีส

  1. ครีมชีส 125 กรัม
  2. วิปปิ้งครีม 100 กรัม
  3. น้ำตาลไอซิ่ง 35 กรัม 
  4. น้ำเลม่อน 5 กรัม
เค้กแครอท

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. ขั้นตอนแรกใส่ไข่ไก่ และน้ำตาลทรายลงไปในชามผสม ตีด้วยเครื่องผสมอาหารด้วยสปีดกลาง จนไข่ไก่มีสีอ่อนลง และขึ้นฟู ระหว่างรอให้ร่อนแป้ง ผงฟู และเบกกิ้งโซดาลงในชามผสมอีกชาม จากนั้นทยอยเทลงไปรวมกับส่วนผสมส่วนแรกจน
  2. เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ให้ทยอยใส่ผงอบเชย กลิ่นวานิลลา และเนยละลายลงไปผสมในระหว่างที่เครื่องยังทำงาน ตีต่อสักครู่แล้วปิดเครื่องได้เลย
  3. ใส่แครอท และวอลนัทลงไปในชามผสมในขั้นตอนที่ 2 ตีด้วยเครื่องผสมอาหารสปีดกลาง จากนั้นปิดเครื่องนำส่วนผสมไปเทใส่พิมพ์สี่เหลี่ยมขนาด 8×8 นิ้ว (รองด้วยกระดาษรองอบ) จากนั้นเคาะถาดกับพื้นเล็กน้อยเพื่อไล่ฟองอากาศ
  4. นำขนมเข้าเตาอบด้วยอุณหภูมิ 175 องศา ไฟบนล่าง เป็นเวลา 40 – 45 นาที ครบเวลาแล้วนำออกจากพิมพ์มาพักไว้ให้เย็น
  5. ขั้นตอนการทำครีมชีส เริ่มจากการนำครีมชีส และน้ำตาลไอซิ่งใส่ลงไปในชามผสม ตีด้วยเครื่องผสมอาหารสปีดกลางพอให้เป็นเนื้อครีม จากนั้นทยอยเทวิปปิ้งครีมลงไปในระหว่างตีจนตั้งยอด เสร็จแล้วนำมาใส่ถุงบีบเตรียมตกแต่ง
  6. ตัดเค้กแครอทให้เป็นชิ้นตามชอบ และตกแต่งหน้าตาขนมหวานได้ตามความชอบ
เค้กแครอท

ขั้นตอนการทำ เค้กแครอท ถือได้ว่าง่าย ใช้เวลาทำไม่นาน และไม่มีความซับซ้อนเหมือนสูตรทำเบเกอรี่อื่น ๆ ที่ต้องเตรียมวัตถุดิบ และอุปกรณ์มากมาย เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการหัดทำขนมหวาน เบเกอรี่  และกลุ่มคนรักสุขภาพที่ต้องการหา เบเกอรี่เพื่อสุขภาพ มารับประทาน

Categories
ขนมไทย

แจกสูตร ขนม เบื้อง โบราณ แป้งบางกรอบ หวานเค็ม อร่อยพอดีคำ

ขนม เบื้อง โบราณ

ในสมัยอดีต ขนม เบื้อง โบราณ เป็นขนมที่ได้รับความนิยมของเด็กๆ ที่ชอบไปรอรถขายขนมตามหมู่บ้านหลังเลิกเรียนเป็นประจำ แต่ปัจจุบันขนมเบื้อง โบราณไม่ค่อยมีขายมากนัก และเด็กๆ ในสมัยนี้จะไม่ค่อยรู้จักขนมเบื้อง หรือเคยทานขนมเบื้องมาก่อน เพราะความนิยมคนไทยเริ่มลดน้อยลงนั่นเอง ดังนั้นเราะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับขนมเบื้องรวมถึงสูตร และวิธีทำขนมเบื้องโบราณให้มากขึ้น ว่าแล้วไปกันเลย 

ตามมาดูวิธีทำ ขนม เบื้อง โบราณ ขนมไทยในอดีต แป้งกรอบอร่อย 

ขนม เบื้อง โบราณ

ขนมเบื้อง โบราณ หนึ่งในขนมไทยในอดีตที่มีรสชาติหวาน มัน เค็ม ผสมผสานกับเนื้อแป้งบางกรอบอร่อยจนไม่สามารถหยุดทานได้เลย โดยเฉพาะขนมเบื้องหน้าฝอยทองที่มีรสชาติหวานจัดจ้าน กลิ่นหอมละมุน พอทานคู่กับแป้งกรอบๆ เข้ากันได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่าขนมเบื้องเป็นขนมที่สามารถทานได้ตลอดไม่มีเบื่อเลยทีเดียว สำหรับใครที่ชอบทานขนมเบื้องอยู่แล้ว และอยากจะทำทานเองที่บ้านต้องไม่พลาดกับสูตร แป้ง เบื้อง โบราณ เนื้อแป้งบางกรอบ อัดแน่นไปด้วยไส้ขนมแบบจัดเต็ม 

วัตถุดิบ และส่วนผสมแป้งขนม

  1. แป้งถั่วเขียว ½ ถ้วยตวง
  2. แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วยตวง
  3. น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง
  4. ไข่ไก่ 2 ฟอง
ขนม เบื้อง โบราณ

ส่วนผสม และวัตถุดิบของครีมขนม

  1. ไข่ขาว 2 ฟอง
  2. น้ำตาลปิ๊บ 300 กรัม

วัตถุดิบ และส่วนผสมของไส้หวาน

  1. ฝอยทอง ½ ถ้วยตวง
  2. งาขาวคั่ว ½ ถ้วยตวง
ขนม เบื้อง โบราณ

วัตถุดิบ และส่วนผสมของไส้เค็ม

  1. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
  2. มะพร้าวขูด 1 ถ้วยตวง
  3. น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
  4. กุ้งสดสับละเอียด ½ ถ้วยตวง
  5. สีผสมอาหารสีส้ม ½ ช้อนชา
  6. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  7. กระเทียม 5 กลีบ
  8. รากผักชี 2 ราก

สำหรับสูตร ขนม เบื้องทำเองมีทั้งหมด 2 ไส้คือ ไส้หวาน และไส้เค็ม ดังนั้นถ้าใครไม่อยากเสียเวลาทำขนมนานเกินไปสามารถเลือกทำแค่ไส้เดียวก็ได้ตามใจชอบ เมื่อเตรียมอุปกรณ์ และส่วนผสมทั้งหมดเรียบร้อยแล้วในขั้นตอนต่อมาจะเป็นการทำขนมเบื้องดังนี้

ขนม เบื้อง โบราณ
  1. มาเริ่มกันที่ทำแป้งขนมเบื้องกันก่อน นำแป้งข้าวเจ้า แป้งถั่วเขียว น้ำตาลทราย และไข่ไก่มาเทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้แล้วผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ต่อมาใส่น้ำปูนใสลงไปทีละนิดแล้วนวดแป้งไปเรื่อยๆ จนได้เนื้อแป้งเป็นเนื้อเดียวกัน 
  2. ต่อมาจะเป็นการทำครีมขนม โดยนำไข่ขาวมาตีให้เข้ากันกับน้ำตาลปิ๊บจนไข่ขาวตั้งยอด ประมาฯ 15 นาที หลังจากนั้นให้มาทำไส้เค็มกันต่อ นำรากผักชี กระเทียม และพริกไทยมาโขลกให้เข้ากัน จากนั้นตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไป เปิดไฟปานกลาง ใส่เครื่องโขลกที่เตรียมไว้ลงไปผัดให้เข้ากันจนหอม ใส่กุ้ง และพร้าวขูดผัดให้เข้ากันจนสุก จากนั้นเติมสีผสมอาหารลงไป ปรุงรสด้วยเกลือป่น และน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง เสร็จแล้วตักใส่ภาชนะที่เตรียมไว้
  3. เปิดเตาขนมกระเบื้อง ใช้ไฟอ่อนๆ จากนั้นตักแป้งขนมละเลงลงบนเตารอจนแป้งสุก ใช้กระจ่าตักส่วนผสมครีมทาลงบนแป้ง รอจนครีมร้อนเป็นฟองอากาศ จากนั้นตกส่วนผสมไส้หวาน และไส้เค็มวางลงครีมได้ตามใจชอบ หลังจากแป้งเริ่มกรอบแล้วให้ใช้เกียงแซะแป้งขึ้นแล้วพับใหเป็นครึ่งวงกลม พร้อมตักใส่จาน 
ขนม เบื้อง โบราณ

สำหรับวิธี ทำ ขนม เบื้องอย่างง่ายๆ ตามฉบับขนมทำเองนั้น ถ้าไม่มีเตาทำขนมเบื้องสามารถใช้กระทะเทฟลอนแทนได้ โดยขนมเบื้องที่ทำเสร็จใหม่ๆ แป้งจะกรุบกรอบหวานอร่อย หอมละมุนชวนทานเป็นอย่างมาก และที่สำคัญไส้ขนมอร่อยกลมกล่อมอีกด้วย

รู้หรือไม่! ขนม เบื้อง โบราณ แป้งกรอบ มีหลายแบบหลายชนิด 

ขนม เบื้อง โบราณ

หลังจากที่ทำขนม เบื้อง โบราณอย่างง่ายๆ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อมาเราจะมาดูชนิดของขนมเบื้องกันบ้าง ซึ่งขนมไทยชนิดนี้มีทั้งแบบสูตรดั้งเดิมจะมีส่วนผสมหลักๆ เป็นแป้งข้าวเจ้า และกะทิ ผสมกับเกลือ แต่ปัจจุบันคนไม่นิยมทำแล้ว ส่วนขนมเบื้องสูตรชาววัง มีอยู่ 2 ไส้คือ ไส้กุ้งเค็ม กับไส้หวาน และขนมเบื้องสูตรสุดท้ายคือ ขนมเบื้องญวนจะใส่แป้ง ขนม เบื้องลงบนกระทะตามด้วยไส้ต่างๆ แล้วพับกลางนั่นเอง 

อ่านบทความอื่นๆ: