Categories
เบเกอรี่

ชวนชิม คุกกี้ สิงคโปร์ กรุบกรอบ หวานมัน มีขายแค่ในไทย 

คุกกี้ สิงคโปร์

คุกกี้ สิงคโปร์ เป็นขนมที่มีขายในประเทศไทย แต่ไม่มีขายในประเทศสิงคโปร เพราะในสมัยอดีตใช้วัตถุดิบจำพวกแป้งมันสำปะหลังเป็นส่วนผสมในการทำขนมชนิดนี้ ซึ่งแป้งมันสำปะหลังในสมัยอดีตได้นำเข้ามาจากประเทศสิงคโปร์นั่นเอง 

คุกกี้ สิงคโปร์ ขนมชื่อดัง รสชาติหวาน หอมกลิ่นควันเทียน ทำทานง่ายนิดเดียว 

คุกกี้ สิงคโปร์

ขนมสุดโปรดที่หลายคนชอบทานอย่าง คุกกี้สิงคโปร์ ซึ่งมีกลิ่นหอมควันเทียนที่เป็นโดดเด่นเฉพาะตัว และเนื้อคุกกี้ สิงคโปร์จะมีความกรุบกรอบ ขนาดกำลังพอดี แถมยังเคี้ยวเพลินอีกต่างหาก ปัจจุบันขนมชนิดนี้ได้รับความนิยมนำมาทำเป็นขนมต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง และยังนำมาเป็นของขวัญมอบให้คนพิเศษในวันสำคัญอีกด้วย ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำคุกกี้สิงคโปร์ ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน โดยส่วนผสมมีดังต่อไปนี้

วัตถุดิบ และส่วนผสมของคุกกี้

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 300 กรัม
  2. แป้งมันสำปะหลัง 100 กรัม
  3. เนยสด 200 กรัม
  4. น้ำตาลทราย 150 กรัม
  5. เม็ดมะม่วงหิมพานต์ (สำหรับแต่งหน้าคุกกี้)
  6. เทียนหอมอบขนม
คุกกี้ สิงคโปร์

วัตถุดิบ และส่วนผสมของไข่แดง (ทาหน้าคุกกี้)

  1. ไข่แดง 1 ฟอง
  2. เกลือป่น ½ ช้อนชา
  3. กลิ่นวนิลลา ½ ช้อนชา

วิธีทำ คุกกี้ สิงคโปร์ สูตรดั้งเดิม หอมอร่อย ทานได้ทุกวันไม่มีเบื่อ

หลังจากที่ทำการเตรียมส่วนของคุกกี้สิงคโปร์เรียบร้อยแล้ว ในขั้นตอนต่อมาคือวิธีการทำขนมเบเกอรี่ ชนิดนี้อย่างง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ทำครั้งแรก

คุกกี้ สิงคโปร์
  1. นำแป้งสาลี และแป้งมันสำปะหลังมาร่อนในภาชนะที่เตรียมไว้เสร็จแล้ว ใส่น้ำตาลทราย และเนยจืดลงไป จากนั้นนวดให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน 
  2. ต่อมานำแป้งมารีดเป็นแผ่นหนาประมาณ ¾ เซนติมเมตร แล้วใช้พิมพ์กดลงไปในแผ่นแป้งเป็นชิ้นเล็กๆ วางเรียงกันบนถาดอบขนม
  3. นำไข่แดงมาตีให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำไปทาหน้าคุกกี้ ขั้นตอนสุดท้ายแต่งหน้าด้วยมะม่วงหิมพานต์ และทาไข่แดงลงไปอีกครั้ง 
  4. เปิดเครื่องอบขนมวอร์มเครื่องประมาณ 5 นาที จากนั้นนำถาดขนมเข้าไปอบที่อุณณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 นาที เมื่อครบกำหนดกลับด้านขนมอบต่ออีกรอบ โดยใช้อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 7 นาที นำไปอบด้วยควันเทียนประมาณ 1 ชั่วโมง
คุกกี้ สิงคโปร์

จบไปแล้วกับขั้นตอนการทำคุกกี้สิงคโปร์สไตล์มือใหม่ ซึ่งคุกกี้ที่อบได้จะมีสีเหลืองของไข่แดง ส่วนเนื้อคุกกี้จะมีความกรุบกรอบที่มาพร้อมกับกลิ่นควันเทียนอ่อนๆ เข้ากันสุดๆ ที่สำคัญขนมชนิดนี้ยังเป็นเบเกอรี่ยอดนิยมที่ทานคู่กับอะไรก็อร่อย โดยเฉพาะเครื่องดื่มจำพวก ชาเขียว กาแฟ เป็นต้น หากใครชอบทำเบเกอรี่ง่ายๆ โดยเฉพาะเบเกอรี่ทำเองที่บ้าน หรือเรียกว่าอีกอย่างหนึ่งว่า เบเกอรี่โฮมเมด แนะนำให้ทำตามสูตรคุกกี้สิงคโปร์ที่เรานำมาแชร์ได้เลย ไม่ผิดหวังแน่นอน

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

แจกสูตร บัวลอย แก้ว แป้งใส น่าทาน กะทิสด หวานมัน 

บัวลอย แก้ว

มาถึงขนมบัวลอยสุดปัง อย่าง บัวลอย แก้ว ขนมหวานสีสวยงาม รสชาติหวานฉ่ำ ที่มาพร้อมกับเนื้อแป้งใสสวยงาม ราดหน้าด้วยกะทิสดเข้มข้น เรียกได้ว่าเป็นสูตรบัวลอยที่น่าทานมากเลยทีเดียว นอกจากขนมอร่อยสุดๆ วิธีทำก็ทำง่ายมาก ว่าแล้วไปดูกันเลย

ขอเสนอ บัวลอย แก้ว สูตรชาววัง อร่อยเหมือนทานที่ร้าน 

เชื่อว่าทุกคนจะคุ้นชินกับขนมบัวลอยอยู่ แต่จะอยู่หนึ่งสูตรที่อยากแนะนำ นั่นก็คือ บัวลอยแก้ว จะมีความแตกต่างจากขนมบัวลอยสูตรทั่วไปตรงที่เนื้อแป้งมีความใสกว่านั่นเอง ส่วนวิธี ทํา บัวลอย แก้ว กรอบ นั้นจะมีความกับวิธีการทำบัวลอยทั่วไป แต่จะแตกต่างตรงวิธีการทำต้มเม็ดแป้ง สำหรับสูตรที่นำมาแชร์วันนี้คือบัวลอย แก้ว สามสี หรือเรียกว่าบัวลอยแก้วรวมมิตร โดยมีส่วนผสมดังนี้

บัวลอย แก้ว
  1. แป้งมัน 200 กรัม
  2. กะทิ 1 ถ้วยตวง
  3. น้ำตาลทรายขาว 150 กรัม
  4. น้ำใบเตย 1 ถ้วยตวง
  5. น้ำดอกอัญชันสีฟ้า 1 ถ้วยตวง
  6. น้ำดอกอัญชันม่วง 1 ถ้วยตวง

วิธีทำ บัวลอยแก้วกรอบ เมนูขนมหวานสุดฮิต หวานชื่นใจ

บัวลอยแก้ว เป็นขนมไทยวงวารของบัวลอย แต่จะมีจุดเด่นคือ เม็ดแป้งมีความใสสวยงาม เรียกได้ว่าเป็นขนม โบราณที่น่าทานสุดๆ ส่วนขั้นตอนมีดังนี้

บัวลอย แก้ว
  1. นำแป้งมันแบ่งออก 3 ส่วน จากนั้นนำ น้ำดอกอัญชันสีฟ้า น้ำใบเตย และน้ำอัญชันสีม่วง เทใส่ในแป้งที่เตรียมไว้ โดยผสม แป้ง 1 ถ้วย ต่อสีผสม 1 ชนิด จากนั้นนวดแป้งให้เป็นเนื้อเดียวกัน 
  2. นำแป้งที่นวดเสร็จ นำมาปั้นเป็นรูปกลมๆ เสร็จนำไปต้มในน้ำเดือด รอจนแป้งสุก นำแป้งมาน็อคด้วยน้ำเย็น เพื่อให้เม็ดแป้งมีความนุ่มเด้ง จากนั้นตักใส่ภาชนะพักไว้ 
  3. ต่อมาเป็นขั้นการทำน้ำกะทิ เริ่มจากนำกะทิใส่ในหม้อที่เตรียมไว้ จากนั้นเติมน้ำตาล และเกลือลงไป ผสมให้เข้ากันรอให้น้ำกะทิเดือด ยกออกจากเตา พักไว้ให้เย็น
  4. เมื่อแป้งบัวลอยเย็นได้ที่แล้ว ตักบัวลอยใส่ในถ้วยที่เตรียม จากนั้นราดด้วยน้ำกะทิเข้มข้น เพียงแค่ก็เสร็จแล้ว พร้อมทาน
บัวลอย แก้ว

ขนมบัวลอย แก้ว ที่ทำเสร็จแล้วจะมีแป้งที่มีสีสันสดใสกรุบกรอบ รสชาติหวาน มัน เค็ม ครบรส เรียกว่าเป็นไปตามขนมไทย โบราณดั้งเดิม และถ้าอยากให้ขนม หวาน ไทยอย่าง บัวลอยสูตรลอยแก้วมีความหวานหอมมากขึ้น แนะนำเพิ่มไข่หวาน หรือเผือกจะยิ่งทำให้อร่อยสุดๆ หลังจากที่ทำบัวลอยไปแล้วจะเห็นว่าขนม ไทย ทำ ง่ายมาก แถมมีส่วนผสมของขนม ไทย ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน สำหรับมือใหม่สามารถลองดูขั้นตอนขนมไทย ทำเองได้ง่ายๆ อีกทั้งบัวลอยแก้วเป็นสูตร ขนม ไทยโบราณที่คัดมาแล้วว่าทำง่ายที่สุด 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
เบเกอรี่

แจกสูตร คุกกี้ ข้าว โอ๊ต หอมละมุน เนื้อนุ่ม ดีต่อสุขภาพ 

คุกกี้ ข้าว โอ๊ต

สำหรับใครที่ไม่ชอบทานแป้ง แต่อยากทานขนมอร่อย ต้องไม่พลาด เพราะวันนี้เรามีสูตรขนม คุกกี้ ข้าว โอ๊ต มาฝากทุกคนได้ติดตาม และแชร์ประโยชน์ของข้าวโอ๊ตที่หลายคนคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว หากทุกคนพร้อมแล้วเราไปลุยทำคุกกี้เพื่อสุขภาพกันเลย

เปิดประสบการณ์ชวนชิม คุกกี้ ข้าว โอ๊ต ขนมทางเลือกของคนไม่ชอบแป้งสาลี

คุกกี้ ข้าว โอ๊ต

คุกกี้ข้าวโอ๊ต ถือว่าเป็นหนึ่งตัวเลือกของคนไม่ชอบทานแป้งสาลี หรือแพ้สารบางอย่างจากแป้งสาลี นอกจากนี้สำหรับคนรรักสุขภาพชอบทานคลีน ขอแนะนำคุกกี้ข้าวโอ๊ตคลีน ไร้น้ำตาล แสนอร่อย และที่สำคัญขนมคลีนยังเหมาะกับคนที่กำลังลดน้ำอย่างเร่งด่วนอีกด้วย สำหรับใครอยากทานทำคุกกี้สูตรข้าวโอ๊ต วันนี้เรามีวิธีทํา คุกกี้ข้าวโอ๊ต อย่างง่าย และใช้เวลาไม่นานมาให้ได้ลองทำตาม ก่อนเราไปเตรียมส่วนผสมมีดังต่อไปนี้

คุกกี้ ข้าว โอ๊ต
  1. ข้าวโอ๊ต 100 กรัม
  2. เนยจืด 50 กรัม
  3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  4. เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา
  5. ลูกเกต 50 กรัม
  6. นมสด 20 กรัม
  7. น้ำตาลทราย 40 กรัม

สำหรับสูตรที่กล่าวมาข้างต้นเป็นสูตร คุกกี้ข้าวโอ๊ต แต่ถ้าใครอยากลองลูตรอื่น ขอแนะนำสูตรคุกกี้ข้าวโอ๊ตธัญพืช ซึ่งมีส่วนผสมเช่นเดียวสูตรคุกกี้ข้าวโอ๊ต เพียงแค่เปลี่ยนจากข้าวโอ๊ตเป็นใช้ธัญพืชแทนนั่นเอง ในส่วนของวิธีทำมีดังนี้

คุกกี้ ข้าว โอ๊ต
  1. นำข้าวโอ๊ตมาเป็นปั่นให้ละเอียด ใส่เบกกิ้งโซดาลงไปผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
  2. ต่อมาให้นำเนย นมสด และน้ำตาลทรายใส่ลงไปในภาชนะตีส่วนผสมให้เข้ากัน จากนั้นใส่ไข่ไก่ลงไปผสมลงไปให้เป็นเนื้อเดียวกัน ตามด้วยลูกเกตคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกรอบ
  3. ตักคุกกี้ใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ นำไปวางเรียงในถาดอบขนม จากนั้นนำไปเข้าตู้อบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที 
คุกกี้ ข้าว โอ๊ต

วิธีทำที่กล่าวมาข้างต้นเป็นสูตรคุกกี้ ข้าว โอ๊ตที่ใช้ตู้อบขนม แต่ถ้าบ้านไหนไม่มีตู้อบขนมสามารถไมโครเวฟแทนกันได้ ซึ่งวิธี ทํา คุกกี้ข้าวโอ๊ต ด้วย ไมโครเวฟก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่ใส่ส่วนผสมที่กำหนดข้างต้น จากนั้นนำใส่ในไมโครเวฟที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ประมาณ 20 นาที แล้วพลิกกลับด้าน นำไปอบต่อ 5 นาที เพียงเท่านี้เราก็จะได้ขนมคุกกี้ข้าวโอ๊ตง่ายๆ แสนอร่อย

เบเกอรี่ คุกกี้สูตรข้าวโอ๊ต อิ่มนาน แถมมีประโยชน์ 

คุกกี้ ข้าว โอ๊ต

คุกกี้ข้าวโอ๊ตเป็นเบเกอรี่ยอดนิยมที่กำลังมาแรงที่สุดในตอนนี้ แถมยังสามารถทำเบเกอรี่ง่ายๆ ได้ที่บ้าน ซึ่งเบเกอรี่ทำเองไม่ต้องเสียเวลาไปซื้อทาน อีกทั้งเก็บไว้ทานในครั้งต่อไปได้ด้วย และที่สำคัญเบเกอรี่โฮมเมดอย่างคุกกี้สูตรข้าวโอ๊ตยังมีประโยชน์มากมาย อาทิ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด บรรเทาอาการท้องผูก และป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

สูตร บัวลอย มะพร้าว อ่อน กลิ่นหอม เนื้อมะพร้าวอ่อนจัดเต็ม ทำเองอร่อยทุกคำ

บัวลอย มะพร้าว อ่อน

มาต่อกันที่ขนมบัวลอยสูตรคลาสสิก บัวลอย มะพร้าว อ่อน แป้งเหนียวนุ่ม รสชาติหวานหอม โดดเด่ยด้วยกลิ่นกะทิสด อร่อยชื่นใจ ทานได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ อีกทั้งยังทำได้ง่ายๆ เพียงใช้วัตถุเพียงเล็กน้อย และสามารถซื้อได้ทั่วไปท้องตลาด ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้มีเพียงหม้อใบเดียวก็สามารถทได้เลย หากใครเป็นคนชอบทานบัวลอย ต้องไม่พลาดกับสูตรบัวลอยโบราณ จัดเต็มด้วยมะพร้าวอ่อนแบบจุใจ 

บัวลอย มะพร้าว อ่อน ขนมพื้นบ้าน แต่ไม่โบราณ รสชาติตามตำรับชาววัง

บัวลอย มะพร้าว อ่อน

หลายคนอาจจะทานขนมบัวลอยมาหลายสูตรแล้ว แต่วันนี้เราจะมาแนะนำบัวลอย มะพร้าว อ่อน แป้งเหนียวนุ่ม หวานมันละมุนลิ้น ส่วนสูตรบัวลอยมะพร้าวอ่อนที่นำมาแชร์เป็นสูตรชาววังดั้งเดิม โดยวิธี ทําบัวลอย สาม สี มะพร้าว อ่อนทำง่ายมาก มือใหม่ก็ทำได้ 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม (เม็ดแป้งบัวลอย)

  1. แป้งมัน 50 กรัม
  2. แป้งข้าวเหนียว 250 กรัม
  3. น้ำใบเตย 1 ถ้วยตวง
  4. น้ำดอกอัญชัน 1 ถ้วยตวง
  5. ฟักทองนึ่งสุก 1 ถ้วยตวง
บัวลอย มะพร้าว อ่อน

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม (น้ำกะทิ)

  1. กะทิ 1 ถ้วยตวง
  2. ใบเตย 2-3 ใบ
  3. เกลือ ½ ช้อนชา
  4. น้ำตาลมะพร้าว 20 กรัม

สำหรับส่วนผสมที่เป็นวัตถุดิบที่ใช้เป็นสีขนมแป้งบัวลอยมะพร้าวอ่อนสามารถใช้วัตถุดิบสีอื่นได้ตามใจชอบ ในส่วนต่อมาเราจะมาทำขนมบัวลอยมีรายละเอียดดังนี้ 

บัวลอย มะพร้าว อ่อน
  1. นำแป้งข้าวเหนียวผสมกับแป้งมัน จากนั้นมาแบ่งออกเป็น 3 ส่วน เท่าๆ กัน นำออกอัญชัน ฟักทองนึ่ง และน้ำใบเตย ใส่ในแป้งที่แบ่งไว้ โดย แป้ง 1 ถ้วย ต่อวัตถุดิบสีผสม 1 ชนิด จากนั้นใช้มือนวดส่วนผสมให้เข้ากัน
  2. จากนั้นนำแป้งมานวดอีกครั้ง ทำการปั้นแป้งเป็นลูกกลมๆ นำไปต้มในน้ำเดือด รอให้เม็ดแป้งลอยขึ้นมาเหนือน้ำ จากนั้นตักออก 
  3. ระหว่างรอเม็ดแป้งบัวลอยเย็น มาเริ่มทำน้ำกะทิ โดยการเทกะทิใส่ในหม้อ ตามด้วยน้ำตาลมะพร้าว ในเตยมัดให้เรียบร้อย และเกลือ นำหม้อไปตั้งเตาเปิดไฟปานกลางคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน และรอน้ำตาลละลาย นำออกจากเตา พักไวให้เย็น
  4. จากนั้นตักบัวลอยใส่ถ้วย ราดน้ำกะทิ โรยด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อน จัดเสิร์ฟได้เลย
บัวลอย มะพร้าว อ่อน

สำหรับวิธีการทำ บัวลอย มะพร้าวอ่อน ให้อร่อย นอกจากจะต้มแป้งขนมไทยบัวลอยให้สุกแล้วต้องไปน็อคในน้ำเย็น เพื่อให้แป้งเหนียวนุ่ม เด้ง และยังทำให้เม็ดแป้งไม่เละเกินไปอีกด้วย เพียงเท่านี้ก็จะได้บัวลอยขนม โบราณที่มีรสชาติหวาน แป้งเหนียวนุ่ม อร่อยเต็มคำ

เพิ่มความอร่อย บัวลอย มะพร้าว อ่อน ขนมไทย โบราณชาววัง 

บัวลอย มะพร้าว อ่อน

บัวลอยมะพร้าวอ่อน เป็นเมนูขนม หวาน ไทยที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะรสชาติที่หวานกลมกล่อมกำลังดี และเม็ดแป้งที่นุ่มนิ่มชวนทานแบบไม่เบื่อ หากอยากเพิ่มความอร่อยของบัวลอยขนม ไทย ง่ายๆ โดยใส่ไข่หวานลงไปในบัวลอยจะทำให้ขนมไทย ทำเองมีรสชาติหวานหอมไข่ไก่สุดๆ ซึ่งบัวลอยมะพร้าวอ่อนใส่ไข่หวาน เป็นสูตร ขนม ไทยที่มีการปรับปรุงให้ขนมน่าทานมากยิ่งนั่นเอง

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
เบเกอรี่

แนะนำ คุกกี้ สับปะรด ที่สุดของความอร่อย ไส้สับปะรดแน่นๆ หวานกำลังดี 

คุกกี้ สับปะรด

สำหรับใครกำลังอยากทำขนมหวานอร่อยๆ เพื่อมอบเป็นของขวัญมอบให้ผู้ใหญ่ในช่วงเทศกาลสำคัญ ขอแนะนำ คุกกี้ สับปะรด รสชาติหวานอมเปรี้ยวของเนื้อสับปะรดกวนที่ชวนรับประทานมากยิ่งขึ้น แถมรูปร่างหน้าตาของขนมยังสวยงามอีกด้วย นอกจากนี้วิธีทำขนมก็ทำง่ายนิดเดียว เพียงแค่มีไส้สับปะรดก็สามารถทำได้แล้ว

ขนมอร่อยบอกต่อ! คุกกี้ สับปะรด ขนมขายดีทุกช่วงเทศกาล 

คุกกี้ สับปะรด

วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำขนม คุกกี้สับปะรด จะนิยมใช้ไส้เนื้อสับปะรดที่กวนให้เข้มข้น เพราะรสชาติจะหวานละมุน สำหรับคุกกี้ ไส้ สับปะรด เป็นหนึ่งในขนมที่นิยมนำมามอบเป็นของขวัญในวันสำคัญต่างๆ เช่น คุกกี้สับปะรดเจจะนิยมรับประทานในเทศกาลกินเจ ในส่วนของการะบวนการทำคุกกี้สับปะรดจะมีขั้นตอนที่ไม่ซับช้อน และไม่ยุ่งยาก ว่าแต่ขนมคุกกี้ชนิดทำอย่างไรบ้างตามไปดูกันเลย

วัตถุดิบ และส่วนผสมของแป้งขนมคุกกี้

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 200 กรัม
  2. ผมผง 50 กรัม
  3. เนยจืด 100 กรัม
  4. เกลือ ½ ช้อนชา
  5. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  6. น้ำตาลไอซิ่ง 160 กรัม
คุกกี้ สับปะรด

วัตถุดิบ และส่วนผสมของไส้สับปะรด

  1. สับปะรด 900 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 70 กรัม
  3. น้ำแอเปิ้ล ไซเดอร์ 2-3 ช้อนโต๊ะ
  4. เกลือ ½ ช้อนชา
  5. น้ำมันพืช 1-2 ช้อนชา
คุกกี้ สับปะรด

ส่วนในสูตรคุกกี้สับปะรด โดยเฉพาะสูตรส่วนผสมของไส้สับปะรด ถ้าบ้านไหนไม่มีน้ำส้มอแปเปิ้ลไซเดอร์สามารถใช้น้ำส้มสายชูก็ได้เช่นกัน หลังจากที่เราเตรียมส่วนผสมเรียบร้อยแล้วในขั้นตอนต่อมาจะเป็นกระบวนการทำเมนูเบเกอรี่คุกกี้สอดไส้สับปะรด

ขั้นตอนการทำเบเกอรี่ยอดนิยมทุกเทศกาล คุกกี้ สับปะรด เนื้อนิ่ม หอมอร่อย 

คุกกี้ สับปะรด

วิธีการทำคุกกี้ สับปะรด นั้นไม่ยาก เพียงแค่มีอาจจะใช้เวลาในการทำขนมคุกกี้ชนิด เพราะเราจะต้องกวนไส้สับปะรดให้แห้งก่อน แต่เมื่อเทียบกับคุกกี้ชนิดอื่นถือว่าขนมชนิดนี้เป็นสามารถทำเบเกอรี่ง่ายนิดเดียว โดยก่อนอื่นเราต้องเตรียมไส้สับปะรดกวนก่อน รายละเอียดมีดังนี้

คุกกี้ สับปะรด
  1. ขั้นตอนแรก นำสับปะรดมาปอกเปลือกออกก่อน จากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และนำไปปั่นให้ละเอียด
  2. นำสับปะรดที่ปั่นละเอียดแล้วใส่ในกระทะแล้วนำไปตั้งไฟปานกลาง จากนั้นเคี้ยวสับปะรดจนกว่าจะแห้ง พักไว้ให้เย็น
  3. ในขั้นตอนต่อมาทำแป้งคุกกี้ โดยนำเนยจืด น้ำตาลไอซิ่งใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ และตีส่วนผสมทั้งให้เข้า หลังจากนั้นใส่ไข่ไก่ลงไปใช้เครื่องตีขนม ตีส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใส่แป้ง นมผง และเกลือลงไป ผสมแป้งให้เข้ากัน
  4. ตักแป้งมาปั้นเป็นรูปกลมแล้วทำให้แบน ส่ไส้สับปะรดลงไป จากนั้นปั้นในเป็นรูปทรงกลม นำไปวางบนถาดอบขนม 
  5. นำขนมเข้าอบที่อุณภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที เสร็จแล้วนำขนมออกมาพักไว้ให้เย็น
คุกกี้ สับปะรด

คุกกี้ สับปะรดสามารถทำเป็นรูปทรงต่างๆ ไม่จะเป็นรูปดอกไม้ หรือตัวหนอนได้ตามใจชอบ อีกทั้งขนม เบเกอรี่ทำเองเราสามารถปรับความหวานได้ด้วย แถมเบเกอรี่โฮมเมดอย่างคุกกี้ไส้สับปะรดยังมีรสชาติอร่อยไม่แพ้กับที่ขายในร้านเลยทีเดียว 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

สายหวานไม่ควรพลาด บัวลอย เผือก ที่สุดของความอร่อย 

บัวลอย เผือก

สำหรับที่เป็นสาวกบัวลอยไม่ควรพลาดกับ บัวลอย เผือก ลูกกลมสีม่วงอ่อนๆ หวานมันอร่อยไม่มีเบื่อ และที่สำคัญชนิดนี้ถือว่าหาทานได้ง่าย แถมราคาไม่แพงอีกด้วย แต่ถ้าอยากทำทานเองที่บ้านก็สามารถทำได้ เพราะขนมบัวลอยสูตรเผือกนี้มีวิธีการทำที่ง่ายๆ ไม่ซับช้อนเหมือนขนมหวานชนิดอื่น แถมยังสามารถทานได้ทุกวันไม่มีเบื่อ

เปิดตำราชาวัง บัวลอย เผือก สูตรพิเศษ หวาน มัน เนื้อนุ่มนิ่ม สุดปัง 

บัวลอย เผือก

ใครว่า บัวลอยเผือก ทำยากนั้นไม่จริงอย่างที่คิด เพราะวันนี้เราจะพาทุกวันไปพิสูจน์วิธีทําบัวลอย เผือก ทำยากจริงหรือไม่ ส่วนใครที่ชอบทานขนมเผือกบัวลอยสามารถลองทำตามวิธีที่เราจะนำแชร์ได้เลย รับรองว่าทำตามได้แน่นอน สำหรับสูตรที่จะใช้ในวันนี้คือ สูตรบัวลอยเผือก ชาววัง นั่นเอง

วัตถุดิบ และส่วนผสม (แป้งบัวลอย)

  1. แป้งข้าวเหนียว 300 กรัม
  2. แป้งมัน 50 กรัม
  3. เผือกนึ่งสุก 300 กรัม
  4. น้ำมะพร้าว 250 กรัม
  5. หัวกะทิ 50 กรัม
บัวลอย เผือก

ส่วนผสม และวัตถุดิบ (น้ำกะทิ)

  1. หัวกะทิ 200 กรัม
  2. หางกะทิ 150 กรัม
  3. น้ำมะพร้าว 200 กรัม
  4. น้ำตาลทราย 200 กรัม
  5. เกลือ ½ ช้อนโต๊ะ
  6. เนื้อมะพร้าวอ่อน 30 กรัม

ขั้นตอนการทำ บัวลอย เผือก ไข่หวาน นุ่มๆ ไข่หวานเยิ้มๆ จัดเต็ม

วิธีการทำขนมบัวลอย เผือก สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ไข่หวานฟองโต ช่วยเพิ่มรสชาติให้ขนมไทยมีความอร่อยมากขึ้น แถมขนม โบราณบัวลอยเผือกสูตรไข่หวานวสามารถทานได้แบบไม่มีเบื่อ ว่าแล้วไปลงมือทำขนมไทย โบราณบัวลอยกันเลย

บัวลอย เผือก
  1. มาเริ่มกันที่ขั้นตอนแรก นำแป้งข้าวเหนียวมาผสมกับแป้งมัน จากนั้นนำเผือกนึ่งสุกมาใส่ในแป้ง ใช้มือขยำให้แป้งและเผือกมีความเป็นเนื้อเดียวกัน เติมน้ำกะทิ และน้ำมะพร้าว หลังจากนั้นนวดแป้งต่อไปจนกว่าจะเหนียวสามารถนำมาปั้นได้ นำแป้งมาปั้นเป็นก่อนขนาดเล็ก หรือใหญ่ตามใจชอบ
  2. ทำการเติมใส่ในหม้อให้เดือด จากนั้นใส่เม็ดบัวลอยลงไป รอให้แป้งลอยขึ้นมาเหนือน้ำ จากนั้นตักบัวลอยใส่น้ำเย็น เพื่อทำการน็อคเม็ดแป้งให้มีความนุ่มเด้ง
  3. ต่อมาจะเป็นขั้นการทำน้ำกะทิ เริ่มจากหัวกะทิใส่ในหม้อ เติมน้ำตาลทราย น้ำมะพร้าว เกลือ และหางกะทิลงไป เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ จนน้ำกะทิเดือด 
  4. ตักเม็ดบัวลอยใส่ในถ้วย และเติมไข่หวานไปราดด้วยน้ำกะทิ เพียงเท่าเป็นเสร็จสิ้น
บัวลอย เผือก

บัวลอยเผือก ถือว่าเป็นขนม หวาน ไทยยอดนิยมอีกหนึ่งเมนูขนม ไทย ทำ ง่าย และไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด อีกทั้งวิธีทำขนม ไทย ง่ายๆ เพียงแค่ทำตามขั้นตอนที่กล่าวมาข้างต้นได้เลย รับรองว่าทำขนมไทย ทำเองอร่อย หวานมัน หอมกลิ่นกะทิสด แถมแป้งบัวลอยยังเหนียวนุ่มตาม สูตร ขนม ไทยดั้งเดิมไม่ผิดเพี้ยนจากต้นตำรับขนมไทยชาววังแน่นอน 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
เบเกอรี่

คุกกี้ ช็อค โก แลต ชิพ ขนมหวานสุดปัง โดดเด่นด้วยช็อคโกแลตแบบเข้มข้น

คุกกี้ ช็อค โก แลต ชิพ

เชื่อว่าหลายคนรู้จักขนม คุกกี้ ช็อค โก แลต ชิพ อยู่แล้ว แต่น้อยคนจะรู้ว่าขนมชนิดนี้มีต้นกำเนิดมาจากอเมริกา โดยการช็อคโกแลตชิพมาเป็นส่วนผสมของคุกกี้ทำให้ขนมมีความโดดเด่นไม่มีใคร ปัจจุบันมีการปรับสูตรขนมชนิดนี้โดยการใส่เนยที่มีคุณภาพ ทำให้ขนมมีความหอมละมุนของกลิ่นเนยสดที่ชวนรับประทานมากยิ่งขึ้น

เมนูสุดโปรด! คุกกี้ ช็อค โก แลต ชิพ ขนมของคนรักคุกกี้ ทานได้ทุกวัน และทุกเวลา

คุกกี้ ช็อค โก แลต ชิพ

ขนม คุกกี้ ช็อคโกแลตชิพ เป็นขนมหวานที่คนทั่วไปชอบทานในช่วงพักกลางวัน เพราะเป็นช็อคโกแลตชิพคุกกี้ที่หาซื้อได้ง่ายตามร้านคาเฟ่ทั้วไป อีกทั้งแต่ร้านยังทำสูตรคุกกี้ช็อคโกแลตชิพอร่อยๆ ให้เราได้ทานแบบไม่มีเบื่อ แต่สำหรับใครชอบทำขนมไว้ทานเองที่บ้าน เราขอแนะนำวิธีทำคุกกี้ช็อคโกแลตชิพ ง่ายๆ มาให้ได้ติดกัน

วัตถุดิบ และส่สนผสมของคุกกี้

คุกกี้ ช็อค โก แลต ชิพ
  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม
  2. น้ำตาลทรายแดง 50 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 50 กรัม
  4. ช็อกโกแลตชิพ 60 กรัม
  5. เนยสดจืด 50 กรัม
  6. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  7. เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา

คุกกี้ ช็อค โก แลต ชิพเป็นเมนูเบเกอรี่ที่มีส่วนผสมไม่เยอะมาก สำหรับใครที่อยากให้คุกกี้มีความหอมละมุนมากขึ้น แนะนำให้ใช้น้ำตาลมะพร้าวแทนน้ำตาลทรายขาวจะยิ่งเพิ่มรสชาติหวานหอมให้คุกกี้มากขึ้น

วิธีทำ คุกกี้ จาก สูตรคุกกี้ช็อคโกแลตชิพ ตามฉบับทำเอง 

คุกกี้ช็อคโกแลตชิพ คือหนึ่งในเมนูเบเกอรี่ยอดนิยมที่สามารถทำทานเองได้ง่ายๆ ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

คุกกี้ ช็อค โก แลต ชิพ
  1. ในขั้นตอนแรกเตรียมแป้ง โดยนำแป้งสาลีไปร่อนรวมกับเบกกิ้งโซดา และเกลือในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นพักไว้ก่อน ในลำดับต่อมาให้นำน้ำตาลทราย และน้ำตาลทรายผสมรวมกัน เนยสด และใส่ไข่ลงไปตีด้วยเครื่องตีขนมให้เป็นเข้ากัน จากนั้นใส่แป้งที่เตรียมไว้ลงไป และใส่ช็อกโกแลตชิพลงไปตีส่วนผสมทั้งหมดเบาๆ จนกว่าส่วนผสมจะเป็นเนื้อเดียวกัน
  2. นำคุกกี้ใส่ในพิมพ์นำไปเรียงไว้ในถาดอบขนม จากนั้นนำเข้าอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที
คุกกี้ ช็อค โก แลต ชิพ

คุกกี้ ช็อคโกแลตชิพ เป็นขนมหวานที่สามารถเก็บไว้ได้นาน และที่สำคัญขั้นตอนการทำเบเกอรี่ง่ายนิดเดียว แค่มีเตาอบก็สามารถทำได้แล้ว และเบเกอรี่ทำเองนั้นจะมีความสด และหอมกว่าซื้อที่ร้าน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูเบเกอรี่โฮมเมดที่ทำแล้วอร่อยแน่นอน หรือจะทำขายก็ได้กำไรตั้งแต่วันแรกเลยทีเดียว 

อ่านบทความอื่นๆ: