เอแคลร์ ขนมหวานทำทานง่าย ทำขายปัง

เอแคลร์
เอแคลร์ ขนมหวานทำทานง่าย ทำขายปัง

เอแคลร์ เป็นเบเกอรี่ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี แต่ภาพจำของหลาย ๆ คนนั้น มักจะเป็นก้อนกลม ๆ สอดไส้ตรงกลาง แต่แท้ที่จริงนั้นเบเกอรี่ชนิดนี้มีชื่อว่า ชูครีม แต่เบอเกอรี่นี้จะมีรูปร่างเป็นทรงยาว แตกต่างกันเพียงรูปร่างภายนอกเพียงเท่านั้น ซึ่งชื่อของเบเกอรี่ขนมหวานชนิดนี้มีความหมายว่า “ฟ้าแล่บ” เป็นการเปรียบถึงความอร่อยของขนม ที่เพียงแค่ได้ลิ้มลองหยิบเข้าไปในปาก ตัวขนมก็จะละลายหายไปอย่างรวดเร็วราวกับฟ้าแล่บนั้นเอง

เอแคลร์
เอแคลร์ ขนมหวานทำทานง่าย ทำขายปัง

วัตถุดิบสำหรับทำเอแคลร์ เบเกอรี่ที่อร่อยราวฟ้าแล่บ

เหตุผลที่ทำให้หลายคนนั้นเข้าใจชื่อของขนม เอแคลร์ ผิดเพี้ยนไปก็เป็นเพราะว่า ในยุคที่มีการค้าขายกับฝรั่งเศสประเทศมากล้นเบเกอรี่ ได้มีการนำขนมหวานทั้งสองชนิดเข้ามาทำในประเทศไทย โดยมีคนไทยเข้าไปช่วยทำด้วย ต่อมาเมื่อการสอบถามถึงชื่อขนมแล้วได้คำตอบมาว่า “ชู อา ลาเครม์” และ “เอแคลร์” ซึ่งชื่อแรกนั้นค่อนข้างออกเสียงยาก จึงนิยมเรียกรวมกันว่าเอแคลร์

วัตถุดิบสำหรับทำตัวขนม

  1. เนยจืด ½ ถ้วย
  2. น้ำเปล่า 1 ถ้วย
  3. เกลือ ¼ ช้อนชา
  4. แป้งอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
  5. ไข่ 4 ฟอง

วัตถุดิบสำหรับทำครีมขนม

  1. นมสด 1 ½ ถ้วย
  2. ไข่แดง 3 ฟอง
  3. แป้งอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ
  4. แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ
  5. สารแต่งกลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

วัตถุดิบสำหรับเคลือบช็อกโกแลต

  1. ช็อกโกแลต 4 ออนซ์
  2. เฮฟวี่ครีม ½ ถ้วยตวง
เอแคลร์
เอแคลร์ ขนมหวานทำทานง่าย ทำขายปัง

ขั้นตอนการทำเบเกอรี่

ขนมหวานนาม เอแคลร์ เบเกอรี่ที่กรอบนอก นุ่มใน หวานละมุนไส้ที่สอดใส่ไว้ตรงกลาง ในปัจจุบันมักจะมีไส้ที่หลากหลาย พร้อมเคลือบด้วยช็อกโกแลต หรือหน้าต่าง ๆ อย่างสวยงาม น่ารับประทานเป็นอย่างมาก ในตอนนี้เราจึงนำขั้นตอนการทำ ขนมหวานเคลือบช็อกโกแลต ที่มีรสชาติหวานตัดกับรสขมเล็กน้อยของช็อกโกแลต ซึ่งก็มีขั้นตอนการทำ ดังนี้ 

  1. ขั้นตอนแรกตั้งหม้อด้วยไฟกลาง ใส่เนย และน้ำลงไปต้มให้ละลายเข้ากัน ต่อด้วยการใส่เกลือ และแป้งอเนกประสงค์ ระหว่างนี้ให้ทำการคนอย่างต่อเนื่อง จนกว่าแป้งจะเข้ากันเป็นก้อนกลม ผัดแป้งต่อไปสักพักเพื่อให้แป้งสุกระเหยความชื้น 
  2. นำแป้งออกมาพักไว้ให้เย็นลง คนเป็นระยะ ๆ โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที ระหว่างนี้ให้ตีไข่ใส่ทีละฟอง และคนจนแป้งเนียนดี
  3. วอร์มเตาอบด้วยอุณหภูมิ 220 องศา ระหว่างนี้ให้ทาเนยบาง ๆ ให้ทั่วถาดรองอบ
  4. นำแป้งที่เตรียมไว้ในขั้นตอนแรกใส่ถุงบีบ แล้วบีบเป็นชิ้น ๆ ใส่ถาดรองอบ โดยเว้นระยะห่างกันเล็กน้อย แล้วนำเข้าเตาอบด้วยอุณหภูมิ 220 องศา เป็นเวลา 20 – 30 นาที หรือจนกว่าขนมจะพองตัวเป็นสีน้ำตาลทอง ด้านนอกแข็ง และด้านในแห้ง เสร็จแล้วให้นำออกจากเตาอบมาพักไว้ในตะแกรงให้เย็น
  5. ต่อมาทำเพรสตี้ครีม ด้วยการตั้งหม้อด้วยไฟกลาง เพื่ออุ่นนม และน้ำตาล ระหว่างนี้ให้ตีไข่แดง แป้งอเนกประสงค์ และแป้งข้าวโพดให้เข้ากัน จนมีเนื้อเนียน จากนั้นใส่ส่วนผสมที่อุ่นไว้ลงไปทีละครึ่ง และคนตลอดเวลา 
  6. นำส่วนผสมในขั้นตอนที่ 5 ลงไปต้มในหม้ออีกครั้ง คนให้เข้ากันจนร้อน และเนื้อสัมผัสมีความข้นเหนียว เสร็จแล้วนำออกจากเตา ใส่สารแต่งกลิ่นวานิลลาลงไปคนให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะคลุมด้วยฟิล์มห่ออาหาร แช่ไว้ในตู้เย็นจนเย็นสนิท
  7. ทำช็อกโกแลตเคลือบ โดยเริ่มจากการหั่นช็อกโกแลตเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วอุ่นเฮฟวี่ครีมด้วยไฟอ่อน เสร็จแล้วยกออกจากเตา ใส่ช็อกโกแลตลงไปคนให้เข้ากันจนเนื้อเนียน พักไว้ให้เย็นแล้วคนด้วยไม้พายเป็นครั้งคราว
  8. สุดท้ายจะเป็นขั้นตอนการประกอบขนม โดยใส่เพรสตี้ครีมที่เตรียมไว้ลงไปในถุงบีบปลายแหลม เจาะรูที่ตัวขนมด้วยมีด แล้วบีบเพรสตี้ครีมสอดไส้เข้าไปจนครบทุกชิ้น จากนั้นนำช็อกโกแลตมาเกลี่ยเคลือบให้ทั่ว นำไปแช่เย็นก่อนรับประทาน