Categories
เบเกอรี่

เอแคลร์ ขนมหวานทำทานง่าย ทำขายปัง

เอแคลร์
เอแคลร์ ขนมหวานทำทานง่าย ทำขายปัง

เอแคลร์ เป็นเบเกอรี่ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี แต่ภาพจำของหลาย ๆ คนนั้น มักจะเป็นก้อนกลม ๆ สอดไส้ตรงกลาง แต่แท้ที่จริงนั้นเบเกอรี่ชนิดนี้มีชื่อว่า ชูครีม แต่เบอเกอรี่นี้จะมีรูปร่างเป็นทรงยาว แตกต่างกันเพียงรูปร่างภายนอกเพียงเท่านั้น ซึ่งชื่อของเบเกอรี่ขนมหวานชนิดนี้มีความหมายว่า “ฟ้าแล่บ” เป็นการเปรียบถึงความอร่อยของขนม ที่เพียงแค่ได้ลิ้มลองหยิบเข้าไปในปาก ตัวขนมก็จะละลายหายไปอย่างรวดเร็วราวกับฟ้าแล่บนั้นเอง

เอแคลร์
เอแคลร์ ขนมหวานทำทานง่าย ทำขายปัง

วัตถุดิบสำหรับทำเอแคลร์ เบเกอรี่ที่อร่อยราวฟ้าแล่บ

เหตุผลที่ทำให้หลายคนนั้นเข้าใจชื่อของขนม เอแคลร์ ผิดเพี้ยนไปก็เป็นเพราะว่า ในยุคที่มีการค้าขายกับฝรั่งเศสประเทศมากล้นเบเกอรี่ ได้มีการนำขนมหวานทั้งสองชนิดเข้ามาทำในประเทศไทย โดยมีคนไทยเข้าไปช่วยทำด้วย ต่อมาเมื่อการสอบถามถึงชื่อขนมแล้วได้คำตอบมาว่า “ชู อา ลาเครม์” และ “เอแคลร์” ซึ่งชื่อแรกนั้นค่อนข้างออกเสียงยาก จึงนิยมเรียกรวมกันว่าเอแคลร์

วัตถุดิบสำหรับทำตัวขนม

  1. เนยจืด ½ ถ้วย
  2. น้ำเปล่า 1 ถ้วย
  3. เกลือ ¼ ช้อนชา
  4. แป้งอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
  5. ไข่ 4 ฟอง

วัตถุดิบสำหรับทำครีมขนม

  1. นมสด 1 ½ ถ้วย
  2. ไข่แดง 3 ฟอง
  3. แป้งอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ
  4. แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ
  5. สารแต่งกลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

วัตถุดิบสำหรับเคลือบช็อกโกแลต

  1. ช็อกโกแลต 4 ออนซ์
  2. เฮฟวี่ครีม ½ ถ้วยตวง
เอแคลร์
เอแคลร์ ขนมหวานทำทานง่าย ทำขายปัง

ขั้นตอนการทำเบเกอรี่

ขนมหวานนาม เอแคลร์ เบเกอรี่ที่กรอบนอก นุ่มใน หวานละมุนไส้ที่สอดใส่ไว้ตรงกลาง ในปัจจุบันมักจะมีไส้ที่หลากหลาย พร้อมเคลือบด้วยช็อกโกแลต หรือหน้าต่าง ๆ อย่างสวยงาม น่ารับประทานเป็นอย่างมาก ในตอนนี้เราจึงนำขั้นตอนการทำ ขนมหวานเคลือบช็อกโกแลต ที่มีรสชาติหวานตัดกับรสขมเล็กน้อยของช็อกโกแลต ซึ่งก็มีขั้นตอนการทำ ดังนี้ 

  1. ขั้นตอนแรกตั้งหม้อด้วยไฟกลาง ใส่เนย และน้ำลงไปต้มให้ละลายเข้ากัน ต่อด้วยการใส่เกลือ และแป้งอเนกประสงค์ ระหว่างนี้ให้ทำการคนอย่างต่อเนื่อง จนกว่าแป้งจะเข้ากันเป็นก้อนกลม ผัดแป้งต่อไปสักพักเพื่อให้แป้งสุกระเหยความชื้น 
  2. นำแป้งออกมาพักไว้ให้เย็นลง คนเป็นระยะ ๆ โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที ระหว่างนี้ให้ตีไข่ใส่ทีละฟอง และคนจนแป้งเนียนดี
  3. วอร์มเตาอบด้วยอุณหภูมิ 220 องศา ระหว่างนี้ให้ทาเนยบาง ๆ ให้ทั่วถาดรองอบ
  4. นำแป้งที่เตรียมไว้ในขั้นตอนแรกใส่ถุงบีบ แล้วบีบเป็นชิ้น ๆ ใส่ถาดรองอบ โดยเว้นระยะห่างกันเล็กน้อย แล้วนำเข้าเตาอบด้วยอุณหภูมิ 220 องศา เป็นเวลา 20 – 30 นาที หรือจนกว่าขนมจะพองตัวเป็นสีน้ำตาลทอง ด้านนอกแข็ง และด้านในแห้ง เสร็จแล้วให้นำออกจากเตาอบมาพักไว้ในตะแกรงให้เย็น
  5. ต่อมาทำเพรสตี้ครีม ด้วยการตั้งหม้อด้วยไฟกลาง เพื่ออุ่นนม และน้ำตาล ระหว่างนี้ให้ตีไข่แดง แป้งอเนกประสงค์ และแป้งข้าวโพดให้เข้ากัน จนมีเนื้อเนียน จากนั้นใส่ส่วนผสมที่อุ่นไว้ลงไปทีละครึ่ง และคนตลอดเวลา 
  6. นำส่วนผสมในขั้นตอนที่ 5 ลงไปต้มในหม้ออีกครั้ง คนให้เข้ากันจนร้อน และเนื้อสัมผัสมีความข้นเหนียว เสร็จแล้วนำออกจากเตา ใส่สารแต่งกลิ่นวานิลลาลงไปคนให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะคลุมด้วยฟิล์มห่ออาหาร แช่ไว้ในตู้เย็นจนเย็นสนิท
  7. ทำช็อกโกแลตเคลือบ โดยเริ่มจากการหั่นช็อกโกแลตเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วอุ่นเฮฟวี่ครีมด้วยไฟอ่อน เสร็จแล้วยกออกจากเตา ใส่ช็อกโกแลตลงไปคนให้เข้ากันจนเนื้อเนียน พักไว้ให้เย็นแล้วคนด้วยไม้พายเป็นครั้งคราว
  8. สุดท้ายจะเป็นขั้นตอนการประกอบขนม โดยใส่เพรสตี้ครีมที่เตรียมไว้ลงไปในถุงบีบปลายแหลม เจาะรูที่ตัวขนมด้วยมีด แล้วบีบเพรสตี้ครีมสอดไส้เข้าไปจนครบทุกชิ้น จากนั้นนำช็อกโกแลตมาเกลี่ยเคลือบให้ทั่ว นำไปแช่เย็นก่อนรับประทาน
Categories
เบเกอรี่

Palmier พายผีเสื้อกรุบกรอบ เคลือบด้วยน้ำตาลหวานฉ่ำ

พายผีเสื้อ
Palmier พายผีเสื้อกรุบกรอบ เคลือบด้วยน้ำตาลหวานฉ่ำ

กระแสรอยสักรูปผีเสื้อจากซีรี่ย์ Nevertheless มาแรงจนฉุดไม่อยู่ ทำเอาสาว ๆ หลายคนติดกันไปจนแทบไม่ได้นอน และมักจะใช้มุก “ไปดูผีเสื้อกันไหม” นี้หยอกล้อกันสนุกสนาน และในวันนี้สายขนมหวานชิค ๆ อย่างเราก็มีผีเสื้อด้วยเช่นกัน แต่เป็น พายผีเสื้อ หรือ Palmier พายกรุบกรอบ เคลือบด้วยน้ำตาลหวานฉ่ำ จากประเทศฝรั่งเศสที่มีรูปร่างคล้ายกับปีกของผีเสื้อ มาชวนสาว ๆ และหนุ่ม ๆ ลองทำทานกันที่บ้านแบบง่าย ๆ หรือจะชวนเพื่อน ๆ หรือคนรักมาทานด้วยก็รับรองว่าอร่อยไม่อายใคร และไม่แพ้ร้านดัง ๆ เลยค่ะ

พายผีเสื้อ
Palmier พายผีเสื้อกรุบกรอบ เคลือบด้วยน้ำตาลหวานฉ่ำ

วัตถุดิบสำหรับทำพายผีเสื้อ น้อย แต่อร่อยมาก

พายผีเสื้อ Palmiers มักจะถูกเรียกด้วยหลาย ๆ ชื่อ เช่น ชื่อแรกที่หมายความว่าต้นปาล์ม จากลักษณะขนม , ชื่อ Butterfly หรือผีเสื้อ ที่มาจากลักษณะของขนมอีกเช่นเคย เป็นขนมหวานจากฝรั่งเศสที่ใช้วัตถุดิบในการทำเพียงไม่กี่อย่าง โดยใช้วิธีการพับทบสลับกันไปมาคล้าย ๆ กับวิธีการทำครัวซองค์ แล้วนำไปอบจนกรอบเหลือง กรุบน้ำตาลขณะรับประทาน หรือต้องบอกเลยว่าทานเพลินจนหยุดไม่อยู่เลยค่ะ สามารถนำไปทานเปล่า ๆ หรือทานกับชา กาแฟ ก็อร่อยเข้ากันแบบสุด ๆ แต่ก่อนจะไปลองทำนั้นเราไปเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำ พายผีเสื้อ ของเรากันเลยค่ะ

  1. แป้งพายชั้น ½ ปอนด์
  2. น้ำตาลทรายละเอียดขนาดเล็กที่สุด 300 กรัม
  3. เนยละลายสำหรับทาถาด
พายผีเสื้อ
Palmier พายผีเสื้อกรุบกรอบ เคลือบด้วยน้ำตาลหวานฉ่ำ

ขั้นตอนการทำพายรูปร่างน่ารัก

“ไปดูผีเสื้อกันไหม” จากซีรี่ย์ยอดนิยมในตอนนี้ คงต้องแปรเปลี่ยนไปเป็น “มาทำ พายผีเสื้อ ด้วยกันไหม” ด้วยวิธีการทำง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ที่บ้าน จะทำทานเองคนเดียว หรือจะชวนคู่รักมาทำร่วมกันก็ช่วยสานความสัมพันธ์แบบน่ารัก ๆ จากขนมชิ้นจิ๋ว แสนอร่อย ที่เรานำมาแนะนำในวันนี้ ทั้งยังสามารถทำเก็บไว้รับประทานได้นานเป็นอาทิตย์ โดยยังคงความกรอบเอาไว้ได้ค่ะ

  1. ขั้นตอนแรกวอร์มเตาอบทิ้งไว้ที่อุณหภูมิ 215 องศา และทาเนยที่ถาดเตรียมไว้ จากนั้นใช้ไม้นวดแป้งคลึงรีดให้แป้งพายชั้นมีขนาด ½ เซนติเมตร และตัดด้านข้างออก เพื่อให้เป็นทรงสวยงาม ไม่หยัก
  2. นำน้ำตาลละเอียดมาโรย และเกลี่ยให้ทั่วทั้งสองด้านของแผ่นแป้ง เสร็จแล้วทำการพับแป้งด้านซ้าย และด้านขวา ด้านละสองทบ เพื่อให้มาบรรจบกันตรงกลางได้พอดี เพื่อให้เป็นรูปทรงผีเสื้อสวยงาม จากนั้นใช้แผ่นถนอมอาหารห่อหุ้ม ไปพักไว้ในตู้เย็นเป็นเวลา 10 นาที เพื่อให้เซตตัว
  3. เมื่อพักไว้จนครบเวลาแล้วให้นำออกมาจากแผ่นถนอมอาหาร และตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ขนาดประมาณ 1.5 เซนติเมตร ใช้แปรงทาน้ำเปล่าเล็กน้อยมาทาให้ทั่วตัวขนม ต่อด้วยการนำไปคลุกด้วยน้ำตาลอีกที และนำไปวางเรียงไว้ในถาดสำหรับอบ ที่ทาไว้ด้วยเนย 
  4. นำขนมเข้าเตาอบด้วยอุณหภูมิ 215 องศา เป็นเวลา 15 – 20 นาที (เมื่อครบ 7 นาทีแล้วให้นำออกมากลับด้าน แล้วนำเข้าไปอบต่อ เพื่อให้ขนมสุกเท่ากันทั้งสองด้าน) เสร็จแล้วนำออกมาพักไว้บนตะแกรงให้เย็น และเก็บใส่ภาชนะที่ไม่มีอากาศเข้าถึง หรือหากใครจะทานเลยก็สามารถจัดใส่จานรับประทานได้เลย
Categories
เบเกอรี่

เค้กฝอยทองลาวามะพร้าวอ่อน เบเกอรี่สุดฮิต ผสมผสานขนมไทยและเบเกอรี่

เค้กฝอยทองลาวามะพร้าวอ่อน
เค้กฝอยทองลาวามะพร้าวอ่อน เบเกอรี่สุดฮิต ผสมผสานขนมไทยและเบเกอรี่

เค้กฝอยทองลาวามะพร้าวอ่อน เป็นเบเกอรี่ที่มีผู้คิดค้นขึ้นมาในต้นปี 2561 โดยคุณ จิดาภา เลิศสันทนะ เจ้าของร้านน้อยเบเกอรี่ ในจังหวัดสมุทรสาคร ได้นำขนมไทยอย่างฝอยทองมาประยุกต์ใช้แต่งหน้าเบเกอรี่ จนได้รับความนิยมและเกิดเป็นกระแสแชร์กันกระหน่ำโซเชียล เพราะรูปร่างหน้าตาของเค้กที่น่ารับประทาน จนหลาย ๆ คนอดใจไม่ไหวต้องสั่งจองล่วงหน้าหลายวันเลยทีเดียว ทำให้หลาย ๆ ร้านนำมาทำตามและขายกันมากมายอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน โดยมีการพัฒนาเป็นเค้กฝอยทองหลายไส้หลายรสชาติ เช่น ลำไย สตรอว์เบอรี่ บูลเบอร์รี่ เชอร์รี่ ฯลฯ อีกทั้งยังมีฝอยทองใบเตยเอาใจคนชอบกลิ่นหอม ๆ ของใบเตยอีกด้วย ถือได้ว่าเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างขนมไทยและเบเกอรี่เลยทีเดียว

เค้กฝอยทองลาวามะพร้าวอ่อน
เค้กฝอยทองลาวามะพร้าวอ่อน เบเกอรี่สุดฮิต ผสมผสานขนมไทยและเบเกอรี่

วัตถุดิบในการทำเค้กฝอยทองลาวา

เค้กฝอยทองลาวามะพร้าวอ่อนนั้นมีรสชาติหวานหอม เนื้อเค้กนุ่มละมุน วิปปิ้งครีมเข้ากันได้ดีกับฝอยทองนิ่ม ๆ เนื้อมะพร้าวหอม ๆ เคี้ยวกรุบกรุบสู้ฟัน รสชาติหวานมัน บวกกับสีสันที่สวยงาม ทำให้หลายคนที่ได้ลองนั้นถึงกับฟินติดใจจนลืมกลัวน้ำหนักเพิ่มกันไปเลย แต่กับบางคนที่เคยทานอาจจะบอกว่ารสชาตินั้นหวานเลี่ยนจนเกินไป จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถทำได้เองและสามารถปรับสูตรเองได้ตามใจชอบ ? ในวันนี้เราจึงมีสูตรดี ๆ มาฝากให้ได้ทำตามกัน สำหรับคนที่อยากลองทาน หรือคนที่อยากทำเบเกอรี่สุดฮิตนี้ด้วยตนเอง ไปดูวัตถุดิบของเจ้าเค้กยอดนิยมกันเลยดีกว่าค่ะ เราขอแบ่งวัตถุดิบออกเป็น 4 ส่วนนะคะ

วัตถุดิบส่วนผสมของไข่แดง

ไข่แดง 4 ฟอง , น้ำตาลทรายขาว 45 กรัม , น้ำหรือน้ำมะพร้าวอ่อน 80 กรัม , น้ำมันพืช 50 กรัม , แป้งเค้ก 100 กรัม , ผงฟู 1 ช้อนชา , เกลือป่นเล็กน้อย

วัตถุดิบส่วนผสมของไข่ขาว

ไข่ขาว 4 ฟอง , ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/2 ช้อนชา , น้ำตาลทราย 50 กรัม

วัตถุดิบส่วนผสมของซอสมะพร้าวอ่อน

น้ำมะพร้าวอ่อน 160 กรัม , กะทิ 150 กรัม , เนื้อมะพร้าวอ่อน 100 กรัม , น้ำตาลทราย 60 กรัม , แป้งกวนไส้ 30 กรัม , เนยเค็ม 30 กรัม , เกลือ 1/4 ช้อนชา

วัตถุดิบส่วนผสมสำหรับแต่งหน้าเค้ก

วิปปิ้งครีม 250 กรัม , น้ำตาลไอซิ่ง 35 กรัม , ฝอยทองสำหรับแต่งหน้าเค้ก 

เค้กฝอยทองลาวามะพร้าวอ่อน
เค้กฝอยทองลาวามะพร้าวอ่อน เบเกอรี่สุดฮิต ผสมผสานขนมไทยและเบเกอรี่

วิธีการทำเบเกอรี่ฝอยทอง อร่อยง่าย ๆ ทานได้ทั้งครอบครัว

  1. นำแป้งและผงฟูมาร่อนให้เข้ากันแล้วพักไว้ หลังจากนั้นนำไข่แดง น้ำตาลทราย เกลือ น้ำมะพร้าว ใส่ลงไปในอีกถ้วยแล้วคนให้เข้ากันด้วยที่ตีไข่ และใส่แป้งที่ร่อนไว้ลงไปคนจนไม่เห็นเม็ดแป้ง ตามด้วยน้ำมันพืชลงไปคนอีกครั้ง เมื่อเข้ากันแล้วให้พักไว้สักครู่
  2. นำไข่ขาว ครีมออฟทาร์ทา ลงไปใส่ในเครื่องผสมอาหาร ระหว่างที่เครื่องตีอยู่นั้น ให้ใส่น้ำตาลลงไปด้วย ตีจนตั้งยอดแข็งแล้วใส่ส่วนผสมที่พักไว้ลงไปผสมกันโดยใช้ไม้พายคนให้เข้ากัน เสร็จแล้วนำไปเทใส่พิมพ์เค้ก (ทาไขมันแล้ววางด้วยกระดาษไข) จากนั้นคนเล็กน้อยแล้วนำเข้าเตาอบ โดยใช้ไฟ 190 องศา เป็นเวลา 30 นาที เสร็จให้ยกออกจากเตามาคว่ำไว้ให้เย็น อย่าลืมลอกกระดาษไขออกนะคะ
  3. ใส่กะทิ น้ำมะพร้าว น้ำตาล เกลือ แป้งกวนไส้ ใส่หม้อคนให้เข้ากันแล้วเปิดเตาด้วยไฟอ่อน คนจนกว่าซอสจะหนืด เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปและปิดไฟ ตามด้วยเนยสดเพื่อให้ซอสเงา
  4. ใส่วิปปิ้งครีม กะทิ และน้ำตาลไอซิ่งลงไปในเครื่องผสมแล้วตีให้ขึ้นฟู
  5. มาถึงขั้นตอนการแต่งหน้าเค้ก โดยเริ่มจากการเจาะตรงกลางของเค้กและทาวิปปิ้งครีมที่ตัวเค้ก แล้วโปะด้วยฝอยทองให้กลบวิปปิ้งครีม เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย สามารถยกเสิร์ฟพร้อมซอสมะพร้าวอ่อนที่เตรียมไว้ได้เลย


เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับสูตรเบเกอรี่ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ก่อนจากกันขอแนะนำสักนิดว่าหากใครจะรับประทานเลยก็ราดซอสใส่ตรงกลางได้เลยค่ะ แต่ใครที่ทำเก็บไว้ขอแนะนำให้แยกซอสนะคะ เพื่อความอร่อยของขนมฝอยทองลาวาเบเกอรี่สุดฮิตที่ครองใจใครหลาย ๆ คน

Categories
เบเกอรี่

ขนมปังเซียบัตต้า ทำง่าย ไม่ต้องนวด

ขนมปังเซียบัตต้า
ขนมปังเซียบัตต้า ทำง่าย ไม่ต้องนวด

ขนมปัง ถือว่าเป็นเบเกอรี่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่ยุคหิน โดยมีเรื่องเล่ากันว่าชาวสวิสเริ่มจากการนำเมล็ดข้าวสาลีมาบด โดยใช้ครกที่ทำจากหินบดจนละเอียด จากนั้นนำไปผสมกับน้ำ และเทลงบนหินร้อน ๆ จนสุกขึ้นฟู เป็นที่มาของขนมปัง โดยไม่ได้ตั้งใจ แต่บ้างก็เล่าว่าเกิดขึ้นที่แรกในสมัยอียิปต์โบราณ ซึ่งก็มีอยู่หลายเรื่องเล่าถึงต้นกำเนิด จนกระทั่งได้รับความนิยมไปทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยที่นิยมนำมารับประทานกับแยม กาแฟ เป็นอาหารในยามเช้า และในตอนนี้เราก็ขอแนะนำขนมปังสไตล์อิตาเลี่ยน “ขนมปังเซียบัตต้า”

ขนมปังเซียบัตต้า
ขนมปังเซียบัตต้า ทำง่าย ไม่ต้องนวด

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำขนมปังเซียบัตต้า ขนมปังกรอบนอกนุ่มใน

ก่อนจะไปเรียนรู้วัตถุดิบของเบเกอรี่อย่างขนมปัง เรามาทำความรู้จักกับขนมปังเซียบัตต้ากันก่อนดีกว่านะคะ โดยเจ้าขนมปังชิ้นนี้มีที่มาจากประเทศอิตาเลี่ยน ซึ่งชื่อนี้มีความหมายว่า รองเท้า จากลักษณะที่แบน และยาว คล้ายกับรองเท้าแตะ เนื้อสัมผัสกรอบนอก และนุ่มหนึบด้านใน ทานกับอะไรก็อร่อยเข้ากันเป็นอย่างดี จนได้รับความนิยมไปทั่วโลก ส่วนของวัตถุดิบก็มีดังนี้

  1. แป้งขนมปัง 300 กรัม
  2. ยีสต์แห้ง 1/2 ช้อนชา
  3. เกลือป่น 1 ช้อนชา
  4. น้ำอุ่น 265 มิลลิลิตร
  5. น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
ขนมปังเซียบัตต้า
ขนมปังเซียบัตต้า ทำง่าย ไม่ต้องนวด

ขั้นตอนวิธีการทำขนมปังไม่ต้องนวด

ขนมปังเซียบัตต้าเป็นเบเกอรี่ที่ตอบโจทย์คนที่อยากทำขนมปัง แต่ขี้เกียจนวดให้เมื่อยแขน เพราะขั้นตอนวิธีการทำนั้นไม่ต้องเปลืองแรงนวดเลยค่ะ เพียงแค่เราอาศัยการยืด และพับแป้ง บวกกับใช้เวลารอพักแป้งเล็กน้อย ก็จะได้ขนมปังแสนอร่อยที่ไม่แพ้ขนมปังที่นวดนาน ๆ เลย 

  1. ขั้นตอนแรกใส่แป้งทำขนมปัง และเกลือลงไปในชามผสมแล้วใช้ตะกร้อมือคนคลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้
  2. เตรียมกล่องสี่เหลี่ยมที่มีฝาปิด จากนั้นใส่น้ำอุ่น หรือน้ำอุณหภูมิห้อง และยีสต์ลงไป ทำการคนให้ยีสต์ละลาย ตามด้วยน้ำมันมะกอกคนต่อ เสร็จแล้วใส่ส่วนผสมในขั้นตอนที่ 1 ลงไปคนต่อ จนกว่าจะหมดผงแป้งแล้วปิดฝาพักไว้ 45 นาที
  3. เมื่อพักแป้งจนครบเวลาแล้ว เตรียมถ้วยใส่น้ำแล้วใช้มือจุ่มน้ำเล็กน้อย จากนั้นทำการยืดแป้ง และพับแป้งจากบนมาล่าง ซ้ายไปขวา ขวาไปซ้าย หรือทั้งสี่ด้าน จากนั้นปิดฝาแล้วพักไว้ 30 นาที ลำทำการยืด และพักแป้งอีกครั้ง โดยใช้มือชุบน้ำเช่นเดิม และพักไว้ต่ออีก 30 นาที เมื่อครบเวลาแล้วก็ยืด และพับแป้งเหมือนเดิมเป็นครั้งสุดท้ายแล้วปิดฝาพักไว้ 40 นาที
  4. ขั้นตอนต่อมาจะเป็นขั้นตอนการขึ้นรูป เริ่มจากการโรยแป้งทำขนมปังลงบนตัวแป้ง แล้วใช้แผ่นกระดาษรองอบรองโต๊ะก่อนนำแป้งออกมาวาง และโรยแป้งทำขนมปังอีกด้าน จากนั้นตัดแบ่งแป้งออกเป็น 4 ก้อนเท่า ๆ กัน สำหรับทำขนมปัง 4 ชิ้น โดยกดปิดตรงรอยตัดของแป้ง คลุมด้วยผ้าขาวบางเป็นเวลา 30 นาที 
  5. ระหว่างรอพักแป้งให้วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 250 องศา เป็นเวลา 30 นาที เท่าเวลาพักแป้ง เมื่อครบเวลาแล้วให้นำแป้งที่พักไว้บนกระดาษรองอบไปวางไว้บนถาดรองอบ และนำเข้าเตาอบ โดยใช้เวลาอบประมาณ 20 นาที หรือจนกว่าจะสุดเหลือง เสร็จแล้วนำออกจากเตา พักไว้ให้เย็น แล้วตัดเป็นชิ้นจัดเสิร์ฟได้เลยค่ะ




Categories
เบเกอรี่

แอปเปิ้ลครัมเบิ้ล ขนมหวานผสมผลไม้ กรุบกรอบ

แอปเปิ้ลครัมเบิ้ล
แอปเปิ้ลครัมเบิ้ล ขนมหวานผสมผลไม้ กรุบกรอบ

เบเกอรี่ที่เราได้หยิบยกมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก และลองทำตามกันในวันนี้มีชื่อว่า “แอปเปิ้ลครัมเบิ้ล” หรือ Apple Crumble ที่ถือกำเนิดขึ้นมาในเมืองผู้ดีอย่างประเทศอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี ค.ศ 1924 โดยมีลักษณะคล้ายกับคุกกี้ที่ถูกบดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ลักษณะคล้ายกับเบเกอรี่ยอดนิยมอย่างพาย และทาร์ต นิยมนำมาทานคู่กับเบเกอรี่ชิ้นอื่น ๆ ไอศกรีม หรือชา กาแฟ นม เป็นต้น ซึ่งถือว่าเข้ากันเป็นอย่างดี และได้รับความนิยมในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก

แอปเปิ้ลครัมเบิ้ล
แอปเปิ้ลครัมเบิ้ล ขนมหวานผสมผลไม้ กรุบกรอบ

วัตถุดิบในการทำแอปเปิ้ลครัมเบิ้ล เปรี้ยวหวาน อร่อยโดนใจ

สำหรับใครที่ชอบรับประทานผลไม้รสเปรี้ยวหวานอย่างแอปเปิ้ล เชื่อว่าต้องหลงรักเบเกอรี่แสนอร่อยอย่างแอปเปิ้ลครัมเบิ้ลกันอย่างแน่นอน ด้วยรสชาติหวานอมเปรี้ยว กรุบกรอบ และนุ่มนิ่มในชิ้นเดียว แถมวัตถุดิบที่ใช้ในการทำก็มีเพียงไม่กี่อย่าง โดยวัตถุดิบหลักของเราในวันนี้ก็คือแอปเปิ้ลนั่นเองค่ะ ส่วนวัตถุดิบอื่น ๆ ที่ใช้ในการทำเราขอแบ่งเป็นสองส่วน เพื่อให้เข้าใจง่ายนะคะ

วัตถุดิบในการทำไส้ครัมเบิ้ล

  1. เนื้อแอปเปิ้ลหั่นชิ้นเล็ก (แช่น้ำเปล่าผสมเกลือ) 500 กรัม
  2. น้ำตาลทรายแดง 130 กรัม
  3. น้ำตาลทรายขาว 20 กรัม

ส่วนผสมแป้งครัมเบิ้ล

  1. แป้งอเนกประสงค์ 200 กรัม
  2. น้ำตาลทรายแดง 30 กรัม
  3. น้ำตาลทรายขาว 20 กรัม
  4. เนยสดรสเค็ม 100 กรัม
แอปเปิ้ลครัมเบิ้ล
แอปเปิ้ลครัมเบิ้ล ขนมหวานผสมผลไม้ กรุบกรอบ

ขั้นตอนวิธีการทำเบเกอรี่ผลไม้ ทำง่ายเพียง 4 ขั้นตอน

สูตรวิธีทำแอปเปิ้ลครัมเบิ้ลที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ทุกคนสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียง 4 ขั้นตอนเท่านั้น มือใหม่เองก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ อีกทั้งยังสามารถนำไปปรับสูตรให้เป็นเบเกอรี่เค้กมอบให้คนสำคัญในวันพิเศษ หรือแม้แต่ปรับใช้ผลไม้อื่น ๆ นอกเหนือจากแอปเปิ้ลก็อร่อยไม่แพ้กัน ทำทานเองก็ได้ ทำขายก็รายได้ดีค่ะ ดังนั้น เราไปดูวิธีทำของเรากันเลย

  1. ขั้นตอนแรกนี้ให้นำเนื้อแอปเปิ้ลมาผสมกับน้ำตาลทรายแดง และน้ำตาลทรายขาว ทำการคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วนำไปใส่ในถาดรองอบที่รองด้วยกระดาษรองอบ ใช้ไม้พายเกลี่ยหน้าขนมเล็กน้อยให้เสมอกันนะคะ
  2. อบส่วนผสมด้วยอุณหภูมิ 150 องศา เป็นเวลา 15 นาที เสร็จแล้วนำออกจากเตามาพักไว้
  3. ผสมแป้งอเนกประสงค์ น้ำตาลทรายแดง และน้ำตาลทรายขาวตีให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ ใส่เนยสดรสเค็มลงไปกวนให้เข้ากัน 
  4. นำส่วนผสมในขั้นตอนที่ 3 มาโรยใส่หน้าแอปเปิ้ลครัมเบิ้ลให้ทั่ว และเกลี่ยให้สม่ำเสมอกัน จากนั้นนำเข้าเตาอบด้วยอุณหภูมิ 180 องศาเป็นเวลา 30 นาที เสร็จแล้วนำไปแช่เย็นเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ครบเวลาแล้วให้นำออกมาตัดจัดเสิร์ฟได้เลยค่ะ



Categories
เบเกอรี่

ช็อกโกแลตลาวา พร้อมวิธีการทำง่าย ๆ อร่อยได้ไม่เบื่อ

ช็อกโกแลตลาวา
ช็อกโกแลตลาวา พร้อมวิธีการทำง่าย ๆ อร่อยได้ไม่เบื่อ

เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักเบเกอรี่ยอดนิยมอย่าง “ช็อกโกแลตลาวา” เพราะแม้แต่ในเซเว่น ร้านเบเกอรี่ หรือแม้แต่คาเฟ่เองก็มีขายกันอย่างมากมาย ลักษณะนั้นจะเป็นขนมเค้กช็อกโกแลตชิ้นจิ๋ว เนื้อนุ่มนิ่ม สอดไส้ด้วยช็อกโกแลตเข้มข้น ที่เมื่อเราตัดเค้กแล้วจะมีช็อกโกแลตไหลเยิ้มออกมา น่ารับประทานมาก ๆ หากใครเป็นคนที่ชอบทานช็อกโกแลตอยู่แล้ว เมนูนี้คงเป็นเมนูเบเกอรี่สุดโปรดของคุณแน่นอน

ช็อกโกแลตลาวา
ช็อกโกแลตลาวา พร้อมวิธีการทำง่าย ๆ อร่อยได้ไม่เบื่อ

วัตถุดิบในการทำช็อกโกแลตลาวา วัตถุดิบน้อย แต่อร่อยมาก

เมื่อเราไปซื้อช็อกโกแลตลาวาจากร้านต่าง ๆ ที่มีขายกันทั่วไป จะเห็นได้ว่าเบเกอรี่ชิ้นนี้จะมีราคาที่สูง แต่รู้หรือไม่คะ ว่าวัตถุดิบในการทำเบเกอรี่ยอดนิยมนั้นมีเพียง 6 อย่างเท่านั้น และแต่ละอย่างก็ราคาไม่แพง และยังหาซื้อได้ง่าย ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ

  1. Dark Chocolate 110 กรัม
  2. เนยจืด 125 กรัม
  3. แป้งอเนกประสงค์ 30 กรัม
  4. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  5. ไข่แดงของไข่ไก่ 2 ฟอง
  6. น้ำตาลทรายขาว 1/4 ถ้วย
  7. เนยสำหรับทาพิมพ์
ช็อกโกแลตลาวา
ช็อกโกแลตลาวา พร้อมวิธีการทำง่าย ๆ อร่อยได้ไม่เบื่อ

ขั้นตอนวิธีทำเค้กชิ้นจิ๋ว ที่ทานแล้วต้องหลงรัก

หากใครเคยรับประทานเค้กช็อกโกแลตลาวากันมาแล้ว ต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นเค้กที่อร่อยถูกใจมาก ๆ จนต้องยกให้เป็นเบเกอรี่สุดโปรด และซื้อทานซ้ำอีกหลาย ๆ รอบกันเลยทีเดียว แต่จะดีกว่าไหมหากเราสามารถทำเบเกอรี่ชิ้นนี้รับประทานกันเองได้แบบง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน แถมแป้งที่เราผสมไว้แล้วยังไม่อบ ก็สามารถเก็บไว้อบในวันอื่น ๆ ได้อีก 2 – 3 วัน ซึ่งคุ้มค่า และประหยัดแบบสุด ๆ ซึ่งวิธีการทำก็มีดังนี้

  1. ขั้นตอนแรกนี้ให้เราทาเนยลงไปให้ทั่วพิมพ์ และโรยแป้งใส่ลงไปเล็กน้อยให้ทั่ว เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการอบ 
  2. ละลายช็อกโกแลต โดยการต้มน้ำให้เดือดแล้วนำชามลงไปวางไว้บนหม้อ จากนั้นใส่ดาร์กช็อกโกแลต และเนยจืดลงไปละลายในชาม ใช้ช้อนคนให้ละลายเข้ากัน เมื่อละลายเข้ากันแล้วให้นำมาพักไว้ให้อุ่น
  3. นำไข่ไก่ทั้งหมดลงไปตีให้เข้ากันในชามผสมด้วยตะกร้อมือ หรือเครื่องผสมอาหารให้ขึ้นฟูเล็กน้อย ตามด้วยน้ำตาลทรายขาวลงไปตีต่อให้ละลายเข้ากัน และไม่เป็นเม็ด ต่อด้วยการทยอยใส่ส่วนผสมในขั้นตอนที่สองลงไปในระหว่างตี เมื่อเข้ากันแล้วใส่แป้งอเนกประสงค์ลงไปตีเบา ๆ ให้เข้ากัน
  4. ใส่ส่วนผสมใส่ลงไปในพิมพ์ที่เตรียมไว้ โดยเผื่อที่ด้านบนไว้ให้เนื้อเค้กช็อกโกแลตลาวาของเราฟูขึ้นมาระหว่างอบ และนำเข้าไปอบด้วยอุณหภูมิ 175 องศา เป็นเวลา 10 – 12 นาที 
  5. เมื่ออบขนมเสร็จแล้วให้นำออกจากพิมพ์ จัดใส่จานแล้วแต่งหน้าตามชอบ เสร็จแล้วเสิร์ฟร้อน ๆ ได้เลยค่ะ
Categories
เบเกอรี่

โดนัทจิ๋ว หอมอร่อยเนื้อนุ่มรับประทานง่าย

โดนัทจิ๋ว หอมอร่อยเนื้อนุ่มรับประทานง่าย

ในสังคมปัจจุบันนั้นขนมถือได้ว่าเป็นเบเกอรี่อีกหนึ่งอย่างที่ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีความหอมและสามารถรับประทานง่ายอุ่นท้องได้เป็นอย่างดี ซึ่งขนมจะมีหลากหลายประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดนัทที่กำลังได้รับความนิยมและผู้คนให้ความสนใจ เพราะสามารถทานได้ง่ายและรับประทานเป็นอาหารในช่วงที่ท้องว่าง ทำให้ลดการหิวระหว่างวันได้อีกด้วย จึงเป็นเมนูที่ผู้คนนิยมรับประทานกัน ในระหว่างวัน ซึ่งโดนัทจิ๋ว เมนูยอดนิยม เป็นเมนูที่ขึ้นชื่อในเรื่องของต้นทุนการทำที่ประหยัด แต่มีรสชาติอร่อยคุ้มค่ากับราคา

วันนี้เราจึงเลือกที่จะมาอธิบายเกี่ยวกับเมนูเบเกอรี่ดังกล่าวให้ทุกท่านได้รับทราบถึงวัตถุดิบหลักและส่วนผสม ที่ใช้ในการทำโดนัทว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง ที่เป็นวัตถุดิบหลักสามารถหาซื้อได้ในร้านค้ารูปแบบไหน รวมถึงจะมาอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนและวิธีการทำ ที่ทุกท่านสามารถทำรับประทานเองได้ที่บ้านซึ่งเป็นขั้นตอนที่ไม่ยาก เราได้ทำการรวบรวมมาไว้ให้ทุกท่านได้ทราบในหัวข้อถัดไป ไปดูกันเลยว่ามีขั้นตอนและวิธีการทำอย่างไรบ้าง นอกจากนี้เขายังมีเคล็ดลับอะไรที่จะช่วยทำให้โดนัทของทุกท่านนั้น สามารถเก็บไว้รับประทานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น สูตรเคล็ดลับที่ถือได้ว่าผู้คนนั้นนิยมทำกันเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านค้าที่ขายขนมปังและโดนัท 

โดนัทจิ๋ว
โดนัทจิ๋ว หอมอร่อยเนื้อนุ่มรับประทานง่าย

โดนัทขนมยอดฮิตรับประทานง่าย

อย่างที่ทุกท่านทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่าในสังคมปัจจุบันนั้นขนมอาหารว่างถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมาก รับประทานง่ายและใช้ระยะเวลาในการรับประทานได้อย่างรวดเร็วมากกว่าการรับประทานอาหารมื้อต่าง ๆ หรืออาหารตามสั่งทั่วไป ขนมนั้นสามารถเก็บไว้รับประทานได้ระหว่างวันในการทำงานอีกทั้งยังใช้ระยะเวลาในการรับประทานที่สั้น ทำให้ผู้คนนิยมรับประทานในช่วงระยะเวลาที่เร่งรีบเมื่อต้องไปทำงานในสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดนัทจิ๋ว ที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานขนมเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วรู้สึกอิ่มท้องและลดการหิวอาหารได้เป็นอย่างดี เราจึงเลือกที่จะมาอธิบายเกี่ยวกับส่วนผสมหลักที่สำคัญและวัตถุดิบที่ใช้ในการทำโดนัท เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกท่านสามารถทำรับประทานเองที่บ้านได้ตามที่ต้องการ ที่ได้รับการการันตีแล้วว่าอร่อยและสามารถเก็บไว้ได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนผสมหลัก ได้แก่

– แป้งอเนกประสงค์หรือแป้งทำเค้ก ในปริมาณ 120 กรัม

– น้ำตาลทราย ปริมาณ 120 กรัม

– เนยจืดในปริมาณ 90 กรัม

– ผงฟู ¼

– เบกกิ้งโซดา 1/4

– ไข่ไก่จำนวน 2 ฟอง

– นมสดในปริมาณ 100 ml

– กลิ่นวนิลาปริมาณ 1 ช้อนชา

– ท็อปปิ้งตามที่ทุกท่านชื่นชอบ

ทั้งหมดข้างต้นเป็นส่วนผสมหลักและวัตถุดิบที่ทุกท่านสามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านค้าขายอุปกรณ์และส่วนผสมในการทำเบเกอรี่ทุกรูปแบบ

โดนัทจิ๋ว
โดนัทจิ๋ว หอมอร่อยเนื้อนุ่มรับประทานง่าย

ขั้นตอนและวิธีการทำโดนัทจิ๋ว

เมื่อทุกท่านได้ทราบถึงส่วนผสมหลักและวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ในการทำโดนัทจิ๋วแล้ว ในลำดับต่อไปก็จะเป็นขั้นตอนและวิธีการทำโดนัทให้สมบูรณ์แบบมากที่สุด โดยเป็นขั้นตอนที่เราได้ทำงานรวมจากต่าง ๆ มาไว้ให้ทุกท่านได้ทราบกัน บอกได้เลยว่าเป็นขั้นตอนและวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยาก ทุกท่านสามารถปฏิบัติตามได้อย่างแน่นอน มีขั้นตอนดังต่อไปนี้

  1. นำน้ำตาล ใส่ลงไปในชามตีให้เข้ากันกับเนยละลายโดยการใช้ตะกร้อมือ
  2. ใส่ไข่จำนวน 2 ฟองลงไปในชามผสมผสานให้เข้ากันตามด้วยนมสดและกวนจนทุกอย่างเข้ากันอย่างดี
  3. นำแป้งอเนกประสงค์หรือแป้งทำเค้กมาร่อนและผสมกับเบกกิ้งโซดา ผงฟู ผสมผสานเข้ากันในชาม ด้วยการใส่สารแต่งกลิ่นวนิลาเพื่อให้ขนมมีความหอม นำไปใส่เครื่องทำโดนัทจิ๋ว เติมท็อปปิ้งตามที่ชื่นชอบ

4. ขั้นตอนสุดท้ายของการทำเบเกอรี่ คือการนำไปอบในระยะเวลา 3 ถึง 5 นาทีก็จะเสร็จสิ้นเรียบร้อยสามารถรับประทานได้ทันที จากที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นสูตรเคล็ดลับที่สำคัญในการทำเมนูขนมทานเล่นโดนัทจิ๋วเลยทีเดียว

Categories
เบเกอรี่

เค้กมะพร้าวอ่อน ขนมเค้กสำหรับคนที่ชอบความหอมและความหวาน

อย่างที่ทุกท่านทราบกันเป็นอย่างดีในปัจจุบันนั้นผู้คนนิยมรับประทานของว่างเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชื่นชอบในการรับประทานขนมหวานที่มีรสชาติอร่อยและกลมกล่อม ซึ่งวันนี้เรามีเมนูขนมหวานมาแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกันนั่นก็คือ เค้กมะพร้าวอ่อน กินขนมหวานที่ผู้คนต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นเค้กที่มีความหอมละมุนลิ้นและอร่อยผสมผสานระหว่างความเป็นไทย นั่นก็คือ มะพร้าวที่ทำจากมะพร้าวอ่อนผสมเข้ากับ ความทันสมัยในการทำเค้กที่ใช้ส่วนผสมของแป้งชนิดต่าง ๆ 

จึงทำให้เป็นเมนูที่ดึงดูดความสนใจของผู้ที่ชื่นชอบรับประทานขนมหวานเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั่งในช่วงวันสำคัญต่าง ๆ ก็ต้องมีการจัดทำขึ้นเพื่อที่จะทำให้ผู้คนที่เข้าร่วมงานวันสำคัญต่าง ๆ ได้รับประทานขนมหวานและของว่างที่มีความอร่อย หนึ่งในนั้นก็คือเค้กมะพร้าวอ่อน เป็นเค้กที่ทุกเพศทุกวัยสามารถรับประทานได้และมะพร้าวเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อของไทย ซึ่งมีรสชาติที่หอมหวานและมันผสมผสานคลุกเคล้าเข้าด้วยกันยิ่งนำมาทำเป็นเค้ก และปรุงแต่งรสชาติตามธรรมชาติยิ่งจะทำให้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

วันนี้เราจึงเลือกที่จะมาอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนวิธีการทำเมนูดังกล่าวรวมถึงส่วนผสมหลักที่ใช้ในการทำเค้กว่ามีอะไรบ้าง และทุกท่านสามารถปฏิบัติตามได้อย่างง่ายดายเพราะเป็นส่วนผสมและวัตถุดิบที่หาได้ตามท้องตลาด ไปดูกันเลยว่ามีส่วนผสมหลักที่สำคัญอะไรบ้างและมีขั้นตอนวิธีการทำอย่างไรที่ไม่ยากและไม่ซับซ้อน

เค้กเนื้อมะพร้าวหอมละมุนลิ้น

สำหรับใครที่ชื่นชอบทานขนมหวานและเค้กเป็นพิเศษนั้นวันนี้เรามีเมนูเด็ดมาแนะนำให้ทุกท่านรู้จัก เค้กมะพร้าวอ่อน เมนูที่เราอยากจะนำเสนอให้ทุกท่านได้ทราบถึงรายละเอียดขั้นตอนวิธีการทำและวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการทำ เนื่องจากเขาเป็นขนมเค้กที่มีรสชาติอร่อยและสามารถรับประทานได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใหญ่จะชื่นชอบรสชาติของมะพร้าวที่มีความหอมและความมันผสมผสานกัน กลายเป็นขนมเค้กรูปแบบเบเกอรี่ที่ผู้คนนิยมรับประทานกันเป็นจำนวนมาก 

และหากใครที่กำลังมองหาเค้กงานวันเกิดหรือเค้กวันสำคัญเพื่อที่จะส่งมอบความรักให้กับคนพิเศษของท่านนั้นเราอยากจะแนะนำเป็นเมนูดังกล่าวที่เราได้อธิบายไปนั่นก็คือ เค้กเนื้อมะพร้าวอ่อนที่จะทำให้คนพิเศษของทุกท่านนั้นชื่นชอบเป็นอย่างมาก เพราะมีรสชาติที่หอมอร่อยเนื้อแป้งนุ่มละมุนเมื่อรับประทานคู่กับมะพร้าวอ่อนแล้วยิ่งจะทำให้มีรสชาติที่ยอดเยี่ยมมากยิ่งขึ้น

ส่วนผสมหลัก และขั้นตอนในการทำเค้กที่ทำจากมะพร้าวอ่อน

ส่วนผสมหลักของเค้กมะพร้าวอ่อน นั้นมีส่วนผสมหลักที่ทุกท่านสามารถซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าและร้านค้าทั่วไป ได้แก่ 

  • แป้งเค้ก 60 กรัม 
  • น้ำตาลทราย 35 กรัม
  • ผงฟู 1/8 ช้อนชา
  • เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
  • ไข่แดง 2 ฟอง 
  • กะทิ 20 กรัม 
  • น้ำมะพร้าว 17 กรัม
  • มะพร้าวอ่อน 1 ลูก
  • ไข่ขาว 2 ฟอง 

เป็นวัตถุดิบและส่วนผสมหลักที่สามารถนำมาทำเค้กได้ทันที ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่สามารถหาได้ตามท้องตลาดทั่วไปอย่างที่เราได้อธิบายไว้เบื้องต้นแล้ว นอกจากนี้เขายังมีขั้นตอนและวิธีการทำที่ไม่ยากเมื่อทุกท่านเตรียมส่วนผสมทุกอย่างไว้ด้วยกันแล้ว อันดับแรกท่านจะต้องทำไส้ครีมของมะพร้าวอ่อนก่อน 

  1. นำเนื้อมะพร้าวนั้นมาผสมผสานคลุกเคล้ากับน้ำตาลทรายกะทิ และน้ำมะพร้าวรวมถึงเกลือป่น ตั้งไฟในขนาดปานกลางและค่อย ๆ คนส่วนผสมทุกอย่างคลุกเคล้าให้เข้ากันเมื่อเสร็จสิ้นเรียบร้อย
  2. ใส่เนยสดลงไปละลายในน้ำที่กำลังร้อน ให้ทุกท่านขูดเนื้อมะพร้าวอ่อนออกเป็นเส้น ๆ และนำมาหั่นตามความชื่นชอบพักทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง 
  3. ทำแป้งเค้กโดยการร่อนแป้งและผงฟูผสมผสานเข้าด้วยกันหลังจากนั้นเทของเหลวที่เราได้ผสมไว้ตั้งแต่ขั้นตอนข้างต้นแล้วคนให้เข้ากันอย่างรวดเร็วเพื่อให้เนื้อแป้งเค้กนั้นเป็นเนื้อเดียวกัน
  4. เมื่อทุกท่านทำเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วให้นำไข่ขาวออกมาตีให้ขึ้นฟอง ใส่น้ำตาลลงไปทีละน้อยและตีจนไข่ขาวขึ้นยอดแข็งนั้นส่วนผสมทุกส่วนนั้นเทใส่พิมพ์และนำเข้าอบประมาณ 20 นาที 
  5. ขั้นตอนที่สำคัญของการทำ เบเกอรี่คือพักทิ้งไว้และนำมาตกแต่งตามความชื่นชอบของทุกท่านได้ทันที
Categories
เบเกอรี่

คุกกี้ไอศกรีม เบเกอรี่ชิ้นจิ๋ว น่ารัก น่ารับประทาน

คุกกี้ไอศกรีม เบเกอรี่ชิ้นจิ๋ว น่ารัก น่ารับประทาน

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราก็ได้นำสูตรการทำเบเกอรี่มาแนะนำให้ทุกคนได้ลองทำทานกันอีกเช่นเคยนะคะ สำหรับเมนูเบเกอรี่ในวันนี้จะเป็นคุกกี้แบบอบ หน้าตาน่ารัก สามารถทำได้ง่าย ๆ นั่นก็คือ “คุกกี้ไอศกรีม” ที่เคยโด่งดังมาก ๆ ในโซเซียลมาแล้ว ซึ่งหลายคนคงจะเคยเห็นกันมาบ้างแล้วนะคะ เรียกว่าเห็นแล้วแยกไม่ออกเลยจริง ๆ ว่านี่เป็นคุกกี้ หรือไอศกรีมจริง ๆ กันแน่ 

คุกกี้ไอศกรีม เบเกอรี่ชิ้นจิ๋ว น่ารัก น่ารับประทาน

วัตถุดิบในการทำคุกกี้ไอศกรีม ขนมหวานหน้าตาน่ารัก

สำหรับคุกกี้ไอศกรีมนั้นถือเป็นคุกกี้ที่ฉีกกฎคุกกี้แบบเดิม ๆ ที่เราเคยเห็นไปเลย โดยการนำคุกกี้มาผสมสีสันต่าง ๆ ในลักษณะเบเกอรี่รูปไอศกรีมสุดแสนจะน่ารัก รสชาติหวาน หอม ละมุนลิ้น ส่วนเนื้อสัมผัสเองก็กรอบนอกนุ่มใน อร่อยสุด ๆ บ้างก็นำมาสอดไส้ด้วยรสชาติต่าง ๆ เพิ่มรสชาติให้น่าทานมากยิ่งขึ้น แต่ในวันนี้เราได้นำสูตรการทำแบบเบสิคไร้ไส้มาฝากกันนะคะ ก่อนอื่นไปเตรียมอุปกรณ์กันเลยค่ะ

  1. เนยสดรสจืด (อุณหภูมิห้อง) 300 กรัม
  2. น้ำตาลไอซิ่ง 150 กรัม
  3. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
  4. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  5. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  6. แป้งเค้ก 500 กรัม
  7. สีผสมอาหารตามชอบ
คุกกี้ไอศกรีม เบเกอรี่ชิ้นจิ๋ว น่ารัก น่ารับประทาน

ขั้นตอนวิธีทำเบเกอรี่ คุกกี้ยอดฮิต

แม้ว่าคุกกี้ไอศกรีมนั้นจะมีหน้าตาที่แตกต่างจากคุกกี้ทั่วไป แต่วิธีการทำนั้นยังคงคล้ายกันอยู่ค่ะ นั่นหมายความว่า คนที่เคยทำขนมอบอย่างคุกกี้กันมาบ้างแล้ว จะสามารถทำได้อย่างง่ายดายเลยค่ะ ส่วนคนที่ไม่เคยทำก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เหมือนกันนะคะ วิธีทำของเรามีดังนี้

  1. ขั้นตอนแรกใส่เนยสดรสจืดลงไปในชามผสม ใช้ตะกร้อมือคนจนละลาย จากนั้นใส่น้ำตาลไอซิ่ง เกลือป่น คนให้เข้ากันแล้วใช้ไม้พายปาดให้ส่วนผสมมาอยู่ตรงกลางแล้วใส่ไข่ไก่ กลิ่นวานิลลา ลงไปคนให้เข้ากัน 
  2. ร่อนแป้งเค้กใส่ลงไปในชามผสมเดียวกันกับขั้นตอนที่ 1 โดยใช้ไม้พายกวนเบา ๆ ให้เข้ากันจนมีเนื้อเนียน ไม่ติดชาม จากนั้นแบ่งส่วนผสมออกตามจำนวนสีผสมอาหารที่ต้องการใช้แล้วหยดสีผสมอาหารลงไปคนผสมให้เข้ากัน ห่อภาชนะด้วยฟิล์มถนอมอาหาร แล้วนำเข้าไปแช่เย็นเป็นเวลา 30 นาที
  3. เมื่อรอจนครบเวลาแล้วนำที่ตักไอศกรีมมาตักขึ้นรูป ตักแป้งเนื้อคุกกี้ไอศกรีม โดยรองถาดรองอบด้วยกระดาษไข ก่อนจะตักคุกกี้ใส่ลงไป
  4. นำเข้าเตาอบด้วยอุณหภูมิ 150 องศา ไฟบน – ล่าง เปิดพัดลม เป็นเวลา 30 นาที จากนั้นให้พักไว้ให้เย็นแล้วนำมาจัดใส่จานเสิร์ฟได้เลยค่ะ
Categories
เบเกอรี่

โอเปร่าเค้ก เค้กกาแฟที่มีชื่อคล้ายเครื่องดนตรี

โอเปร่าเค้ก เค้กกาแฟที่มีชื่อคล้ายเครื่องดนตรี

สำหรับใครที่เป็นสายกาแฟอยู่แล้ว คงหลงรักโอเปร่าเค้กแบบสุด ๆ เพราะเป็นเบเกอรี่เค้กสัญชาติฝรั่งเศสที่อร่อยเข้มข้น ชุ่มฉ่ำ เต็มรสกาแฟอย่างแท้จริง โดยเค้กชิ้นนี้มีชื่อเสียง และเป็นที่นิยมมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1903 โดยมีหลาย ๆ ผู้ที่อ้างตัวว่าตนเองนั้นเป็นผู้คิดค้น บ้างก็บอกว่าเป็นเค้กที่เกิดขึ้นในโรงละครโอเปร่า เพื่อให้คนที่มาชมละครได้รับประทานกันระหว่างรับชม

โอเปร่าเค้ก เค้กกาแฟที่มีชื่อคล้ายเครื่องดนตรี

วัตถุดิบในการทำโอเปร่าเค้ก เค้กหลายชั้น เต็มรสกาแฟ

โอเปร่าเค้ก มีลักษณะเป็นเค้กหลายชั้น ที่ไม่ว่าคุณจะตักคำไหนก็จะได้รสชาติทั้งหมดของเบเกอรี่ชิ้นนี้อย่างอร่อยลงตัว โดยจะได้รสเดียวกันแทบทั้งชิ้น ทั้งรสของครีม กาแฟ เนื้อเค้ก และช็อกโกแลต โดยในปัจจุบันก็เป็นที่นิยมจนมีมากมายหลายสูตร ซึ่งสูตรที่เรานำนาฝากในวันนี้ก็ขอแบ่งวัตถุดิบออกเป็นส่วน ๆ เพื่อให้เข้าใจง่ายนะคะ

เนื้อเค้กชิฟฟอนกาแฟ

  1. แป้งเค้ก 80 กรัม
  2. ผงฟู 3/4 ช้อนชา
  3. เกลือ 1/4 ช้อนชา
  4. น้ำตาล 65 กรัม
  5. น้ำมันพืช 45 มิลลิลิตร
  6. นมสด 60 มิลลิลิตร
  7. ผงกาแฟ 2 ช้อนชา ผสมน้ำอุ่น 60 มิลลิลิตร
  8. ไข่แดง 3 ฟอง
  9. กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
  10. ไข่ขาว 3 ใบ
  11. น้ำตาลทรายขาว 65 กรัม

บัตเตอร์ครีมกาแฟ

  1. บัตเตอร์ครีม 150 กรัม
  2. ผงกาแฟ 1.5 ช้อนชา ผสมกับน้ำเปล่า 1 ช้อนชา

น้ำเชื่อมกาแฟ

  1. ผงกาแฟ 2 ช้อนชา
  2. น้ำร้อน 5 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำตาลทรายขาว 1 ช้อนโต๊ะ

ช็อกโกแล็ตกานาชครีม

  1. ช็อกโกแล็ต 100 กรัม
  2. วิปปิ้งครีม 100 กรัม
โอเปร่าเค้ก เค้กกาแฟที่มีชื่อคล้ายเครื่องดนตรี

ขั้นตอนวิธีการทำเค้กกาแฟ เนื้อชิฟฟ่อน

สำหรับวิธีการทำโอเปร่าเค้กนั้นก็แสนจะง่ายดาย แต่อาจจะซับซ้อน และหลายขั้นตอนไปเสียหน่อย อาจจะถือว่าซับซ้อนเกินไปสำหรับมือใหม่หัดทำเบเกอรี่เลยก็ว่าได้ แต่เมื่อได้รับประทานเค้กกาแฟชิ้นนี้แล้วขอรับรองเลยว่าต้องติดใจแน่นอน 

  1. ขั้นตอนแรกนำแป้งเค้ก ผงฟู เกลือไปร่อนด้วยตะแกรงใส่ลงไปในชามผสม และใส่น้ำตาล ใช้คะกร้อมือคนให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำมันพืช ไข่แดง กลิ่นวานิลลา และกาแฟผสมน้ำอุ่น ตีผสมให้เข้ากันอย่างรวดเร็ว
  2. ใส่ไข่ขาว และน้ำตาลทรายลงไปในโถตีของเครื่องผสมอาหาร ตีด้วยความเร็วสูงสุดจนตั้งยอดแข็ง จากนั้นให้นำไปผสมกับส่วนผสมในขั้นตอนที่ 1 และตีอย่างเบามือ
  3. เตรียมถาดรองอบ รองด้วยกระดาษรองอบ เสร็จแล้วให้เทส่วนผสมที่เตรียมไว้ลงไป เกลี่ยด้วยไม้พายให้สม่ำเสมอกันทั่วทั้งพิมพ์ และนำไปอบด้วยอุณหภูมิ 180 องศา เป็นเวลา 15 นาที เสร็จแล้วนำออกจากเตาอบ พักไว้ให้เย็นแล้วนำกระดาษไขออกจากเนื้อเค้ก
  4. ทำบัตเตอร์ครีมกาแฟ โดยตีผสมบัตเตอร์ครีมกับกาแฟที่เราผสมไว้ลงไปตีให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือแล้วพักไว้
  5. ขั้นตอนต่อมาเป็นขั้นตอนการทำน้ำเชื่อม ให้ผสมผงกาแฟ น้ำอุ่น และน้ำตาลแล้วคนให้เข้ากัน 
  6. ผสมช็อกโกแลชกานาช และวิปปิ้งครีม แล้วนำเข้าไปละลายในไมโครเวฟ และคนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีม
  7. ตัดเนื้อเค้กให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าบาง ๆ เป็นจำนวน 4 แผ่นเท่า ๆ กันกับพิมพ์สี่เหลี่ยม 
  8. ใส่เค้กแผ่นแรกลงไปในพิมพ์ ทาด้วยน้ำเชื่อมกาแฟให้ทั่ว ตามด้วยปาดบัตเตอร์เค้กลงไปให้เนียนเสมอกัน ใส่เนื้อเค้กอีกหนึ่งชั้น ทาน้ำเชื่อม และปาดช็อกโกแล็ตกานาชให้ทั่ว ทำซ้ำกับอีกสองแผ่นที่เหลือในแบบเดียวกัน เสร็จแล้วให้นำไปแช่เย็น 2 ชั่วโมง นำออกจากพิมพ์ และแต่งหน้าตามใจชอบ ตัด และจัดเสิร์ฟได้เลยค่ะ