Categories
เบเกอรี่

กราโนล่าบาร์ เบเกอรี่เพื่อสุขภาพ ทำง่าย ไม่ง้อเตาอบ

กราโนล่าบาร์ เบเกอรี่เพื่อสุขภาพ ทำง่าย ไม่ง้อเตาอบ

กราโนล่าบาร์ เมนูที่เป็นได้ทั้งเบเกอรี่ขนมหวาน ขนมขบเคี้ยว และของว่างทานเล่นสำหรับคนรักสุขภาพ อีกทั้งยังเป็นอาหารเช้าของชาวตะวันตก ประกอบไปด้วยธัญพืช เช่น ข้าวโอ๊ต ถั่ว น้ำผึ้ง รสชาติหวานมัน หากใครต้องการเพิ่มเติมเสริมรสชาติเปรี้ยวก็สามารถเพิ่มผลไม้อบแห้งต่าง ๆ เข้าไปได้ รสชาติอร่อยเข้ากันดีเป็นที่สุด 

วัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีการทำ กราโนล่าบาร์

สำหรับเมนูเบเกอรี่เพื่อสุขภาพ กราโนล่าบาร์ หรือ GRANOLA BAR ถูกเรียกอีกชื่อว่า “ซีเรียลบาร์” ถือว่าเป็นเมนูที่ให้พลังงานต่อร่างกายมาก และมีแคลอรีสูง ทานแล้วรสชาติอร่อย ได้ประโยชน์จากส่วนผสมหลักอย่างธัญพืช สามารถนำไปรับประทานร่วมกับเมนูอื่น ๆ ได้หลากหลาย เช่น โยเกิร์ต ผลไม้ หรือแม้แต่นม หรือกาแฟ นอกจากนั้นยังเป็น เบเกอรี่ทำง่าย ขั้นตอนน้อย ไม่ต้องใช้เตาอบ และใช้วัตถุดิบที่หาได้ทั่วไป

วัตถุดิบส่วนที่ 1

  1. ข้าวโอ๊ต 1+1/2 ถ้วยตวง
  2. อัลมอนด์สับคั่วสุก ½ ถ้วยตวง
  3. เมล็ดฟักทองคั่วสุก 1/8 ถ้วยตวง
  4. เมล็ดแตงโมคั่วสุก 1/8 ถ้วยตวง
  5. แครนเบอรี่ หรือผลไม้อบแห้งตามชอบ ½ ถ้วยตวง

วัตถุดิบส่วนที่ 2

  1. น้ำผึ้ง ¼ ถ้วยตวง
  2. น้ำตาลทรายแดง ¼ ถ้วยตวง
  3. เนยถั่ว ¼ ถ้วยตวง
  4. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  5. เกลือ ¼ ช้อนชา

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. ขั้นตอนแรกในการทำ การโนล่าบาร์ ให้ใส่ข้าวโอ๊ต อัลมอนด์สับ เมล็ดฟักทอง และเมล็ดแตงโมลงไปผสม ตามด้วยแครนเบอรี่ลงไปคนคลุกเคล้าให้เข้ากัน (หากส่วนผสมติดกันเป็นก้อนให้แกะออก)
  2. เตรียมหม้อให้พร้อม ก่อนจะใส่น้ำผึ้ง น้ำตาลทรายแดง เนยถั่ว จากนั้นนำไปตั้งไฟอ่อน เคี่ยวให้ส่วนผสมละลายเข้ากันดีแล้วนำออกจากเตา ใส่กลิ่นวานิลลา และเกลือเล็กน้อย คนให้เข้ากัน
  3. นำส่วนผสมที่ต้มเสร็จแล้วใส่ลงไปในส่วนผสมขั้นตอนที่ 1 คลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นเทใส่พิมพ์ขนาด 8×8 นิ้ว รองด้วยกระดาษไข หรือกระดาษรองอบ ใช้ไม้พายเกลี่ยให้ทั่ว และเสมอกันทั่วพิมพ์ จากนั้นใช้มือกดส่วนผสมลงไปให้แน่น นำไปแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อให้ส่วนผสมเซทตัว จากนั้นนำมาตัดเป็นชิ้น เป็นอันเสร็จสิ้น รับประทานได้เลย

บทสรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับเมนู กราโนล่าบาร์ ที่ได้นำ สูตรวิธีการทำ มาแนะนำให้ทุกคนได้ลองทำตามกันในบทความนี้ ทำง่ายกว่าที่คิดใช่ไหมคะ หากใครมีเวลาว่างอยากแนะนำให้ได้ลองทำรับประทานกันดูสักครั้งนะคะ สำหรับ วิธีการจัดเก็บกราโนล่า ก็สามารถนำไปห่อด้วยกระดาษฟอยล์ หรือกระดาษไข เก็บไว้รับประทานได้นาน

 

 

เว็บบอล

Categories
เบเกอรี่

สูตรเค้กไข่ไต้หวัน เมนูของหวานสูตรนุ่มละมุนลิ้น ใครไม่เคยลงถือว่าพลาด

สูตรเค้กไข่ไต้หวัน เมนูของหวานสูตรนุ่มละมุนลิ้น ใครไม่เคยลงถือว่าพลาด

ในปัจจุบันนี้เค้กไข่ไต้หวันได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมาอย่างไม่หยุดหย่อน ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งได้รับความนิยมมากขนาดนี้ก็เลยสามารถหาซื้อได้อย่างง่ายดายตามร้าน เบเกอรี่หรือตามห้างสรรพสินค้าทั่ว ๆ ไป มีหลายกลิ่นหลายรสชาติให้ทุกคนได้ลิ้มลองไม่ว่าจะเป็นสูตรดั้งเดิม ช็อคโกแลต หรือใบเตย ซึ่งทุกรสชาติจะมีความคล้ายกันอย่างหนึ่งก็คือความนุ่มละมุนลิ้น กัดเข้าไปละลายในปากน่ารับประทานสุด ๆ 

เค้กไข่ไต้หวันเป็นขนมเค้กที่มีต้นตำรับอยู่ประเทศไต้หวันและได้รับความนิยมเพิ่มสูงมากขึ้นจึงมีผู้ที่นำเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งเค้กชนิดนี้มีที่มาที่ไปเพราะว่าไต้หวันเคยเป็นเมืองขึ้นของทางฝรั่งแน่นอนอยู่แล้วว่าขนมชนิดนี้ต้องได้รับอิทธิพลจากชาวต่างชาติมาอย่างแน่นอน แต่เค้กชนิดนี้ก็ได้กลายมาเป็นขนมยอดฮิตของไทยตั้งแต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

การรับประทานเค้กไข่ไต้หวันให้อร่อยนุ่มได้นั้นสามารถรับประทานได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น เพราะในสมัยก่อนเมื่อทำขนมชนิดนี้เสร็จแล้วจะทำการรับประทานเลยในทันทีเนื่องจากไม่มีตู้เย็น เมื่อเวลาผ่านไปก็มีผู้คนได้ลองนำไปแช่ตู้เย็นดูว่ารสชาติจะยังคงเหมือนเดิมหรือไม่ ซึ่งรสชาติยังคงเหมือนเดิมแต่รสสัมผัสจะดีกว่าแบบไม่แช่เพราะเนื้อของตัวเค้กจะได้รับการผสมผสานระหว่างบัตเตอร์เค้กและชิฟฟอนเค้ก

เมนูเค้กไข่ไต้หวัน สุดยอดเบเกอรี่ที่ใคร ๆ ต่างก็ชื่นชอบ

เมื่อพูดถึงเมนูเบเกอรี่ยอดฮิตชนิดนี้หลายคนอาจจะคงสงสัยว่าสูตรทำเค้กไข่ไต้หวันนั้นจะใส่ส่วนผสมอะไรบ้างวันนี้เรามีมาบอกด้วยค่ะ หลัก ๆ แล้ววัตถุดิบที่ใช้ก็คงจะเป็นแป้งเค้กและไข่ ซึ่งไข่ที่ใช้นั้นต้องเป็นไข่สดและใหม่ในอุณหภูมิห้อง เพราะถ้าหากว่าเป็นไข่เก่าแล้วเนื้อเค้กจะไม่เนียนนุ่มฟูเหมือนสัมผัสที่ควรจะเป็น 

เมนูเบเกอรี่ชนิดนี้นอกจากจะมีแบบสูตรดั้งเดิมที่มีความนุ่ม ฟู ละมุนลิ้นแล้ว ยังมีแบบสอดไส้อยู่ชั้นตรงกลางด้วยไม่ว่าจะเป็นชีส ช็อคโกแลต กาแฟ ใบเตย แต่แบบรสชาติดั้งเดิมนั้นก็ยังคงเป็นตัวยอดฮิตมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นก็มีเค้กในลักษณะเดียวกันแต่ใช้ชื่อเรียกว่าคัสเตลลา จะใช้ส่วนผสมหลักไม่กี่อย่างคือแป้ง น้ำตาล ไข่ และน้ำเชื่อม ก็จะได้ออกมาเป็นเค้กไข่นุ่มฟูเช่นเดียวกัน

เบเกอรี่อบยอดฮิต นุ่ม เด้ง ฟู ด้วยเคล็ดลับการรังสรรค์แสนพิเศษ

การที่เราจะลงมือทำเค้กไข่ไต้หวันได้นั้นต้องศึกษาวิธีทำเค้กไข่ไต้หวันให้เป็นอย่างดีเสียก่อน เพราะในแต่ละสูตรจะมีเคล็ดลับที่แตกต่างกันซึ่งถ้าหากชอบในสูตรไหนให้ทำการศึกษาการทำเค้กแบบง่าย ๆ เบสิค ๆ มาก่อนจะลงมือ แต่วันนี้เราก็มีสูตรเบเกอรี่ยอดฮิตมาฝากทุกคนกันค่ะ ไปเตรียมวัตถุดิบและลุยกันเลย

วัตถุดิบและส่วนผสม

  1. แป้งเค้กแบรนด์ใดก็ได้ 160 กรัม
  2. น้ำมันข้าวโพด 140 กรัม
  3. นมสด 140 กรัม
  4. ผงฟู 2 ช้อนชา
  5. น้ำตาลทราย 160 กรัม
  6. ไข่ไก่ 6 ฟอง
  7. ครีมออฟทาร์ทาร์ 1 ช้อนชา
  8. เกลือ 1 หยิบมือ
  9. กลิ่นวนิลลาบัตเตอร์ 1 ช้อนชา

วิธีทำ

  1. ก่อนที่จะไปเริ่มทำตัวเค้กต้องไปทำการวอร์มเตาอบกันก่อนค่ะ ใช้ไฟบน-ล่าง อุณหภูมิประมาณ 180 องศาเซลเซียส เวลา 10 นาที แล้วทำการลดอุณหภูมิลงมาที่ 160 องศาเซลเซียส
  2. นำแป้งเค้ก ผงฟู เกลือ ร่อนใส่ชามผสม
  3. นำน้ำมันข้าวโพดไปอุ่นในเตาอบ 30 วินาที แล้วเทใส่ลงไปในชามผสมที่มีแป้ง คนจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี
  4. เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วให้ทำการแยกไข่แดงและไข่ขาวออกจากกัน แล้วจึงใส่ไข่แดงลงไปในชามผสม ตามด้วยนมสด กลิ่นวนิลลาบัตเตอร์ ตีจนส่วนผสมเข้ากันเป็นอย่างดีเนื้อเนียนสวย
  5. ทำการตีไข่ขาว ใส่ไข่ขาวลงในชามผสมตามด้วยครีมออฟทาร์ทาร์ ตีด้วยสปีดปานกลางเมื่อไข่ขาวเริ่มเป็นฟองหยาบ ๆ ให้ใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อนเนื้อเนียน
  6. ทำการตักไข่ขาวใส่ในชามผสมที่มีแป้ง ค่อย ๆ คนจนทุกอย่างเข้ากัน
  7. วางบนถาดที่สามารถเติมน้ำลงไปได้ ให้ใส่น้ำประมาณ ½ เซนติเมตร แล้วนำเข้าเตาอบเป็นเวลา 60 นาที เพียงเท่านี้ก็จะได้เมนูเบเกอรี่มือใหม่มารับประทานแล้วจ้า

เค้กสูตรเนื้อเนียนนุ่ม หอมกลิ่นไข่ ใคร ๆ ก็ต้องอยากลิ้มลอง

เค้กสูตรที่เราเตรียมมาน่ารับประทานไหมคะ เค้กชนิดนี้เป็นเค้กที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากยิ่งขึ้นด้วยความที่เนื้อนุ่ม ฟู รสสัมผัสละลายในปากน่ารับประทานสุด ๆ ทางเว็บไซต์ของเราแนะนำสูตรของหวานพร้อมวิธีทำเค้กง่าย ๆ ทุกเรื่องยากของการทำขนมจะกลายเป็นเรื่องง่ายในทันที

 

 

เว็บบอล