หมวดหมู่: เบเกอรี่

ครัว ซองต์ ขนมปังยอดฮิตสุดคลาสสิกกลิ่นหอมละมุน เนื้อขนมปังกรอบนุ่มผสมผสานกับรสชาติมันเค็มได้อย่างพอดี และหากทานคู่กับซ็อกโกแลต น้ำผึ้ง หรือไซรัปยิ่งอร่อยทานเพลินทานได้ตลอดทุกวันไม่เคยเบื่อ ปัจจุบันขนมครัวซ็องสามารถหาทานได้ตามร้านเบเกอรี่ หรือร้านคาเฟ่ได้ทั่วไป แต่หากอยากทำทานเองก็ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่มีเตาอบที่บ้านก็สามารถทำได้สบายมาก 

วิธีทำ ครัว ซองต์ สูตรดั้งเดิม แป้งกรอบนอกนุ่มใน รสชาติอร่อย 

วันนี้ใครที่กำลังหาเมนูขนมปังรสชาติอร่อยๆ ทำที่บ้านในช่วงเวลาว่างๆ แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะทำเมนูอะไรดี ขอแนะนำ ครัว ซอง ขนมที่หลายคนนิยมทำทานกันมากที่สุด เพราะรสชาติอร่อยกลมกล่อม ที่สำคัญวิธีทำขนมครัวซองค์หรือ Croissant ก็ทำง่ายมากนะ และอร่อยเหมือนซื้อทานตามร้านคาเฟ่เลยทีเดียว

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

1. แป้งขนมปัง 400 กรัม
2. แป้งอเนกประสงค์ 80 กรัม
3. น้ำเย็น 250 มิลลิตร
4. น้ำตาลทราย 30 กรัม
5. ยีสต์ 7 กรัม 
6. เกลือ 5 กรัม
7. ไข่ไก่ 2 ฟอง
8. เนยสดรสจืด 230 กรัม

ในส่วนวัตถุดิบของครัวซองค์เมนูเบเกอรี่ยอดนิยมที่กล่าวมานั้นเป็นสูตรดั้งเดิมยอดฮิต รสชาติกลมกล่อม หวานเล็กน้อย หลังจากที่เตรียมส่วนผสมทุกอย่างไว้ครบแล้วเราก็มาลงมือทำกันได้เลย

1. ขั้นตอนแรกนำแป้งขนมปัง แป้งอเนกประสงค์ เกลือ น้ำตาลทราย และยีสต์ ใส่ลงไปในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นผสมให้เข้ากัน เสร็จแล้วใส่ไข่ไก่ นม คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเนียนละเอียด ใส่เนยลงไป ใช้มือนวดแป้งอีกครั้ง ปั้นแป้งเป็นก่อนกลม ใช้พลาสติกคลุมภาชนะ นำไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 1-2 ชั่วโมง 
2. ต่อมาให้นำแป้งที่แช่ไว้ก่อนหน้านี้ออกมารีดให้เป็นแผ่นยาวๆ แล้วพับปลาทั้งสองข้างทบกันให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เสร็จแล้วใช้พลาสติกห่อเข้าตู้เย็นอีกครั้ง
3. นำแป้งออกมารีดให้เป็นแผ่นยาวๆ ใช้มีดตัดแป้งให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า จากนั้นตัดเป็นรูปสามเหลี่ยม นำแผ่นแป้งมาม้วนให้เข้าหากัน จะได้แป้งรูปครัวซองต์ เสร็จแล้วใช้แป้งคลุมไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง จะทำให้แป้งเช็ตตัวมากขึ้น 
4. ในระหว่างที่รอแป้งเซ็ตตัวให้วอร์มเตาอบไว้ โดยตั้งอุณหภูมิความร้อนไว้ที่ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 5 นาที หลังจากที่แป้งครบ 1 ชั่วโมง ให้นำมาวางใส่ถาดขนม ทาด้วยไข่แดง นำเข้าเตาอบประมาณ 15 นาที เสร็จแล้วนำออกมาพักไว้ให้เย็น เสร็จเรียบร้อย

ก่อนนำแป้งครัวซองต์ไปอบสามารถโรยอัลมอนด์สไลด์ เพื่อเพิ่มความอร่อยได้ตามใจชอบ หลังอบเสร็จแล้วจะได้ขนมปังครัวซองค์อัลมอนด์ขนมเบเกอรี่โฮมเมดหอมกรุ่นๆ โรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง พร้อมทานได้เลย เพียงแค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย กับขั้นตอนการทำเมนูเบเกอรี่ง่าย ๆ อย่างครัวซองต์ แป้งกรอบนอกนุ่มใน รสชาติกลมกล่อมแบบสูตรดั้งเดิม 

แจกสูตรครัวซองต์ซ็อกโกแลตเข้มข้น หอมอร่อย ช็อกโกแลตฉ่ำๆ กำลังดี 

สำหรับใครที่ชอบทาน ครัวซองต์ ซ็อกโกแลต เราจะมาสอนทำครัวซองสูตรช็อกโกแลตเยิ้มๆ โดยเริ่มแรกนำแป้งที่เราเตรียมไว้จากสูตรดั้งเดิมมาห่อด้วยก้อนซ็อกโกแลต ม้วนแป้งเข้าหากัน ทาด้วยไข่แดง พร้อมนำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที เสร็จแล้วจะได้ขนมปังครัวซองค์เมนูเบเกอรี่ทำเองที่มีกลิ่นหอมอบอวล ที่มาพร้อมกับซ็อกโกแลตวาลาไส้ทะลักเยิ้มๆ หากได้ทานคู่กับน้ำชาเขียวยิ่งส่งความอร่อยมากขึ้นหลายเท่า หรือจะนำมาทานคู่กับผลไม้อย่าง สตรอเบอร์รี่จะได้รสชาติ หวานอมเปรี้ยวอร่อยแปลกใหม่ลงตัวฟินๆ ทุกคำ 

อ่านบทความอื่นๆ:

• ที่สุดของความอร่อย กับ เค้กแครอท เนื้อหวานฉ่ำ สูตรลับระดับห้าดาว
• เปิดอาหารเช้ายอดนิยม ครัวซองค์แฮมชีส กลิ่นหอมอบอวล แฮมชีสอร่อย

เมนูขนมปังมีหลากหลายสูตร แต่ที่กำลังมาแรงอยู่ตอนนี้คงต้องยกให้ ขนมปังเนยสด เป็นขนมเบเกอรี่ยอดนิยมที่แสนจะทำธรรมดา แต่เรื่องรสชาติต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เพราะเนื้อขนมมีความนุ่มลิ้นผสมผสานกับความหวานหอมเนยสดที่ให้ความอร่อยได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ขนมปัง เนย สด ยังเป็นขนมที่ขายดีอีกหนึ่งเมนูอีกด้วย เรียกได้ว่าทำขายแทบไม่ทันเลยทีเดียว 

เข้าครัวสอนทำ ขนมปังเนยสด ฉบับโฮมเมด ทำง่าย รสชาติอร่อยตามสูตรดั้งเดิม 

สำหรับใครที่ชอบทานขนมปังเป็นประจำ แต่อยากลองทำขนมทานเองที่บ้าน หรือทำขายในช่วงว่างงาน ขอแนะนำ ขนมปัง เนยสด สูตรออริจินอล เนื้อแป้งนุ่มนิ่ม รสชาติหวานหอมเนยสดเข้มข้น ซึ่งวิธี ทำ ขนมปัง เนย สดสไตล์โฮมเมดจะทำไม่ยาก และไม่ซับช้อนมากนัก ในส่วนของวัสดุอุปกรณ์ก็สามารถใช้ที่มีอยู่ในครัวได้ โดยไม่ต้องหาซื้อเพิ่ม และที่สำคัญวัตถุดิบที่ใช้ทำขนมก็มีราคาไม่แพงประหยัดต้นทุนอีกด้วย

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

1. แป้งขนมปัง 150 กรัม
2. แป้งเค้ก 50 กรัม
3. เกลือป่น ½ ช้อนชา
4. หัวนมผง 1 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำตาลทราย 30 กรัม
6. ไข่ไก่ 1 ฟอง
7. กลิ่นวานิลลานมเนย ½ ช้อนชา
8. ยีสต์ ½ ช้อนชา
9. เนยสดรสจืด 20 กรัม
10. น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง

สำหรับวัตถุดิบ และส่วนผสมที่เตรียมไว้นั้นเป็นของสูตรขนมปัง โรย น้ำตาล ซึ่งสูตรนี้ได้รับความนิยมมากในร้านคาเฟ่ และร้านเบเกอรี่ ดังนั้นหากทำขายรับรองว่าขายดิบขายดีเทน้ำเทท่าแน่นอน ในลำดับต่อมาเราจะมาทำปังเนยสดเบเกอรี่ง่าย ๆ ดังนี้ 

1. นำนมสดเทใส่ถ้วยเอาเข้าอุ่นในไมโครเวฟให้ร้อน ใส่น้ำตาลทรายลงไป ตามด้วยยีสต์ คนให้เข้ากัน พักไว้ให้ยีสต์ฟูประมาณ 5 นาที เสร็จแล้วนำแป้งขนมปัง แป้งเค้ก เกลือป่น ใส่ชามผสม ทำหลุมตรงกลาง ใส่ไข่ไก่ ส่วนผสมยีสต์ กลิ่นวานิลลานมเนย ตะล่อมส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน จนแป้งจับตัวเป็นก้อน ใส่เนยจืดลงไปนวดให้เข้ากันให้เนยละลายดี จากนั้นใช้ผ้าขาวปิดพักไว้ประมาณ 20 นาที
2. หลังจากครบเวลาแล้วนำแป้งมานวดด้วยมือ เพื่อให้แป้งเนื้อเนียนละเอียดมากขึ้น เสร็จแล้วทาเนยเคลือบแป้งไว้ ใส่แป้งในภาชนะพักไว้ให้แป้งฟูประมาณ 30 นาที ใช้มือนวด และคลึงแป้งให้เป็นก้อนกลม แล้วใช้มีดตัดแบ่งเป็นก้อนเท่าๆ กัน
3. นำแป้งมาคลึงให้เป็นท่อนกลมๆ วางในถาด เสร็จแล้วใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาดๆ พักทิ้งไว้ประมาณ 40 นาที ใช้แปรงทำอาหารจุ่มนมสดทาบนตัวแป้ง จากนั้นนำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที หลังจากนั้นนำขนมออกจากเตา นำเนยสดมาทาบนขนม พร้อมชุบด้วยน้ำตาล เสร็จเรียบร้อย

ขนมปังเนยที่ทำเสร็จใหม่ๆ จะมีความหอมอบอวลเป็นพิเศษ และหากรับประทานขนมที่ยังอุ่นๆ เนื้อแป้งจะนุ่มนิ่มอร่อยฟินทุกคำ ดังนั้นหากจะทำขาย หรือทำทานกันในครอบครัวสามารถทำตามสูตร ขนมปัง เนย สดที่เราแนะนำมาได้เลย รับรองว่าทำง่าย และขนมรสชาติอร่อยอย่างแน่นอน

เปิดเทคนิคทำขนมปังเนยสด แป้งนุ่ม กลิ่นหอมชวนชิม ทำง่าย ทำอร่อย 

หลังจากที่ได้ดูขั้นตอนการทำขนมปังเนยสด เมนูเบเกอรี่โฮมเมดไปเรียบร้อยแล้วจะเห็นว่าขนมปังสูตรเนยสดเป็นเบเกอรี่ทำเองง่ายมากๆ แต่ยังมีอีกหนึ่งเคล็ดลับในการทำขนมให้อร่อย โดยเฉพาะในขั้นตอนผสมแป้งจะต้องนำเนยสดใส่ลงไปคลุกเคล้ากับแป้งจะทำให้ขนมมีความหอมมากยิ่งขึ้น และหลังจากที่อบขนมปังเสร็จให้นำเนยมาทาบนขนม พร้อมคลุกเคล้าด้วยน้ำตาลจะทำให้ขนมปังรสชาติหวานหอมกลิ่นเนยอบอวลน่ารับประทานเพิ่มขึ้น

อ่านบทความอื่นๆ:

• ขนมปัง มันม่วง ขนมของนักคาสิโนออนไลน์ แป้งหอมนุ่มฟู ทานได้ทั้งวัน
• ชวนทำเมนูยอดฮิต ขนมปังอิตาเลี่ยน Focaccia อาหารว่าง ทานได้ทุกวัน

ในสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวแบบนี้ต้องจัดเมนูขนมหวานสักถ้วยสองถ้วย เพื่อคลายความร้อน แต่จะเลือกเมนูอะไรดีทานง่ายๆ ขอแนะนำ พุดดิ้งมะพร้าวอ่อน เนื้อเนียนเด้งสีขาวนวลชวนทานสุดๆ ส่วนรสชาติหวานละมุน เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานหวานได้เป็นอย่างดี และความพิเศษอยู่ที่เนื้อมะพร้าวอ่อนนุ่มกรุบกรอบกำลังดีเคี้ยวเพลินเลยทีเดียว สำหรับขนมเต้าฮวยพุดดิ้ง มะพร้าวอ่อนจะทำใส่ในแก้ว หรือถ้วยขนาดพอดีจึงทำให้ง่ายต่อการรับประทาน และหากนำขนมแช่เย็นจะช่วยให้ทานได้อร่อยสดชื่นมากขึ้น 

ขั้นตอนทำ พุดดิ้งมะพร้าวอ่อน ขนมหวานน้อย เนื้อมะพร้าวหอมกรุบกรอบ 

ใครที่ยังไม่เคยทานขนมพุดดิ้งมะพร้าวอ่อน แนะนำให้ลองหาซื้อทาน เพราะเป็นขนมที่มีความอร่อยครบทุกรสชาติ และมีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มละลายในปาก แถมขนมพุดดิ้งมะพร้าวอ่อนยังสามารถหาซื้อทานได้ง่ายๆ หรือหากใครไม่อยากซื้อทานเรามีสูตร พุดดิ้ง มะพร้าว อ่อนที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน ซึ่งส่วนผสมของขนมมีเพียงนิดเดียวดังนี้

วัตถุดิบ และส่วนผสมของพุดดิ้ง 

1. เนื้อมะพร้าวอ่อน 1 ถ้วยตวง
2. ผงวุ้น 1 ½ ถ้วยตวง
3. น้ำเปล่า 400 กรัม
4. น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม
5. ครีมเมอร์ 200 กรัม
6. น้ำมะพร้าว 400 กรัม

วัตถุดิบ และส่วนผสมของน้ำราดพุดดิ้ง

1. น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม
2. น้ำมะพร้าว 400 กรัม
3. เนื้อมะพร้าวอ่อน 1 ถ้วยตวง
4. ครีมเมอร์ 200 กรัม
5. แก้วขนาดพอดี 5-6 แก้ว

การทำขนมพุดดิ้งสูตรมะพร้าวอ่อนจะต้องใช้เนื้อมะพร้าวที่ไม่อ่อนเกินไป เพราะหากใช้เนื้อมะพร้าวอ่อนเกินจะทำให้ขนมมีรสชาติเปรี้ยวได้ และต้องไม่ใช้เนื้อมะพร้าวที่แก่จนเกินไปจะทำให้เวลาทานเนื้อมะพร้าวจะแข็งไม่อร่อย ที่สำคัญก่อนที่จะลงมือทำขนมพุดดิ้ง มะพร้าวอ่อนต้องขูดเอาเนื้อมะพร้าวเตรียมไว้ก่อนจะได้สะดวกในการทำขนมมากขึ้น

1. มาเริ่มทำน้ำพุดดิ้งกันเลย เริ่มจากนำน้ำมะพร้าว และน้ำเปล่าเทลงไปในหม้อ ใส่ผงวุ้น คนใหเข้ากันจากนั้นให้พักไว้ประมาณ 10 นาที นำหม้อตั้งเตาเปิดไฟปานกลาง คนวุ้นให้ละลาย ตามด้วยน้ำตาลทราย และเนื้อมะพร้าวอ่อน รอให้น้ำเดือด เปิดเตา พักไว้ให้อุ่นใส่ครีมเมอร์ คนให้เข้ากัน ตักพุดดิ้งใส่ถ้วย พักไว้ก่อน
2. ต่อมาเราจะมาทำน้ำราดพุดดิ้ง โดยเริ่มจากเทน้ำมะพร้าว และน้ำเปล่าใส่ในหม้อนำไปตั้งเตาด้วยไฟปานกลาง เมื่อส่วนผสมทั้งหมดเดือด ใส่น้ำตาลทราย และเนื้อมะพร้าวอ่อนลงไป คนให้เข้ากัน ปิดไฟและยกออกจากเตา รอให้ส่วนผสมทั้งอุ่นๆ ใส่ครีมเมอร์ลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน พักไว้ให้เย็นสนิทแล้วนำไปราดในถ้วยพุดดิ้งจนเกือบเต็ม เสร็จเรียบร้อย

สำหรับขนมพุดดิ้งมะพร้าวอ่อนที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วจะมีรสชาติหวานน้อยๆ แต่หอมอบอวลละมุนละไมผสมผสานกับเนื้อสัมผัสของเนื้อมะพร้าวที่กรุบกรอบเคี้ยวได้อย่างเพลิดเพลิน หรือถ้าอยากทานพุด ดิ้งแบบเย็นๆ สามารถเอาขนมพุดดิ้งไปแช่ในตู้เย็นก่อนแล้วค่อยนำมาทานจะอร่อยเย็นชื่นใจคลายร้อนได้ดีสุดๆ 

เคล็ดลับที่ไม่ลับทำขนมหวาน พุดดิ้งมะพร้าวอ่อน ให้อร่อย สไตล์ทำเอง 

พุดดิ้ง มะพร้าวอ่อน ขึ้นชื่อว่าเป็นขนมที่อร่อยหวานมันทานได้ทุกวัน และเด็กๆ ยังชอบทานอีกด้วย และที่สำคัญวิธี ทํา พุดดิ้ง มะพร้าว อ่อนก็สามารถทำได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเรียนทำขนมให้เสียเวลา แต่การทำขนมพุด ดิ้งเองให้อร่อยนั้นจะต้องนำครีมเมอร์ทำให้อุ่นด้วยการตั้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิปกติก่อนนำมาผสมในส่วนผสมที่เตรียมไว้ ส่วนขั้นตอนการละลายผงวุ้นควรผสมวุ้น และน้ำเปล่าแช่ไว้ประมาณ 5-10 นาที เมื่อนำไปต้มผงวุ้นจะละลายได้เร็วขึ้น และต้องคนผงวุ้นเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้วุ้นติดหม้อขนมนนั่นเอง 

อ่านบทความอื่นๆ:

• ขนมสุดเก๋ พานาคอตต้า เปรี้ยว หวาน มัน กลิ่นหอมชวนชิม
• แจกความอร่อย สาคู มะพร้าว อ่อน เหนียวหนึบ หอมกลิ่นกะทิสด 

ชู โรส มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าปาท่องโก๋ สเปน ขนมที่ทำมาจากแป้งชูส์ผสมกับไข่ไก่นวดให้เข้ากัน และปั้นเป็นแท่งยาวๆ ขนาดพอดี หลังจากนั้นนำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ ขนมจะมีความกรอบนอกนุ่มใน พร้อมทานคู่กับนมข้นหวานจะทำให้ขนมรสชาติอร่อยเข้ากันสุดๆ และที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือน้ำเต้าหู้ร้อนๆ ทานแล้วอร่อยฟินจนไม่สามารถหยุดทานได้เลย

เปิดวิธีการทำ ชู โรส ขนมสเปน ทำง่าย กรอบอร่อย ทำขายได้กำไร 

ใครที่เป็นสายขนมปาท่องโก๋ ต้องไม่พลาดกับชู โรส เป็นขนมตระกูลเดียวกับปาท่องโก๋ แต่ขนม churros จะมีเนื้อแน่นกรอบนอกนุ่มใน และหวานอร่อยกำลังดีทานได้ทุกวัน สำหรับคนไหนกำลังหาสูตร churros ที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ วันนี้เรามีสูตรขนม ชู โรส หนึ่งในเบเกอรี่ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก รับรองว่าทำตามได้แน่นอน และที่สำคัญยังสามารถทำออกมาขายได้กำไร และสร้างอาชีพที่มั่นคงได้เป็นอย่างดี

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 200 กรัม
2. น้ำตาลทราย 5 ช้อนชา
3. เนยสดชนิดจืด 70 กรัม
4. น้ำเปล่า 300 กรัม
5. ไข่ไก่ 1 ฟอง
6. น้ำมันพืช 1 ขวด
7. เกลือป่น ½ ช้อนชา

สำหรับสูตรเบเกอรี่ทำเองอย่างขนม churros ที่เรานำมาแชร์ให้ได้ติดตามนั้นถือว่าเป็นสูตรที่คนมือใหม่สามารถทำตามได้ง่ายๆ โดยไม่มีขั้นตอนที่ซับช้อน นอกจากนี้ยังทำได้เหมือนกับสูตรดั้งเดิมอีกด้วย และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาดูวิธี ทำ ชู โรสกันเลย

1. มาเริ่มที่ขั้นตอนแรกกันเลย นำเกลือ น้ำตาล น้ำเปล่า และเนยใส่ลงไปในหม้อที่เตรียมไว้ จากนั้นนำไปตั้งเตาใช้ไฟปานกลาง ทำการคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ลงไป จากนั้นลดไฟอ่อนๆ ใช้ไม้พายคนส่วนผสมให้เข้ากันจนกว่าแป้งจะจับตัวเป็นก้อนข้นหนืด เสร็จแล้วทำการคนแป้งต่อไปอีกประมาณ 4-5 นาที จนไม่มีแป้งที่หม้อก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ปิดไฟ และยกหม้อออกจากเตาได้เลย 
2. นำแป้งที่ต้มสุกแล้วมาเทลงอ่างผสม แล้วค่อยๆ ใส่ไข่ไก้ผสมทีละน้อยๆ คนแป้งให้เป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งแป้งที่ได้จะมีความเข้มข้นสีเหลืองสีงาม ต่อมาให้ตักแป้งใส่ถุงบีบ นำมาบีบให้เป็นห่วงขนาดพอดีบนกระดาษไข 
3. นำกระทะมาตั้งเตาจากนั้นเทน้ำมันพืชใส่ลงไป เปิดไฟปานกลาง รอให้น้ำมันร้อนแล้วยกกระดาษไขคว่ำลงไปในกระทะ แล้วทอดจนกว่าแป้งจะเป็นสีเหลือง จากนั้นตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน พร้อมจัดใส่จานได้เลย

เป็นอย่างไรบ้างกับวิธี ทํา ชูโรส ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด แถมยังได้ชูโรสขนมเบเกอรี่ยอดนิยมที่มีรูปร่างสวยงาม พร้อมโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่งผสมผสานกับเนื้อสัมผัสของแป้งที่มีความกรอบนอกนุ่มในได้อย่างอร่อยโดนใจสุดๆ นอกจากนี้ยังสามารถทานคู่กับช็อกโกแลตร้อนๆ หรือจะเป็นสังขยา นมข้นหวานทานแล้วหยุดไม่ได้ต้องตีมือไว้เลยทีเดียว 

แชร์ขนมชูโรส สูตรหม้อทอดไร้น้ำมัน เนื้อกรุบกรอบ หวานอร่อยกำลังดี 

มาเอาใจสายสุขภาพกันบ้าง สำหรับคนที่อยากทานชู โรส ขนมเบเกอรี่ยอดฮิตแต่กลัวอ้วน เรามีวิธีทำขนม churros สูตรเบเกอรี่โฮมเมดในหม้อทอดไร้น้ำมันที่สามารถทำได้ง่ายๆ โดยสามารถใช้ส่วนผสม และขั้นตอนการทำร่วมกับสูตรที่เรานำมาแชร์ข้างต้นได้เลย แต่จะเปลี่ยนจากการทอดแป้งด้วยน้ำมันมาเป็นอบแป้งโดยใช้หม้อทอดไร้น้ำมันอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที จากนั้นนำออกมาพักไว้ให้เย็น โรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง หรือน้ำตาลทรายจัดใส่จานเสิร์ฟได้เลย สำหรับชู โรส คือ ขนมที่ทานเป็นอาหารว่างได้ตลอดเวลา และยังทำให้อิ่มท้องได้นาน เหมาะสำหรับทานรองท้องในเวลาเร่งรีบได้เป็นอย่างดี

อ่านบทความอื่นๆ:

• สูตร นูกัต ขนมตังเมแสนหวาน เนื้อเหนียวหนึบหนับ รสชาติหวานมัน
• มาลองทำขนมหวานสุดมินิมอล CANELE กัน

อีกหนึ่งขนมทรงคัพเค้กที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้นั่นก็คือ โดนัท เค้ก เนื้อนุ่มนิ่ม รสชาติหวานละมุน หอมอบอวล ขนาดพอดีคำ สำหรับขนมเค้กโดนัทมีขายตามร้านคาเฟ่ และร้านเบเกอรี่ทั่วไป ซึ่งคนส่วนใหญ่จะซื้อมาทานคู่กับเครื่องดื่มที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว อย่าง สตรอเบอร์รี่ปั่น น้ำมะนาวโซดา หรือจะเป็นกาแฟรสชาติเข้มข้นจะช่วยตัดกับความหวานของขนมได้อย่างลงตัว แน่นอนว่าขนมสุดน่ารักชนิดนี้หลายคนอยากลองทำทานเองสักครั้ง ซึ่งต้องบอกเลยว่าขนมสูตรเค้กโดนัททำง่ายมาก เพียงแค่มีเตาอบก็สามารถทำทานได้ทั้งครอบครัว หรือจะลองทำขายก็ได้เช่นกัน

วิธีทำขนม โดนัท เค้ก ไส้ทะลัก ขนาดพอดีคำ รสชาติหวานนุ่มลิ้น 

สำหรับใครที่อยากลองทำขนมเค้กทานเล่นๆ ในช่วงวันว่าง ขอแนะนำ โดนัทเค้ก ขนมเค้กที่มีขนาดเล็กพอดีคำ และยังเป็นขนมที่กำลังเป็นที่นิยมในตอนนี้ โดยขนมเค้ก โดนัทจะมีจุดเด่นอยู่ที่ไส้ขนมมีรสชาติหวานเข้มข้นผสมผสานกับเนื้อเค้กนุ่มนิ่มทานอร่อยฟินกำลังดี ในส่วนของวิธีทำขนมเบเกอรี่ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากคนมือใหม่ก็ทำได้ แถมยังสามารถทำได้ในปริมาณที่ต้องการ แต่ก่อนที่จะลงมือทำขนมจะต้องมาเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมก่อน

1. แป้งเค้ก 200 กรัม
2. น้ำตาลทราย 90 กรัม
3. น้ำเปล่า 60 กรัม
4. กลิ่นวานิลลา 3 ช้อนชา
5. เกลือป่น ¼ ช้อนชา
6. ผงฟู 1 ช้อนชา
7. น้ำมันรำข้าว 80 กรัม
8. ไข่ไก่ 5 ฟอง
9. แยมสตรอเบอร์รี่ 1 ขวด

ขนมเค้กโดนัทจะมีความพิเศษตรงที่มีไส้หลากหลายสีสันคล้ายๆ กับโดนัท จิ๋ว แฟนซีสุดน่ารัก แต่จะมีความแตกต่างกันที่ขนมเค้กโดนัทเป็นคัพเค้กเนื้อนุ่มเด้งไส้เยิ้มๆ หวานฟินเต็มคำ สำหรับเบเกอรี่ทำเองอย่างขนมเค้กโดนัทสามารถใส่ไส้ได้ในปริมาณที่ต้องการ และทานได้แบบไม่อั้น ในลำดับต่อมาเราจะมาเข้าสู่วิธีการทำแบบคนมือใหม่ทำตามได้ไม่ยาก

1. นำแป้งเค้ก และฟงฟูมาร่อนในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นใส่น้ำตาลลงไป ตามด้วยไข่ไก่ น้ำมันรำข้าว กลิ่นวานิลลา ผสมให้เข้ากันโดยใช้เครื่องตีขนม เพราะจะทำให้เนื้อแป้งละเอียดมากขึ้น
2. หลังจากแป้งเป็นเนื้อเดียวกันแล้วให้นำมาตักใส่ถุงบีบที่เตรียมไว้ ทำการบีบใส่ถ้วยพิมพ์ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 25-30 นาที จากนั้นนำออกมาพักไว้ให้ขนมเย็นตัว 
3. ใช้ตะเกียบเจาะขนมเค้กให้เป็นรูตรงกลาง และค่อยๆ บีบไส้แยมสตรอเบอร์รี่ลงให้เต็ม โรยหน้าด้วยน้ำตาลไอซิ่ง เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

จบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับเค้กโดนัทขนมเบเกอรี่สุดน่ารักแบบพอดีคำ สำหรับวิธีทำขนมเค้กเบเกอรี่โฮมเมดง่ายๆ ถ้าอยากให้แป้งเค้กนุ่มฟูจะต้องใช้เครื่องตีขนมตีจนกว่าเนื้อแป้งจะมีความเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่ออบเสร็จแล้วจะได้ขนมที่นุ่มเด้งเนื้อเนียนน่าทาน 

แนะนำไส้ขนมโดนัทเค้ก เนื้อเด้ง ไส้เยิ้มๆ หลากหลายสีสันสุดน่ารัก 

สำหรับขนมโดนัท เค้ก ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูเบเกอรี่ยอดนิยมที่มีหลากหลายสีสัน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีให้เลือกหลากหลายไส้ ไม่ว่าจะเป็น ไส้ซอสส้ม สตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ไส้สังขยาใบเตย และไส้ครีม โดยแต่ละไส้จะมีกลิ่น และรสชาติที่แตกต่างกันออกไป เรียกได้ว่า เค้กโดนัทเป็นขนมที่มีความสวยงาม และหน้าตาน่าทานไม่แพ้ขนมเค้กชนิดอื่นๆ เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเป็นขนมที่สามารถนำไปเป็นของขวัญให้กับญาติผู้ใหญ่ หรือจะทำขนมเค้ก โดนัท วัน เกิดให้กับคนพิเศษทานอร่อยๆ ก็ได้อีกด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

• เปิดสูตร โดนัทจิ๋ว สุดน่ารัก ที่มาพร้อมความอร่อย หอม หวาน แป้งนุ่มนิ่ม 
• แจกสูตรเด็ดเมนูสุดละมุนกับ โดนัท นมสด ความอร่อยที่คุณต้องลิ้มลอง

วาฟเฟิล ฮ่องกง หรือวาฟเฟิลไข่มีเนื้อแป้งกรอบนอกนุ่มใน โดยส่วนผสมหลักจะเป็นแป้งเค้ก ผสมไข่ และน้ำตาล นำมาเทใส่เตาวาฟเฟิลให้แป้งสุกแล้วจะได้ขนมกลิ่นหอมอบอวลชวนทาน ที่มาพร้อมรูปร่างของขนมสุดน่ารัก สำหรับวาฟ เฟิล ฮ่องกงสามารถหาซื้อได้ตามตลาดอาหารทั่วไป โดยขนมวาฟเฟิลไข่มีให้เลือกทั้งแบบออริจินอล และแบบมีท๊อปปิ้ง ซึ่งท็อปปิ้งที่นิยมมากที่สุดจะเป็นไส้ช็อกโกแลตเยิ้มๆ ทานคู่กับแป้งกรอบๆ เข้ากันสุดๆ นอกจากนี้ยังมีท็อปปิ้งหลากหลายชนิดให้เลือกทานได้ตามใจชอบ เรียกได้ว่าหากจะทานเพียงชิ้นเดียวคงไม่พอแน่นอน

ขั้นตอนทำขนม วาฟเฟิล ฮ่องกง สูตรดั้งเดิม แป้งกรอบ หอมกลิ่นเนยสด 

หากพูดถึงขนมหวานที่สามารถทานได้ทุกวัน ต้องยกให้กับขนมวาฟเฟิล ฮ่องกง รสชาติหวานละมุนที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และยังมีความกรุบกรอบของแป้งเคี้ยวได้อย่างเพลิดเพลิน แถมยังเป็นขนมที่สามารถทานคู่กับอะไรก็อร่อยรสชาติไม่จำเจ และสามารถทานได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อ อย่างไรก็ตามขนมวาฟเฟิลเป็นขนมยอดนิยมที่ผู้คนต่อคิวกันซื้อเป็นจำนวนมาก สำหรับคนที่ขี้เกียจรอนาน เรามีสูตรขนมวา ฟ เฟิ ล ไส้ ทะลักมาให้ได้ลองทำอย่างง่ายๆ ดังนี้

1. แป้งอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
2. แป้งมันสำปะหลัง 1 ช้อนโต๊ะ
3. ผงคัสตาร์ ½ ช้อนโต๊ะ
4. ผงฟู 1 ช้อนชา
5. น้ำตาลทรายขาว 2 ช้อนโต๊ะ
6. ไข่ไก่ 2 ฟอง
7. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
8. กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนโต๊ะ
9. ซ็อกโกแลตแท่ง 2 แท่ง
10. น้ำเปล่า 200 กรัม

ในส่วนของวัตถุดิบที่เตรียมไว้นั้น เป็นสูตรวาฟเฟิลสอดไส้ช็อกโกแลตเยิ้มๆ แต่ถ้าอยากเพิ่มท็อปปิ้งอย่าง สตรอเบอร์รี่ ลูกเกด หรือจะเป็นผลไม้ชนิดอื่นก็ได้ตามใจชอบ เมื่อได้ส่วนผสมที่ต้องการแล้วต่อมาจะเข้าสู่กระบวนการทำขนม วา ฟ เฟิ ลตามฉบับโฮมเมดดังนี้

1. นำแป้งอเนกประสงค์ ผงฟู ผงคัตตาร์ และแป้งมันสัมปะหลังมาร่อนใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นใส่ไข่ไก่ น้ำเปล่า น้ำตาลทรายขาว ตามด้วยกลิ่นวานิลลา ผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เสร็จแล้วให้นำช็อกโกแลตมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เตรียมไว้
2. ในลำดับต่อมาให้เตรียมเตาวาฟเฟิล โดยการอุ่นเครื่องเปิดไฟสูง ประมาณ 1-2 นาที จากนั้นให้ลดไฟลงเป็นปานกลาง นำน้ำมันพืชมาทาให้ทั่วกระทะทั้ง 2 ด้าน 
3. ต่อมาให้ตักน้ำแป้งที่เตรียมไว้ลงไปในกระทั่ว จากนั้นใส่ช็อกโกแลตลงไป ทำการปิดฝากระทะให้สนิท เสร็จแล้วให้กลับด้านกระทะอีกด้าน รอประมาณ 2 นาที แล้วกลับอีกด้านขึ้นมาให้รอประมาณ 2 นาที เมื่อแป้งสุกแล้วให้ค่อยๆ เปิดฝาวาฟเฟิลออก เอาขนมวาฟเฟิลใส่จาน ตกแต่งให้สวยงาม

เมื่อทำขนมเสร็จแล้วจะได้เนื้อแป้ง วา ฟ เฟิ ลกรอบนอก นุ่มในกลิ่นหอมละมุน ส่วนด้านในของแป้งอัดแน่นไปด้วยช็อกโกแลตไส้ทะลัก รสชาติหวานจัดจ้านอร่อยทานเพลินเลยทีเดียว และหากราดน้ำผึ้งลงไปในแป้งวา ฟ เฟิ ล กรอบจะช่วยเพิ่มรสชาติของขนมให้มีความโดดเด่นทานแล้วฟินสุดๆ 

เคล็ดลับของความอร่อยไม่จำเจ วาฟเฟิลฮ่องกง ไอศกรีม หวานเย็นชื่นใจ 

ขนมวาฟเฟิล ฮ่องกง เป็นขนมหวานที่มีวิธีทำค่อนข้างง่าย และไม่ต้องรอนานก็ได้ทานขนมกรอบอร่อยได้ที่บ้าน นอกจากนี้วาฟเฟิลไข่ยังสามารถนำมาประยุกต์เป็นกรวยใส่ไอศกรีมหวานๆ ได้ด้วย ซึ่ง สูตร วา ฟ เฟิ ล ไอศกรีมก็ง่ายนิดเดียว โดยเริ่มจากทำวาฟเฟิลให้กรอบพอดี เสร็จแล้วพักไว้ให้เย็น นำมาม้วนคล้ายกรวย ตักไอศกรีมรสชาติตามใจชอบใส่ในกรวย ราดด้วยช็อกโกแลต หรือคาราเมล เพิ่มความอร่อยด้วยวิปปิ้งครีมพร้อมทานได้เลย

อ่านบทความอื่นๆ:

• เครมบรูเล่ ขนมหวานแสนอร่อย การผสมผสานคัสตาร์ดคาราเมล

สนับสนุนโดย: ufaball.bet

เชื่อว่าหลายคนที่กำลังลดน้ำหนักมักจะประสบปัญหาอยากทานขนมหวานอร่อยๆ แต่กลัวอ้วน ดังนั้นเรามีหนึ่งเมนูขนมหวานที่ทานแล้วไม่อ้วนนั่นก็คือ แพน เค้ก กล้วย หอม สูตรไร้แป้ง น้ำตาลน้อย ที่สำคัญยังเป็นเมนูที่ได้สุขภาพ และดีต่อร่างกาย เพราะสูตรนี้จะใส่ข้าวโอ๊ตแทนแป้งสาลี ส่วนรสชาติต้องบอกเลยว่าอร่อยโดนใจทานได้ไม่มีเบื่อ ในส่วนวิธีทำแพนแค้ก กล้วยหอม ข้าวโอ๊ตก็ทำทานเองได้โดยไม่จำเป็นต้องไปซื้อทานให้เสียเวลา แถมยังสามารถทำเก็บไว้ทานในวันถัดไปได้ด้วย 

วิธีทำ แพน เค้ก กล้วย หอม สูตรคลีน ไม่ใส่แป้ง หวานน้อย แต่อร่อย 

วันนี้ขอแนะนำเมนูขนมหวานสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก และคนรักสุขภาพอย่าง แพนเค้ก กล้วย หอม สูตรคลีน รสชาติหวานน้อยแต่มาพร้อมกับความอร่อยเหมือนแพนเค้กสูตรดั้งเดิมเลยทีเดียว ซึ่งแพนเค้กไร้แป้งจะมีปริมาณแคลลอรี่น้อยทานแล้วน้ำหนักไม่เพิ่ม และไม่อ้วน ดังนั้นใครที่อยากลองทำแพนเค้กทานเองที่บ้าน ต้องไม่พลาดกับสูตรแพน เค้ก กล้วย หอม คลี น กลิ่นหอมชวนทาน ทำง่าย มือใหม่ก็ทำได้ 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องทำการเตรียม

1. ข้าวโอ๊ต 1 ½ ถ้วยตวง
2. กล้วยหอม 1 ผล
3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
4. น้ำมันรำข้าว 1 ช้อนชา
5. เมเปิ้ลไซรัป 1 ช้อนชา
6. นมถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ
7. อัลมอนด์อบ 1 ช้อนโต๊ะ

สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก หรือคนที่แพ้แป้งสาลีสามารถลองทำขนมสูตรแพนเค้ก กล้วยหอม ไม่ ใส่ แป้งสาลีได้เลย รับรองว่ารสชาติ เนื้อขนมอร่อยเหมือนสูตรออริจินอลแน่นอน ในส่วนของส่วนผสมที่เป็นนมถั่วเหลืองสามารถเปลี่ยนเป็นนมอัลมอนด์ได้ตามใจชอบ 

1. ขั้นตอนแรกนำกล้วยที่เตรียมไว้มาปอกเปลือกให้เรียบร้อยแล้ว นำมาใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้จากนั้นบดให้ละเอียด พักไว้ก่อน ต่อมานำข้าวโอ๊ตใส่ในเครื่องปั่นทำการปั่นให้ละเอียด เทใส่กล้วยบด ตามไข่ไก่ นมถั่วเหลือง คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
2. นำกระทะมาตั้งเตาใช้ไฟอ่อนๆ ใส่น้ำมันข้าวเล็กน้อย จากนั้นตักแป้งแพนเค้กลงไปในกระทะ เกลี่ยให้เป็นวงกลม รอให้เกิดฟองอากาศเล็กๆ และรอจนกว่าแป้งจะเป็นสีเหลือง เสร็จแล้วกลับด้านรอให้ดีแล้ว ตักออกใส่จาน ต่อมาให้ทำแป้งแพนเค้กแบบเดิมอีกประมาณ 3-4 แผ่น หรือจะทำมากกว่านี้ก็ได้ตามใจชอบ 
3. นำขนมแพนเค้กที่ได้ราดไซรัป โรยหน้าขนมด้วยเมล็ดอัลมอนด์ ตามด้วยกล้วยหั่นเป็นชิ้นๆ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย 

ขนมแพน เค้ก กล้วยหอมที่ทำเองจะมีรสชาติหวานอ่อนๆ ของไซรัป และมีกลิ่นหอมอบอวลของข้าวโอ๊ตที่ทำเสร็จใหม่ๆ หากลองทานจะได้เนื้อสัมผัสของขนมแพนเค้กที่นุ่มนิ่มผสมผสานกับเนื้ออัลมอนด์ และเนื้อกล้วยหอมหวานเล็กน้อยได้อย่างตัว และที่สำคัญขนมแพนเค้กสูตรคลีนสามารถทำทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ทานอร่อยได้สุขภาพทั้งครอบครัว

แนะนำแพน เค้ก กล้วย หอม แคลต่ำ ทานคู่กับอะไรก็อร่อยได้สุขภาพ 

แพนเค้กกล้วยหอม เป็นสูตรขนมที่สามารถทำได้ง่าย และมีส่วนผสมเพียงเล็กน้อย สำหรับใครที่ชอบทานโยเกิร์ตสามารถใช้เป็นวัตถุดิบเพิ่มเติมในสูตรแพน เค้ก กล้วย หอม ไร้ แป้งที่เรานำมาแชร์ได้เลย โดยขนมแพนเค้กที่ทำเสร็จแล้วจะมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว และหากทานคู่กับน้ำผึ้งเข้มข้นจะยิ่งทำให้ขนมมีรสชาติอร่อยและได้สุขภาพ เพราะในโยเกิร์ตมีส่วนช่วยระบบขับถ่ายดีขึ้น พร้อมทั้งเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และยังสามารถช่วยคุมน้ำหนักได้อีกด้วย ดังนั้นคนที่กำลังจะลดน้ำหนักสามารถทำแพนเค้กสูตรกล้วยหอมคลีนทานได้เองที่บ้าน รับรองว่าน้ำหนักลดอย่างแน่นอน 

อ่านบทความอื่นๆ:

• ล้วงสูตรลับ!! แพน เค้ก แป้งนิ่ม หวานนุ่มลิ้น ทานคู่กับอะไรก็อร่อย

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

หากใครที่เบื่ออาหารเช้าเมนูเดิมๆ ขอแนะนำ แพน เค้ก แป้งหนานุ่มวางทับรวมกันหลายๆ ชั้นน่าทานสุดๆ ในส่วนรสชาติหวานน้อยสไตล์คนรักสุขภาพทานแล้วไม่อ้วน และยิ่งทานตอนแป้งอุ่นๆ จะช่วยเพิ่มความอร่อยไม่มีเบื่อเลยทีเดียว ในปัจจุบันมีแป้งแพนเค้กสำเร็จรูปที่ช่วยให้สามารถทำขนมได้สะดวกสบายมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูขนมเบเกอรี่ที่ใช้เวลาทำไม่นาน แถมประหยัดเวลาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ขนมแพนเค้กสามารถทานร่วมกับน้ำผึ้งได้อร่อยอย่างลงตัวที่สุด 

สอนทำ แพน เค้ก สูตรลับ ทำง่าย แป้งหนานุ่ม หอมละมุน สไตล์โฮมเมด

อาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน เพราะหากไม่ทานอาหารเช้าอาจจะทำให้เกิดผลเสียตามมาในอนาคตได้ ดังนั้นหากใครคิดเมนูอาหารไม่ออกว่าจะทำอะไรทานดีในช่วงเวลาที่เร่งรีบแบบนี้ ต้องไม่พลาดกับ แพน เค้กแป้งนุ่มๆ เมนูเบเกอรี่ง่าย ๆ ที่สามารถทำได้เองโดยใช้เวลาเพียงน้อยนิด อีกทั้งยังสามารถทำเผื่อคนในครอบครัวได้ด้วย ในส่วนของวิธีทำขนมปัง แพน เค้กก็มีขั้นตอนเพียงน้อยนิดคนไม่เคยทำขนมมาก่อนสามารถทำได้แน่นอน

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

1. แป้งเค้ก 150 กรัม
2. เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
3. น้ำตาลทราย 5 ช้อนชา
4. ผงฟู 1 ช้อนชา
5. นมสด 250 กรัม
6. ไข่ 1 ฟอง
7. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
8. น้ำผึ้ง 1 ขวด
9. ผลไม้ตามใจชอบ 1 ถ้วยตวง
10. น้ำมันรำข้าว 30 กรัม
11. น้ำตาลไอซิ่ง 1 ช้อนชา

สำหรับสูตรแพนเค้กที่นำมาแชร์เป็นสูตรออริจินอลรสชาติดั้งเดิมหอมกลิ่นวานิลลาละมุนละไม และหลังจากที่เตรียมส่วนผสม แพน เค้กเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในลำดับถัดไปจะเป็นการลงมือทำ แพน เค้กแป้งนุ่มฟูอย่างง่ายดังนี้

1. มาเริ่มที่ขั้นตอนแรก นำนมสดมาผสมกับน้ำมันรำข้าว ไข่แดง กลิ่นวานิลลา น้ำตาลทราย และเกลือป่น คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เสร็จนำมาเทใส่แป้งเค้กที่เตรียมไว้ ตามด้วยผงฟู และเบกกิ้งโซดา ทำการตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากัน 
2. ต่อมานำไข่ขาวมาตีให้เป็นฝองหยาบๆ จากนั้นใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีส่วนผสมให้ตั้งยอดปานกลาง ตักใส่ส่วนผสมแป้งแพนเค้กตะล่อมให้เข้ากัน หลังจากนั้นใส่ไข่ขาวที่เหลือลงไปคนส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
3. นำกระทะมาตั้งเตาใช้ไฟอ่อนๆ ทากระทะด้วยไฟอ่อนๆ ตักแป้งแพนเค้กลงไป เกลี่ยให้เป็นวงกลม พอให้มีฟองปุดๆ เล็กๆ เมื่อแพนเค้กหน้าแพนเค้กเหลืองสุกดีแล้ว ให้ทำการพลิกกลับด้านอีกครั้ง หลังจากที่แป้งสุกทั้งสองด้านแล้วให้ทำการตักออกใส่จานก็จะได้ขนมแพนเค้กแป้งนุ่มๆ ราดด้วยน้ำผึ้ง โรยหน้าด้วยน้ำตาลไอซิ่ง และผลไม้ตามใจชอบพร้อมทาน

หลังจากที่ได้ดูการทำแพนเค้กหนึ่งในเบเกอรี่ยอดนิยมไปแล้วจะเห็นได้ว่าสูตรและวิธีการทำแพน เค้ก ง่ายๆ ไม่ซับช้อน สำหรับส่วนผสมที่เป็นแป้งเค้กถ้าไม่อยากทำเองสามารถใช้แป้งแพน เค้ก สำเร็จรูปจะสะดวก และทำง่ายมากขึ้น เพียงแค่นี้ก็จะได้แพนเค้กขนมเบเกอรี่โฮมเมดแสนอร่อยรสชาติหวานละมุน หอมกรุ่นๆ อร่อยโดนใจ 

รู้หรือไม่! ขนมแพน เค้ก ขนมปังแป้งนุ่ม อร่อยดีมีประโยชน์

ขนมแพน เค้ก เป็นขนมหวานที่สามารถทานได้ทั้งวัน และยังเป็นของว่างที่อิ่มท้องได้นาน หากทานคู่กับสตรอเบอร์รี่ และบลูเบอรี่จะช่วยเพิ่มรสชาติของขนมได้อร่อยจนหยุดไม่ได้เลยทีเดียว ที่สำคัญแพนเค้กยังเป็นเบเกอรี่ทำเองที่สามารถให้ประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะแป้งสาลี แพน เค้กเป็นคาร์โบไฮเดรตชั้นดีที่เป็นแหล่งพลังงานให้กับร่างกาย นอกจากนี้น้ำผึ้งยังเป็นแหล่งพลังงาน เพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกายเช่นกัน และที่สำคัญผลไม้ช่วยแก้ท้องผูกได้อีกด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

• เปิดสูตร โดนัทจิ๋ว สุดน่ารัก ที่มาพร้อมความอร่อย หอม หวาน แป้งนุ่มนิ่ม 

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

หากไปเที่ยวประเทศไต้หวันเชื่อว่าหลายคนต้องเคยลองทานขนม นูกัต หรือเรียกอีกชื่อว่านูกัตฝรั่งเศส หนึ่งในขนมที่มีชื่อเสียงของไต้หวันอย่างแน่นอน ซึ่งในอดีตการทำขนมชนิดนี้จะต้องใช้แรงงานคนเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งขนมค่อนข้างเหนียวจึงต้องใช้แรงในการทำขนมค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีการทำขนมด้วยเครื่องจักรแทนการใช้แรงงานคน สำหรับขนมนูกัตคือ ขนมที่มีส่วนประกอบเป็นน้ำผึ้ง น้ำตาล ไข่ขาว และส่วนผสมที่ถั่ว ไม่ว่าจะเป็น อัลมอนด์ วอลนัท เฮเซลนัท เป็นต้น หรือบางสูตรอาจจะใช้ผลไม้แห้งอย่างเช่น แครนเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ ทำให้ขนมมีกลิ่นหอม รสชาติหวานอร่อยละมุนละไม

ชวนมาดูวิธีทำขนมยอดนิยม นูกัต ตังเมไต้หวัน ทำง่ายสไตล์โฮมเมค 

นู กัต หรือนูกาท์ ขนมที่มีชื่อเสียงของไต้หวัน มีรสชาติหวาน หอมละมุนละไม อร่อยกลมกล่อม และเนื้อเหนียวนุ่มหนึบหนับคล้ายกับขนมตังเมบ้านเรา จึงทำให้หลายคนเรียกขนมชนิดนี้อีกชื่อหนึ่งว่า ขนมตังเมไต้หวันนั่นเอง ซึ่งขนมชนิดนี้มีขายที่ประเทศไต้หวัน และตามร้านค้าออนไลน์ทั่วไปในบ้านเรา ทำให้ไม่ต้องเดินทางไปซื้อถึงต่างประเทศก็สามารถหาซื้อทานในไทยได้เช่นกัน หรือหากอยากลองทำเองที่บ้านในช่วงวันหยุดยาว วันนี้เรามีวิธีทำ Nougat รสชาติหวานอร่อย ที่มาพร้อมกับเนื้อแป้งกรุบกรอบที่อร่อยอย่างลงตัว แต่ก่อนที่จะไปดูขั้นตอนการทำขนมเบเกอรี่ง่ายๆ จะต้องเตรียมส่วนผสม และวัตถุดิบกันก่อนดังนี้

1. เนยสดจืด 70 กรัม
2. มาร์ชเมลโล่ 150 กรัม
3. ผงโกโก้ 5 กรัม
4. แครกเกอร์ 10 ชิ้น

ในส่วนวิตถุดิบ และส่วนผสมที่กล่าวมาเป็นสูตรแครกเกอร์นูกัตที่มีเนื้อเหนียวหนับ และกรุบกรอบ รสชาติหวาน หอมกลิ่นเนยสดอร่อยโดนใจ สำหรับบ้านไหนที่ไม่มีส่วนผสมที่เป็นผงโกโก้สามารถใช้ผงซ็อกโกแลตที่หาซื้อได้ตามร้านค้าสะดวกซื้อใกล้บ้านแทนได้ 

1. ลำดับแรกนำเนยมาตั้งไฟอ่อนๆ จากนั้นเคี่ยวจนเนยละลาย เสร็จแล้วสามาร์ชเมลโล่ คนให้ละลาย เมื่อส่วนผสมละลายประมาณ 70-80% ให้ปิดไฟและยกออกจากเตา ทำการคนให้เนย และมาร์ชเมลโล่รวมเป็นเนื้อเดียวกัน
2. จากนั้นเติมผงนม และผงโกโก้ลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากันดีแล้วให้พักไว้พออุ่นๆ นำมาปั้นเป็นไส้ก้อนกลมๆ นำมาวางบนแครกเกอร์ และใช้แครกเกอร์อีกชิ้นมาวางประกบกัน เมื่อทำการใส่ไส้ขนมทั้งหมดเรียบร้อยดีแล้วให้นำมาจัดใส่กล่อง ปิดฝาให้เรียบร้อย

เมื่อทำขนมเบเกอรี่อย่างแครกเกอร์สูตรนูกัตเสร็จเรียบร้อยแล้วก็นำมารับประทานได้เลย โดยขนมเบเกอรี่ทำเองจะมีรูปร่าง และรสชาติอร่อยเหมือนซื้อมาจากไต้หวันเลยทีเดียว แถมไส้เหนียวยืดๆ รสหวาน ทานแล้วไม่ติดฟัน ซึ่งเคล็บลับที่ไม่ทำให้ขนมติดฟันคือจะต้องไม่เคี่ยวมาร์ชเมโล่ในช่วงแรกนานเกินไป เพียงแค่นี้ก็จะได้ขนมสูตรเบเกอรี่โฮมเมดแสนอร่อยทานได้ทั้งวัน

สูตรนูกัต ออริจินอล เหนียวหนึบหนับ ทำง่ายนิดเดียว ไม่ยากอย่างที่คิด

สำหรับการทำนูกัต ขนมเบเกอรี่ยอดนิยมสูตรคัสตาร์ดออริจินอลสามารถทำได้ตัวเอง และวิธีการทำนั้นง่ายนิดเดียว แถมส่วนผสมมีเพียงน้อยนิด ซึ่งส่วนผสม และวัตถุดิบสามารถใช้ร่วมกับสูตรที่กล่าวมาข้างต้นได้เลย แค่ไม่ใส่แครกเกอร์ แต่เพิ่มอัลมอนด์หั่นครึ่ง จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดมาเคี่ยวให้เข้ากัน นำมาเทใส่กระดาษไข พับชายกระดาษเข้าหากัน ใช้ไม้นวดแป้งคลึงให้แป้งมีความหนาเท่ากัน จากนั้นใช้มีดตัดเป็นชิ้นๆ เสร็จแล้วนำเก็บเข้าตู้เย็น เพื่อเก็บรักษาให้ขนมมีอายุได้นานมากขึ้น และก่อนที่จะนำขนมออกมาทานควรทิ้งไว้ 10 นาที ให้ขนมนุ่ม และเหนียวเคี้ยวง่ายขึ้น 

อ่านบทความอื่นๆ:

• สโคน (SCONE) ขนมหวานของผู้ดีอังกฤษ ทานคู่กับน้ำชา

สนับสนุนโดย: hilo-88.net

อีกหนึ่งขนมอิตาเลี่ยนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย และเชื่อว่าหลายคนยังไม่คุ้นชินมากนัก สำหรับ พานาคอตต้า เป็นขนมที่มีเนื้อนุ่มเด้งคล้ายเจลาติน รสชาติหวาน หอม ที่มักจะมีรูปร่างสุดคิ้วชวนทาน และมักจะตกแต่งหน้าขนมด้วยผลไม้นานาชนิดสีสันสวยงาม และหากนำไปแช่ในตู้เย็นจะทำให้ขนมมีความหวานฉ่ำอร่อยชื่นใจ เหมาะกับสภาพอากาศร้อนๆ ในช่วงนี้เป็นที่สุด สำหรับขนมพานา คอตต้าสามารถหาซื้อทานได้ตามร้านสะดวกซื้อชั้นนำ หรือร้านคาเฟ่ต่างๆทั่วไป อีกทั้ยังเป็นขนมที่มีราคาไม่แพงนักเรียนก็สามารถซื้อทานได้

แชร์วิธีทำ พานาคอตต้า เนื้อเนียนเด้ง หอมอบอวล อร่อยไม่มีเบื่อ

หากใครกำลังหาขนมหวานๆ คลายร้อนอยู่ตอนนี้ ขอแนะนำ พานา คอตต้า ขนมที่มีชื่อสุดเก๋ไม่ช้ำใคร แถมยังมีรสชาติอร่อย กลิ่นหอมละมุน ซึ่งหากใครที่ได้ลองทานแล้วรับรองต้องติดใจหาซื้อทานอีกแน่นอน และยิ่งสภาพอากาศร้อนแบบนี้ต้องทานขนมพา นาค อ ต ต้า ชาเขียว หอมอร่อยชื่นใจสุดๆ แต่สำหรับที่ชอบทำขนมทานเอง เราก็มีวิธีทํา พานาคอตต้าอย่างง่ายๆ ที่ทำแล้วออกมาสวยน่าทานมาให้ได้ติดตาม และสูตรที่ใช้ทำนั่นก็คือ พานาคอตต้าสตรอเบอรี่ เนื้อสตรอเบอร์รี่ฉ่ำๆ หวานชื่นใจ 

วัตถุดิบ และส่วนผสมของเนื้อขนม

1. วิปปิ้งครีม 1 ถ้วยตวง
2. เจลาติน 4 แผ่น
3. น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง
4. นมสด ½ ถ้วยตวง
5. ผลสตรอเบอร์รี่ ½ ถ้วยตวง
6. วานิลลา ½ ช้อนชา

วัตถุดิบ ส่วนผสมของซอสสตรอเบอร์รี่

1. สตรอเบอร์รี่ ½ ถ้วยตวง
2. เจลาติน 2 แผ่น
3. น้ำมะนาว ½ ช้อนชา
4. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

ก่อนที่จะไปลงมือทำขนมเบเกอรี่ง่ายๆ อย่างพานาคอตต้า เรามาดูความแตกต่างของขนมพานาคอตต้า กับ พุดดิ้ง โดยขนมพานาคอตต้าจะมีเนื้อที่เนียนละเอียด และรสชาติหวานมะมุน และที่สำคัญมีกลิ่นหอมชวนทานมากกว่าพุดดิ้งนั่นเอง และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาลงมือทำขนมแสนอร่อยสไตล์เบเกอรี่โฮมเมดกันเลย

1. ลำดับแรกนำแผ่นเจลาตินมาแช่ในน้ำเย็นจัด เป็นเวลา 10 นาที และในระหว่างที่รอแผ่นเจลาตินนุ่ม เราทำเนื้อขนมกันเลย โดยเริ่มจากใส่วิปปิ้งครีม และนมสดลงไปในหม้อนำไปตั้งเตาพร้อมเปิดไฟปานกลาง พอนมเริ่มร้อนให้ใส่น้ำตาลทรายลงไป จากนั้นนำแผ่นเจลาตินลงไปคนให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ปิดไฟ และใส่กลิ่นวานิลลาลงไป คนให้เข้ากัน
2. นำสตรอเบอร์รี่มาปั่นให้ละเอียด จากนั้นนำลงไปใส่หม้อตั้งไฟอ่อนๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไปคนส่วนผสมทั้งหมดให้ละลาย ใส่น้ำมะนาว และเจลาตินลงไป คนไปสักพักให้ยกออกจากเตา 
3. ตักเนื้อพานอคอตใส่พิมพ์ นำไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที ใส่ซอสสตรอเบอร์รี่ลงไป นำไปแช่เย็นอีกครั้ง พร้อมทานได้

หลังจากได้ขนมพานาคอตต้าหนึ่งในเมนูเบเกอรี่ยอดนิยมเรียบร้อยแล้วสามารถตกแต่งหน้าขนมด้วยผลสตรอเบอร์รี่ลูกใหญ่ฉ่ำๆ สีสันสวยงาม ซึ่งหากได้ลองชิมขนมแล้วจะรับรู้ถึงรสชาติหวานอมเปรี้ยว หอมกลิ่นวานิลลาอ่อนๆ อร่อยจนอยากทำเพิ่มอีกหลายแก้วเลยทีเดียว 

เพิ่มความอร่อย ขนม พานาคอตต้า หลากหลายรสชาติ ทำง่าย มือใหม่ก็ทำได้

พานาคอตต้าถือว่าเป็นเบเกอรี่ที่มีหลากหลายสูตร หลากหลายรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นสูตรเสาวรส ลิ้นจี่ และอีกหนึ่งสูตรที่อยากแนะนำให้ลองทำอย่าง สูตรราสป์เบอร์รี่ สีแดงสดใส และรสชาติ หวาน หอม มัน อร่อยครบรส ในส่วนวิธีทำก็สามารถทำตามสูตรสตรอเบอร์รี่ได้เลย เพียงแต่เปลี่ยนสตรอเบอร์รี่เป็นผลไม้ชนิดอื่นๆ ดังนั้นถ้าใครอยากทำขนมพานาค็อตตาเมนูเบเกอรี่ทำเองง่ายๆ ก็สามารถทำตามสูตรที่กล่าวมาข้างต้นได้เลย ส่วนน้ำซอสผลไม้สามารถเลือกได้ตามใจชอบ

อ่านบทความอื่นๆ:

• สโคน (SCONE) ขนมหวานของผู้ดีอังกฤษ ทานคู่กับน้ำชา

สนับสนุนโดย: hilo-88.net