Categories
ขนมไทย

แชร์สูตร ขนม โตเกียว ขนมไทย แป้งนุ่ม ไส้ทะลัก หอมกลมกล่อม

ขนม โตเกียว

ขนม โตเกียว เป็นขนมที่คาดว่าดัดแปลงมาจากขนมยอดนิยมของญี่ปุ่นอย่าง โดรายากิ ที่ทำมาจากแป้งแพนเค้กมีลักษณะเป็นแป้งนิ่มนุ่มทานง่าย สำหรับขนมโตเกียวที่วางขายในท้องตลาดจะมีไส้คัสตาร์ดวานิลลาที่มีรสชาติหวานหอมกลิ่นวานิลา และยังมีอีกหนึ่งไส้ที่อร่อยไม่แพ้กันคือ ไส้บิ๊กไบต์ รสชาติกลมกล่อมทานคู่กับแป้งนิ่มเข้ากันสุดๆ นอกจากนี้ขนมโตเกียวยังเป็นที่นิยมของเด็กๆ ในปัจจุบันอีกด้วย 

วิธีทำขนมแสนอร่อย ขนม โตเกียว สอดไส้หวาน เค็ม ทำง่าย ทำได้แน่นอน

ขนม โตเกียว

มาต่อกันที่ขนมแป้งนุ่มอย่างขนม โตเกียว เป็นขนมไทยโบราณที่มีลักษณะเป็นแผ่นแป้งนุ่มๆ สอดไส้หวาน และไส้เค็มแล้วม้วนเข้าหากันขนาดพอดีคำทานง่าย และอร่อยจนต้องทานเพิ่มอีกสักชิ้น เรียกได้ว่าขนมโตเกียวมีรสชาติกลมกล่อมอร่อยทานแล้วไม่เลี่ยน และที่สำคัญขนมโตเกียวยังเป็นขนมที่ขายดีสุดๆ เพราะผู้คนนิยมซื้อกลับบ้านไปฝากคนในครอบครัวหลังเลิกงานเป็นประจำ สำหรับคนไหนอยากทำขนมขายเรามีสูตร ขนม โตเกียวอย่างง่ายมาให้ได้ทำขาย เพื่อเป็นการหารายได้เสริมหลังเลิกงาน

วัตถุดิบ และส่วนผสมแป้ง

ขนม โตเกียว
  1. ไข่ไก่ 3 ฟอง
  2. เกลือ ½ ช้อนชา
  3. น้ำตาลทราย 100 กรัม
  4. แป้งเค้ก 150 กรัม
  5. ผงฟู ½ ช้อนชา
  6. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  7. น้ำมันรำข้าว 1 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสม และวัตถุดิบของไส้ครีม

ขนม โตเกียว
  1. ไข่แดง 2 ฟอง
  2. น้ำตาลทราย 60 กรัม
  3. แป้งเค้ก 15 กรัม
  4. นมสดรสจืด 400 กรัม
  5. เนยสดรสจืด 30 กรัม

วัตถุดิบ และส่วนผสมของไส้เค็ม

ขนม โตเกียว
  1. ไส้กรอก 5 ชิ้น
  2. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  3. พริกไทยป่น ½ ช้อนชา
  4. หมูสับ 20 กรัม
  5. ซอสปรุงรส ½ ช้อนชา

สำหรับแป้ง โตเกียวจะใช้แป้งเค้กยี่ห้อใดก็ได้ที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ทั่วไป ในส่วนสูตรขนมจะทำทั้งหมด 2 ไส้ คือไส้หวาน และเค็ม โดยมีขั้นตอนดังนี้

ขนม โตเกียว
  1. อันดับแรกมาเตรียมแป้งขนม โดยนำแป้งเค้ก และผงฟูมาร่อนลงไปในภาชนะที่เตรียมไว้ ใส่ไข่ไก่ น้ำตาล เกลือ และกลิ่นวานิลลา ใส่น้ำเปล่า คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน พักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
  2. ต่อมาจะเป็นการทำไส้ขนมหวาน เริ่มจากนำไข่ไก่ น้ำตาล เกลือ ใส่ลงไปในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นผสมให้เข้ากัน พักไว้ก่อน หลังนั้นมาเตรียมแป้งเค้ก และแป้งข้าวโพดลงไปผสมต่อให้เข้ากัน ใส่นม และกลิ่นวานิลลา ไปตั้งไฟ พอให้นมเดือดแล้วปิดเตา เสร็จแล้วนำไปเทใส่ในส่วนผสมที่เป็นไข่คนทั้งหมดให้เข้ากัน นำมากรอง 1 รอบในหม้อต้ม แล้วนำมาไปตั้งเตา ใช้ไฟอ่อนๆ ใส่เนย คนให้เข้ากันจนแป้งหนืด ปิดเตาได้เลย 
  3. ทำการเตรียมไส้เค็ม นำไส้กรอก และหมูสับมาลวกให้สุก จากนั้นมาเริ่มทำขนมกันเลย เริ่มจากนำแป้งที่พักไว้มาใส่น้ำมันพืช คนส่วนผสมให้เข้ากัน ตั้งกระทะทาเนย ตักแป้งละเลงแป้งให้เป็นวงกลม ใส่ไส้ที่เตรียมไว้ม้วนเข้าหากัน จัดจานพร้อมทาน
ขนม โตเกียว

จบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับขนมโตเกียว ไส้ หวาน และไส้เค็ม รสชาติอร่อยถูกใจ ตามสูตร แป้ง โตเกียวนื้อนิ่มที่มีกลิ่นหอมของวานิลลาละมุนลิ้นพร้อมทำขายได้เลย รับรองว่าขายหมดภายใน 1 ชั่วโมงแน่นอน หรือจะทำเก็บไว้ให้คนในครอบครัวทานได้อร่อยฟินทุกคำ 

ขอเสนอ ขนม โตเกียวยักษ์ ไส้ล้น รสอร่อย ขนมยอดฮิตติดเทรนด์

ขนม โตเกียว

ขนมโตเกียว เป็นขนมวัยเด็กที่ชอบทานทุกวัน เพราะรสชาติอร่อย โดยเฉพาะโตเกียว ไส้ เค็มที่เป็นสูตรออริจินอล นอกจากนี้ขนมยังมีราคาถูกมากหาซื้อได้ตามหน้าโรงเรียน และตลาดนัดแถวบ้าน แต่ปัจจุบันขนมโตเกียวมีการพัฒนาสูตร และวิธี ทำ ขนม โตเกียวให้มีความน่าทานมากขึ้นอย่างขนมโตเกียวยักษ์ที่อัดแน่นไปด้วยไส้รวมมิตรอย่าง หมูสับ ไข่นกกระทา ไส้กรอก และยังมีไส้หวาน อาทิ ฝอยทอง ครีมคัตตาร์ดที่หวานหอมอร่อยโดนใจ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

ขนมหวานยอดนิยม มะพร้าวแก้ว หลากหลายสีสัน หวานกรุบกรอบ

มะพร้าวแก้ว

มะพร้าวทึนทึกไม่เพียงแค่นำมาทำเป็นน้ำกะทิได้เท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาทำขนม มะพร้าวแก้ว หลากหลายสีสันสวยงาม แถมรสชาติหวาน เนื้อมะพร้าวกรุบกรอบทานได้อร่อยไม่มีเบื่อ นอกจากนี้การทำ มะพร้าวแก้วยังช่วยลดปริมาณมะพร้าวล้นตลาดได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังสามารถทำขายได้กำไรเพิ่มมากขึ้นกว่าการขายเพียงแค่ลูกมะพร้าวอีกด้วย สำหรับขนมมะพร้าวแก้วสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าขายขนมไทยทั่วไป หรือตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงงานจัดแสดงสินค้าโอท็อป เป็นต้น

ขั้นตอนการทำขนมไทยโบราณ มะพร้าวแก้ว สีสันสดใส รสชาติอร่อย ถูกใจ 

มะพร้าวแก้ว

วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำการถนอมอาหารกันกับเมนูขนมหวานแสนอร่อยอย่าง มะพร้าว แก้ว ขนมโอท็อปที่มีเนื้อหวานกรุบกรอบทานคู่กับอะไรก็อร่อย โดยเฉพาะชาเขียวร้อนๆ จะช่วยตัดความหวานขนมได้อย่างลงตัว สำหรับวิธี ทำ มะพร้าวแก้วก็ไม่ยาก เพียงแค่มีมะพร้าวทึนทึกสักลูกก็สามารถทำได้แล้ว นอกจากนี้ยังสามารถทำได้หลากหลายสีสันอีกด้วย สำหรับใครที่ยังไม่เคยทำขนมมาก่อนก็สามารถทำเมนูนี้ได้ง่ายๆ ใช้เวลาทำเพียงน้อยนิด 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

มะพร้าวแก้ว
  1. เนื้อมะพร้าวทึนทึกขูดเส้น 400 กรัม
  2. น้ำเปล่า 100 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 240 กรัม
  4. กลิ่นมะลิ 1 ช้อนชา
  5. น้ำกระเจี๊ยบเข้มข้น ½ ถ้วยตวง
  6. นำอัญชัญ ½ ถ้วยตวง
  7. น้ำใบเตย ½ ถ้วยตวง
  8. เกลือ ½ ช้อนชา

การแปรรูปขนมมะพร้าวทึนทึกสามารถทำได้ง่ายๆ สำหรับสูตรที่เราจะทำนั้นเป็นสูตรมะพร้าวหลากสีสัน โดยจะใช้สีผสมที่ได้จากธรรมชาติ ในลำดับต่อมาจะเป็นวิธี ทำ มะพร้าวแก้ว แบบ เส้นกรุบกรอบดังนี้

มะพร้าวแก้ว
  1. นำกระทะมาตั้งเตา ใส่น้ำตาลทราย น้ำเปล่า ตามด้วยกลิ่นมะลิผสมให้เข้ากัน นำมะพร้าวทึนทึกขูดเป็นเส้นๆ ใส่ลงไปในกระทะ เปิดไฟอ่อนๆ ผัดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันจนกระทั่งน้ำตาลเริ่มงวด ปรุงรสด้วยเกลือคนให้เข้ากัน
  2. จากนั้นมะพร้าวที่ผัดเสร็จแล้วมาแบ่งใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ 3 ส่วน จากนั้นใส่น้ำอัญชัญ น้ำใบเตย และน้ำกระเจี๊ยบลงไปผัดจนในแต่ละส่วนที่แบ่งไว้กระทั่งสีกระจายเข้ากันเส้นมะพร้าว เสร็จแล้วผัดให้เข้ากันอีกรอบ
  3. นำมะพร้าวที่ผสมสีเรียบร้อยมาเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 20 นาที หรือจนกว่าเส้นมะพร้าวจะแห้งดี จากนั้นนำเอาขนมออกจากเตาอบ พักไว้ให้เย็น จัดใส่จานให้สวยงามพร้อมเสิร์ฟได้เลย 
มะพร้าวแก้ว

การ ทำ มะพร้าวแก้วทานเองที่บ้านไม่ยากอย่างคิด แถมยังได้ทานขนมสดใหม่หอมกรุ่นๆ จากเตา ที่มาพร้อมรสชาติหวาน กรุบกรอบกำลังดี และมีให้เลือกทานได้หลากสีอีกด้วย ในส่วนของขนมที่ทานไม่หมดสามารถเก็บใส่ภาชนะจำพวกกล่องที่มีฝาปิดสนิทจะช่วยให้เก็บไว้ได้นานมากขึ้น หรือบ้านไหนมีถุงพลาสติกสามารถบรรจุใส่ในถุงพลาสติกเก็บไว้ได้เหมือนกัน 

เทคนิคลับทำขนมแปรรูปมะพร้าวแก้ว ให้อร่อย ไม่แข็ง และไม่เหนียว 

มะพร้าวแก้ว

มะพร้าวแก้วมีหลากหลายสูตร อาทิ สูตรมะพร้าวแก้วแบบเส้น และแผ่นนิ่มๆ หนึบหนับ หอมละมุน รสชาติหวานมัน และหากใส่สีผสมลงไปในเนื้อมะพร้าวยิ่งทำให้ขนมมีความน่าสนใจ และทำให้รู้สึกถึงความอร่อยมากยิ่งขึ้น สำหรับการทำขนมมะพร้าวแก้วเองที่บ้านตามวิธี ทำ มะพร้าวแก้ว สูตร โบราณ เนื้อมะพร้าวนิ่มกรุบกรอบจะต้องระวังในขั้นตอนการผัดมะพร้าวไม่ให้ไหม้ และต้องหมั่นคนสม่ำเสมอจนกว่าน้ำเชื่อมจะงวดแล้วค่อยยกกระทะออกมาพักไว้ นอกจากนี้หลังจากที่คลุกเคล้าเสร็จเรียบร้อยแล้วให้นำขนมมาตากลม หรือเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียสจะทำให้น้ำตาลคลายความชื้น และเนื้อมะพร้าวแห้งเร็วขึ้น 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

เมนูขนมสุดคลาสสิก กล้วย ฉาบ กล้วยกรอบ หวาน มัน เค็ม จัดเต็มครบรส

กล้วย ฉาบ

กล้วยน้ำว้าขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ประจำบ้านที่หลายๆ คนชอบทานเป็นประจำ เพราะนอกจากรสชาติจะอร่อยแล้วยังมีประโยชน์ต่อร่างกายเช่นกัน และที่สำคัญกล้วยยังสามารถนำมาแปรรูปทำขนมได้หลากหลายชนิด อย่าง กล้วย ฉาบ ถือว่าเป็นเมนูขนมไทย โบราณยอดนิยม และยังเป็นขนม ไทย ทำ ง่ายๆ ที่มีขั้นตอนไม่ซับช้อน ปัจจุบันขนมกล้วยฉาบถูกยกให้เป็นสินค้าโอท็อปที่นักท่องเที่ยวทั้งคนไทย และคนต่างชาตินิยมซื้อเป็นของฝากให้กับเพื่อนๆ หรือญาติผู้ใหญ่อีกด้วย

วิธีทำ กล้วย ฉาบ สูตรโบราณ กรอบอร่อย ทำทานได้ทั้งบ้าน

กล้วย ฉาบ

หากบ้านไหนที่ปลูกกล้วยไว้เยอะทานไม่ทันจนกล้วยจะเน่าก่อนก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะเราจะพามาแปรรูปขนมกล้วยๆ ให้มีความแปลกใหม่ ไม่จำเจ นั่นก็คือ กล้วยฉาบ ขนมกล้วยแผ่นบาง เคลือบด้วยน้ำเชื่อมหวานๆ กรอบอร่อยเคี้ยวเพลินกำลังดี ในส่วนวิธีทำก็ไม่ยากสามารถทำได้สะดวกสบาย นอกจากนี้เรายังมีวิธี ทํา กล้วยฉาบ ให้ กรอบ นาน และสามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่ทำให้เหม็นหืน และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลานานเกินเรามาเตรียมวัตถุดิบในการทำขนม ไทย ง่ายๆ กันเลย

กล้วย ฉาบ
  1. กล้วยน้ำว้าห่าม 2 หวี
  2. เกลือ 1 ช้อนชา
  3. น้ำตาลทราย 500 กรัม
  4. มะนาว 1 ลูก
  5. น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง

ในส่วนของวัตถุดิบที่เป็นกล้วยน้ำว้าจะต้องใช้กล้วยห่ามๆ และจะไม่ใช้กล้วยสุกเพราะจะทำให้กล้วยเละไม่เป็นแผ่น แถมไม่อร่อยอีกด้วย สำหรับสูตรกล้วยฉาบที่จะทำนั้นเป็นสูตรใส่น้ำตาล ถ้าบ้านไหนไม่ชอบใส่น้ำตาลก็สามารถตัดวัตถุดิบที่เป็นน้ำตาลออกได้เลย ในส่วนวิธี ทำ กล้วย ฉาบง่ายๆ มีดังต่อไปนี้

กล้วย ฉาบ
  1. มาเริ่มที่ขั้นตอนแรกกันเลย โดยนำกล้วยมาปอกเปลือกนำไปแช่น้ำมะนาวที่เตรียมไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้กล้วยเปลี่ยนเป็นสีดำ ต่อมานำกล้วยมาฝานเป็นแผ่นบางๆ ตามแนวยาวของผลกล้วย จากนั้นเรียงแผ่นกล้วยในถาดที่เตรียมไว้ เสร็จแล้วนำถาดไปตากแดดประมาณ 30 นาที เพื่อไม่ให้กล้วยติดกันเวลาทอดนั่นเอง
  2. นำกระทะมาตั้งเตาใส่น้ำมันพืชลงไป เปิดไฟ รอให้น้ำมันร้อน จากนั้นใส่กล้วยที่ตากไว้ลงไป ทอดให้กล้วยเหลืองกรอบ เสร็จแล้วให้ตักกล้วยขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน 
  3. ต่อมาจะเป็นการทำน้ำเชื่อมโดยนำหม้อมาตั้งเตา ใส่น้ำเปล่า เกลือ และน้ำตาลทราย เคี่ยวให้ละลายเป็นผลึกเล็กน้อย เสร็จแล้วนำไปราดกับน้ำแผ่นที่ทอดไว้เรียบร้อยแล้ว จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้ให้น้ำตาลเย็นลงก็สามารถทำมารับประทานได้เลย 
กล้วย ฉาบ

สำหรับการนำกล้วย แปรรูปเป็นขนมกล้วยฉาบจะมีข้อดีคือสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับกล้วยมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นขนมที่มีรสชาติหวาน กรอบอร่อยกำลังดีสามารถทานได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่อีกด้วย ดังนั้นถ้าต้องการทำขนมทานเล่นๆ ที่บ้านก็สามารถทำตามวิธี ทํา กล้วย ฉาบ ให้ กรอบ อร่อย กรอบนานตามสูตรที่เรานำมาแจกได้เลย รับรองว่าคนทั้งบ้านต้องติดอกติดใจจนบอกให้ทำขายอย่างแน่นอน

ขนมกล้วย ฉาบ ขนมโบราณ ทำง่าย แถมมีประโยชน์ต่อร่างกาย 

กล้วย ฉาบ

กล้วยฉาบ หนึ่งในขนมไทย ทำเองได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากที่สามารถทำขายสร้างรายได้อย่างงาม และการทำขนมกล้วยฉาบยังเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยามว่างที่สามารถทำช่วยกันสร้างความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี เท่านั้นยังไม่พอขนมกล้วยฉาบไม่ใส่น้ำตาลยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะกล้วยมีปริมาณเส้นใย และกากอาหารที่มีส่วนช่วยแก้ปัญหาโรคท้องผูก แถมมีสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ และยังป้องกันมะเร็ง พร้อมทั้งป้องกันโรคกระเพาะ นอกจากนี้กล้วยยังอุดมไปด้วยธาตุเหล็กช่วยลดโรคโลหิตจางได้ด้วย 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

สูตร ขนม เข่ง ขนมตรุษจีน เนื้อเหนียวหนึบหนับ เมนูเพื่อสุขภาพ

ขนม เข่ง

สำหรับใครที่กำลังหาขนมมงคลทานในช่วงนี้ แนะนำ ขนม เข่ง เมนูขนม ไหว้เจ้า ตรุษจีนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และที่สำคัญยังเป็นขนมที่สามารถหาทานได้ตามตลาดเยาวราช หรือตลาดนัดย่านที่มีคนไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่ทั่วไป ในส่วนรสชาติของขนมชนิดนี้ไม่ค่อยหวานมากนัก จึงจัดว่าเป็นเมนูเพื่อสุขภาพที่สามารถทานแทนข้าวได้เลย อีกทั้งยังเป็นขนมเจที่ทำทานได้เองที่บ้าน โดยไม่จำเป็นต้องออกมาหาซื้อทานให้เสียเวลา แถมสูตร และวิธีการทำก็ง่ายๆ ไม่ซับช้อน 

รวมวิธีทำ ขนม เข่ง สูตรดั้งเดิม แป้งเหนียวนิ่ม ทำเองได้ที่บ้าน 

ขนม เข่ง

ขนมมงคลของคนจีนมีหลากหลายชนิด แต่จะมีหนึ่งเมนูที่คนจีนเชื่อว่าหากได้ทานแล้วจะมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตนั่นก็คือ ขนมเข่ง เป็นขนมที่มีรสชาติหวานเล็กน้อย และมีเนื้อแป้งเหนียวนุ่ม มีกลิ่นหอมของใบตองอ่อนๆ โดยขนมเข่งมีทั้ง ขนม เข่ง ทอด และนึ่งหลากหลายสีสัน ไม่ว่าจะเป็น สูตรอัญชัน ใบเตย หรือจะเป็นสูตรกะทิหอมละมุน เป็นต้น ปัจจุบันขนมเข่งค่อนข้างหาทานได้ยาก และจะมีขายแค่ในช่วงเทศกาลเท่านั้น ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำขนมเข่งทานเอง โดยสูตรที่ใช้ทำนั้นเป็นสูตดั้งเดิมแป้งนุ่ม หอมอร่อยกลมกล่อม

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

ขนม เข่ง
  1. แป้งข้าวเหนียว 400 กรัม
  2. น้ำเปล่า 300 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 300 กรัม
  4. สีผสมอาหารสีแดง 1 ขวด
  5. น้ำมันพืช ½ ถ้วยตวง

สำหรับขั้นตอน และวิธี ทำ ขนม เข่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือใบตองสีเขียวธรรมชาติที่ไม่แก่ และไม่อ่อนเกินไป โดยก่อนที่จะนำใบตองมาทำขนมจะต้องเช็คสิ่งสกปรกออกให้เรียบเรียบก่อน และนำไปตากให้แห้ง จากนั้นตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดพอดีสำหรับทำกระทงใส่ขนม 1 ชิ้น

ขนม เข่ง
  1. นำแป้งข้าวเหนียว และน้ำตาลทรายมาเทลงในภาชนะที่เตรียมไว้จากนั้นผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน นำน้ำเปล่ามาเทใส่แป้งทีละนิดแล้วคลุกเค้าไปเรื่อยๆ จนแป้งจับตัวเป็นก้อนและเหนียวจนสามารถปั้นได้ 
  2. นำกระทงใบตองแห้งมาทาด้วยน้ำมันพืช จัดกระทงใส่ในหม้อนึ่งทำการหยดแป้งที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในกระทง โดยจะต้องเหลือขอบด้านบนไว้ประมาณ 1 เซนติเมตร เมื่อขนมสุกแล้วเนื้อแป้งจะฟูขี้นเต็มกระทงพอดี
  3. นำหม้อนึ่งมาตั้งเตาใส่น้ำลงไปต้มให้เดือดโดยใช้ไฟแรง รอให้น้ำเดือด จากนั้นใส่ขนมที่จัดเรียงไว้ขึ้นตั้งหม้อนึ้ง ลดไฟปานกลาง ปิดฝาให้เรียบร้อย ใช้เวลาประมาณ 25-30 นาที หลังจากที่ขนมสุกเรียบร้อยแล้วให้นำขนมออกมาพักไว้ให้เย็น นำสีผสมอาหารสีแดงมาแต่งแต้มหน้าขนม ถือว่าเสร็จเรียบร้อย จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้

ขนมเข่งที่ทำเองนั้นเป็นสูตร ขนม เข่งรสชาติดั้งเดิมที่สามารถทำไหว้เจ้าได้ด้วย และที่สำคัญรสชาติหวานหอม เนื้อนุ่มเหนียวหนุบหนึบชวนทานสุดๆ ส่วนใครที่ไม่ชอบขนมรสชาติหวานเกินไปสามารถลดปริมาณน้ำตาลลงได้ตามใจชอบ และหากทำขนมเยอะเกินไปสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 3-4 วัน แล้วจะนำมาทอด หรือนึ่งอีกรอบก็อร่อยเหมือนเดิม

แจกสูตรขนม เข่ง ใบเตย แปะก๊วย แป้งนุ่ม หอมกลิ่นใบเตย

ขนม เข่ง

ขนม เข่งนอกจากสูตรดั้งเดิมที่รสชาติอร่อยมากๆ แล้วยังมีอีกหนึ่งสูตรที่อร่อยไม่แพ้กันอย่าง ขนมเข่งใบเตย ใส่แปะก๊วย เนื้อแป้งสีเขียวธรรมชาติ หอมกลิ่นใบเตยอ่อนๆ หวานกำลังดี ส่วนสูตร ทำ ขนม เข่งใบเตยก็ทำง่ายนิดเดียว เพียงแค่ใช้ส่วนผสม และวิธีการทำตามสูตรดั้งเดิม แต่จะเปลี่ยนจากน้ำเปล่าเป็นน้ำใบเตยผสมกับแป้ง และใส่มะพร้าวขูดเล็กน้อย ตักใส่กระทงใส่แป๊ะก๊วยนำไปนึ่งให้สุกจะได้ขนมเข่งที่มีกลิ่นหอมอบอวลชวนทาน พร้อมทำออกขายหารายได้เสริมปังสุดๆ 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

สูตร ข้าวเหนียวสังขยา ขนมโบราณ รสชาติหวานเข้มข้น หอมละมุน

ข้าวเหนียวสังขยา

สำหรับใครที่ยังต้องการขนมหวานทานคลายเครียดในวันที่เร่งรีบอย่างนี้ ต้องไม่พลาด เพราะเรามีขนมหวานๆ มาให้ลองหาชิมกันนั่นก็คือ ข้าวเหนียวสังขยา เป็นขนม หวาน ไทยที่มีรสชาติหวาน มัน หอมกลิ่นกะทิละมุน ที่มาพร้อมกับความหวานหอมของไส้สังขยาที่อร่อยมากๆ และเข้ากันกับข้าวเหนียวมูนได้เป็นอย่างดี สำหรับขนมข้าวเหนียวมูนหน้าสังขยาสามารถหาทานได้ง่าย และยังมีวิธีการทำที่ง่ายมากๆ หากใครไม่อยากซื้อทานสามารถทำทานได้เอง แถมเป็นการประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย ว่าแต่วิธีทำขนมจะง่ายขนาดไหนไปดูกันเลย

ขั้นตอนการทำ ข้าวเหนียวสังขยา ข้าวนุ่มนิ่ม หอมอร่อย ทำง่าย ไม่ยุ่งยาก 

ข้าวเหนียวสังขยา

วันนี้เรามีเมนูขนมหวานไทยๆ มาแนะนำให้ลองทำตามกัน เชื่อว่าทุกคนต้องทำได้ และรสชาติอร่อยแน่นอน สำหรับข้าวเหนียวสังขยา ขนมที่มีส่วนประกอบหลักเป็นข้าวเหนียวมูนรสชาติมัน เค็ม หอมกลิ่นกะทิอ่อนๆ และเพิ่มความอร่อยด้วยหน้าสังขยาที่มีรสชาติหวานหอมกลิ่นไข่ เมื่อทานคู่กับข้าวเหนียวมูนทำให้รสชาติอร่อยฟินทุกคำ และในส่วนของวิธีทำ และสูตรข้าวเหนียวสังขยาทำง่ายมาก แถมวัตถุดิบก็ใช้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากใครเป็นมือสามารถลองทำตามได้เลย

  1. หัวกะทิ 300 กรัม
  2. ไข่เป็ด 5 ฟอง
  3. ไข่ไก่ 5 ฟอง
  4. น้ำตาลมะพร้าว 200 กรัม
  5. เกลือป่น ½ ช้อนชา
  6. ใบเตยหั่น ½ ถ้วยตวง
ข้าวเหนียวสังขยา

วัตถุดิบ และส่วนผสมของข้าวเหนียวมูน

  1. ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 500 กรัม
  2. หัวกะทิ 300 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 150 กรัม
  4. เกลือป่น ½ ช้อนชา
  5. ใบเตยหั่น ½ ถ้วยตวง
  6. สารส้ม 1 ก้อน

สำหรับการทำขนมข้าวเหนียว สังขยา ในส่วนวัตถุดิบจะเป็นของข้าวเหนียวสังขยาไข่ เป็นสูตรขนม ไทย ทำ ง่ายๆ  โดยจะแบ่งขั้นตอนออกเป็นสองส่วน คือส่วนที่เป็นหน้าสังขยา และส่วนที่เป็นข้าวเหนียวมูน ซึ่งมีวิธีทำขนมมีดังต่อไปนี้

ข้าวเหนียวสังขยา
  1. มาเริ่มกันที่นำข้าวเหนียวมาล้างด้วยน้ำสะอาดผสมสารส้มจะช่วยให้เมล็ดข้าวเงางามขึ้น จากนั้นล้างข้าวเหนียวให้สะอาด แช่ข้าวทิ้งไว้ประมาณ 4 ชั่วโมง ทำการหุงข้าวด้วยการใส่น้ำลงไปในหม้อ ใส่ใบเตย เพื่อเพิ่มความหอม นำผ้าขาวบางมารองด้านล่าง จากนั้นใส่ข้าวแล้วนึ่งให้สุก 
  2. เมื่อข้าวเหนียวสุกแล้วให้ใส่นำมาทำข้าวเหนียวมูน ด้วยการนำหัวกะทิมาผสมกับข้าวเหนียว ใช้ไม้พายคนไปในทิศทางเดียวกัน พักไว้ 20 นาที และคนอีกครั้ง ทิ้งไว้ 20 นาที เพื่อให้น้ำกะทิซึมเข้าไปในข้าว 
  3. ต่อมาจะเป็นการทำสังขยา เริ่มจากนำไข่ไก่ และไข่เป็ดมาผสมในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นใสส่เกลือ น้ำกะทิ น้ำตาลมะพร้าว และใบเตย ใช้มือขยำให้เข้ากัน นำมานึ่งให้สุก และพักไว้ให้เย็น
  4. ตักข้าวเหนียวมูนใส่ในใบตอง จากนั้นนำใส่สังขยาเป็นหน้าข้าวเหนียว ทำการห่อให้สวยงาม เป็นเสร็จเรียบร้อย
ข้าวเหนียวสังขยา

จบลงไปแล้วกับเมนูขนมไทย ทำเองสูตรข้าวเหนียวมูน หน้าสังขยา รสชาติหวาน หอมกลิ่นกะทิ ทานได้ทุกวัน และยังอิ่มอร่อยอีกด้วยนะ แต่ถ้าลองทำขนมข้าวเหนียวมูนสูตรอื่นบ้าง ขอแนะนำ ข้าวเหนียวสังขยาหน้ากุ้ง หอมอร่อยชวนทานที่สุด และยังทำง่ายนิดเดียว

เปิดเทคนิคการทำ ขนมข้าวเหนียวสังขยา หวานละมุน สไตล์ทำเอง 

ข้าวเหนียวสังขยา

ข้าวเหนียว สังขยา ถือว่าเป็นขนมที่มีรสชาติอร่อย และยังเป็นขนมที่มีหลากหลายสูตร และแต่ละสูตรมีความอร่อยแตกต่างกันไป โดยข้าวเหนียวสังขยาหน้าต่างๆ ที่ได้รับความนิยม อาทิ หน้ากุ้ง หน้ามะพร้าว และหน้าปลาแห้ง แต่ที่นิยมทานมากที่สุดจะเป็นหน้าสังยาไข่ที่มีความนุ่ม และหวานมัน สำหรับเทคนิคการทำขนมสังขยาขนม ไทย ง่ายๆ ให้น่าทาน ในขั้นตอนการนึ่งสังขยาต้องใช้ไฟอ่อนๆ และค่อยๆ นึ่งไปเรื่อยๆ และต้องไม่ให้น้ำหยดลงขนมจะช่วยให้หน้าขนมเรียบเนียนชวนทาน นอกจากนี้การเตรียมข้าวเหนียวมูนถ้าอยากให้ข้าวเม็ดเงางามสามารถใช้สารส้มล้างข้าวให้เงางามได้ รับรองหากทำตามเทคนิคที่กล่าวมานั้นจะต้องทำขนมออกมาได้น่าทานแน่นอน 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: ufaball.bet

Categories
ขนมไทย

นำเสนอสูตร ขนมมันสําปะหลัง เนื้อนุ่มหนึบหนับ หวานมันอร่อย

ขนมมันสําปะหลัง

เชื่อว่าหลายคนยังไม่ทราบว่ามันสำปะหลังสามารถนำมารับประทานได้ด้วย ซึ่งคนในสมัยก่อนจะนำมาทำขนมทานกันครอบครัว เพราะมันสำปะหลังเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ตามบ้านเรือน แต่มันสำปะหลังที่นำมารับประทานต้องเป็นสายพันธุ์ห้านาทีเท่านั้น โดยลักษณะของมันชนิดนี้จะมีหัวขนาดใหญ่ เนื้อแป้งเรียบเนียน โดยมักจะนิยมนำมาทำ ขนมมันสําปะหลัง เนื้อนุ่มหนึบหนับ ผสมผสานกับความหวานละมุน และมะพร้าวขูดได้อย่างลงตัว แถมยังเป็นขนมไทย โบราณที่ทานแล้วไม่อ้วน และอิ่มท้องนานทานได้ทั้งวันไม่เบื่อ แต่อย่างไรก็ตามขนมชนิดนี้ค่อนข้างหาทานได้ยาก เพราะมีขายเฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น สำหรับใครอยากทานขนมแสนอร่อยนี้ เรามีสูตรขนม หวาน ไทย อย่างมันสัมปะหลัง เนื้อนุ่ม หวานกลมกล่อมมาให้ได้ทำทานด้วยตัวเอง รับรองว่าทำได้อร่อยโดนใจแน่นอน

วิธีทำ ขนมมันสําปะหลัง มะพร้าวขูด เนื้อหวานละมุน อร่อยกลมกล่อม

ขนมมันสําปะหลัง

หากไม่รู้จะทำขนมอะไรทานดีในช่วงวันว่างๆ ขอเสนอขนมมันสําปะหลัง หนึ่งในขนม ไทย ทำ ง่ายๆ รสชาติหวานน้อย แต่อร่อยกลมกล่อม ทานแล้วไม่อ้วน เพราะเป็นขนมไทย ไร้แป้ง เนื้อนุ่ม หนึบหนับ ทานได้ไม่มีเบื่อ สำหรับสูตรขนมที่จะพาลองทำนั้นเป็นสูตรขนมมันสำปะหลังคลุกมะพร้าวขูดแสนอร่อยสามารถทำได้เอง โดยไม่ต้องตะเวนหาซื้อทานให้เสียเวลา อีกทั้งขนมชนิดนี้ยังหาทานได้ยากอีกด้วย

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

  1. มันสำปะหลังพันธุ์ห้านาที 2 กิโลกรัม
  2. น้ำตาลทรายขาว 700 กรัม
  3. มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 1 ถ้วยตวง
  4. เกลือป่น 1 ช้อนชา

สำหรับมันสัมปะหลังที่นำมาทำขนมจะต้องเลือกหัวที่ไม่แก่เกินไป เพราะถ้าใช้หัวมันแก่จะมีเสี้ยนเยอะ ทำให้ขนมมันสัมปะหลังเนื้อไม่เรียบเนียน และไม่อร่อย เมื่อได้ส่วนผสมทั้งหมดแล้วเรามาลงมือทำขนมไทย ทำเองแสนอร่อยกันเลย

ขนมมันสําปะหลัง
  1. นำหม้อมาตั้งเตา ใส่น้ำ จากนั้นใส่ใบเตยลง ต้มไปเรื่อยๆ จนกว่าน้ำจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว และมีกลิ่นหอม ปิดไฟ พักวไว้ก่อน
  2. ต่อมานำมันสำปะหลังมาปลอกเปลือก คว้านไส้แข็งๆ ออก นำไปล้างน้ำ 2-3 รอบ จนกว่าน้ำจะใส และไม่ขุ่น จากนั้นนำมาขูดเป็นฝอยๆ ใส่ลงไปในชาม ตามด้วยน้ำตาลทราย ใส่น้ำต้มใบเตยใช้มือนวดไปเรื่อยๆ จนกว่าน้ำตาลทรายจะละลายดี และได้มันที่มีเนื้อเนียน ตักมันใส่ถาดเกลี่ยให้หน้าเรียบเนียน นำไปนึ่งให้สุกประมาณ 30 นาที หลังจากที่นึ่งมันสุกแล้ว ยกออกจากถากหม้อนึ่ง พักไว้ให้ขนมเย็นลง 
  3. นำมะพร้าวขูดทึนทึกที่เตรียมไว้มานึ่งให้สุกประมาณ 5 นาที ใส่เกลือป่นคลุกเคล้าให้เข้ากัน หลังจากนั้นใช้มีดตัดเป็นชิ้นๆ นำมะพร้าวขูดมาคลุกเคล้ากับขนมให้เข้ากัน จากนั้นตักใส่จาน โรยด้วยมะพร้าวขูดเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ขนมมันสําปะหลัง

สำหรับขนมมันสำปะหลังไร้แป้งที่ทำเองนั้นจะมีเนื้อมันที่นุ่มๆ หวานอร่อยกำลังดี และยังได้กลิ่นมะพร้าวนึ่งเสร็จใหม่ๆ หอมกรุ่นเข้ากันกับขนมเป็นอย่างดี และหากได้ทานคู่กับน้ำชายิ่งเพิ่มความอร่อยมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นขนมหวานที่อร่อย แถมวิธีทำก็ง่ายนิดเดียว เหมาะสำหรับทำทานกันในครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง

สูตร (ไม่) ลับ ขนม มันสําปะหลัง เนื้อนุ่มนิ่ม หวานอร่อยกำลังดี

ขนมมันสําปะหลัง

ขนมมันสําปะหลังเป็นสูตร ขนม ไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และยังสามารถทำทานได้เอง โดยไม่ต้องซื้อทาน ซึ่งวิธีทำมันสำปะหลังขนม ไทย ง่ายๆ ให้อร่อยนั้นจะต้องไม่ใส่แป้งทุกชนิด เพราะหากใส่แป้งจะทำให้ขนมมีเนื้อแข็ง เหนียวเคี้ยวไม่ได้ แต่ควรใช้เนื้อมันสำปะหลังขูดฝอยๆ แล้วนำมาคลุกเคล้ากับน้ำตาลจะทำให้เนื้อขนมนุ่มนิ่ม หนึบหนับ นอกจากนี้ควรเลือกใช้มะพร้าวทึนทึกที่ขูดแล้วมีสีขาว เนื้อแน่น ทานแล้วกรุบกรอบ แต่ไม่ควรใช้มะพร้าวอ่อน เพราะไม่เหมาะกับการนำมาทำขนมมันสำปะหลัง และที่สำคัญรสชาติขนมไม่อร่อยอีกด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

Categories
ขนมไทย

แชร์สูตรขนม เต้าส่วน ข้าวโพด แป้งเหนียวหนืด ข้าวโพดกรุบกรอบ

เต้าส่วน ข้าวโพด

มาเอาใจคนที่ชอบทานข้าวโพดกันบ้าง กับเมนูขนมหวานยอดฮิตอย่าง เต้าส่วน ข้าวโพด ใส่มะพร้าวอ่อน รสชาติหอม มัน หวาน เค็ม ผสมผสานกับแป้งเหนียวเข้มข้น ซึ่งมีหลายคนอาจจะสังสัยว่าขนมเต้าส่วนใช้แป้งอะไร ทำให้ขนม โบราณเหนียวหนืด ขอแนะนำแป้งท้าวยายม่อม เป็นแป้งที่ใช้ในการทำขนมเต้าส่วน แป้งเหนียวใส เข้ากันกับน้ำกะทิได้เป็นอย่างดี โดยในสมัยก่อนคนจะนิยมทำขนมเต้าส่วนข้าวโพดข้าวเหนียว เพราะเป็นขนม หวาน ไทยทำง่าย และรสชาติอร่อย ข้าวโพดเหนียวหนึบหนับ หอมอร่อย ทานแล้วรู้สึกฟินอิ่มท้องอีกด้วย 

ขั้นตอนการทำ เต้าส่วน ข้าวโพด ขนมหวานแสนอร่อย ทำง่ายนิดเดียว

เต้าส่วน ข้าวโพด

สำหรับบ้านไหนที่ซื้อข้าวโพดมาเยอะเกินไปแล้วทานไม่หมด ไม่รู้ทำจะขนมหวานเมนูอะไรที่ทำง่ายๆ ขั้นตอนไม่ซับซ้อน ขอแนะนำ เต้าส่วนข้าวโพดใส่มะพร้าวอ่อน เป็นขนม ไทย ทำ ง่ายๆ เพียงแค่มีแป้งท้าวยายม่อม น้ำตาลทราย น้ำกะทิ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ข้าวโพด ผสมรวมกันจะได้รสชาติที่หวานอร่อย เค็มเล็กน้อย แถมยังมีกลิ่นหอมจากกะทิทานแล้วฟินอร่อยทุกคำ ในส่วนของวิธีการทำก็ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด อีกทั้งวัตถุดิบ และส่วนผสมที่ใช้ในการทำขนมก็มีเพียงน้อยนิดอีกด้วย

เต้าส่วน ข้าวโพด
  1. แป้งมันสำปะหลัง 5 ช้อนโต๊ะ
  2. แป้งท้าวยายม่อม 4 ช้อนโต๊ะ
  3. ข้าวโพดหวาน 2 ฝัก
  4. กะทิ 300 กรัม
  5. เนื้อมะพร้าวอ่อน 1 ถ้วยตวง
  6. เกลือ 1 ช้อนชา
  7. น้ำตาลทราย 90 กรัม
  8. ใบเตย 7 ใบ

สำหรับการทำขนมเต้าส่วนขนมไทย ทำเองจะใช้ส่วนผสมที่ไม่เยอะมาก และสามารถหาได้ตามร้านขายของชำใกล้บ้าน หรือตลาดนัดทั่วไป ซึ่งหากใครอยากลองใช้ข้าวโพดข้าวเหนียว ข้าวโพดหวานสีม่วงก็ได้ตามใจชอบ แต่สำหรับสูตรที่นำมาแชร์เป็นสูตรเต้าส่วนโบราณ ใส่ข้าวโพด ซึ่งมีวิธีทำ เต้าส่วนข้าวโพดหวานใส่มะพร้าวอ่อนดังนี้

เต้าส่วน ข้าวโพด
  1. นำข้าวโพดหวานดิบไปต้มให้สุก จากนั้นนำข้าวโพดไปฝานแล้วยีให้ข้าวโพดแตกออกจากกัน จากนั้นพักไว้ก่อน จากนั้นมาเตรียมแป้งมัน และแป้งท้าวยายม่อมมาใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ เสร็จแล้วใส่น้ำเปล่าที่เตรียมไว้ลงไปผสมให้เข้ากัน นำน้ำแป้งมากรองด้วยกระชอน เพื่อให้เอาแป้งมีเนื้อเนียนมากขึ้น 
  2. นำหม้อใส่น้ำมะพร้าวเอาไปตั้งเตา โดยใช้ไฟอ่อนๆ จากนั้นใส่น้ำตาลทราย ใบเตย คนไปเรื่อยๆ จนกว่าน้ำตาลจะละลายดี เมื่อน้ำตาลละลายหมดแล้วให้ใส่น้ำแป้งที่เตรียมไว้ก่อนหน้านั้นลงไป โดยค่อยๆ ใส่น้ำแป้งลงไป คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เคี่ยวส่วนผสมไปเรื่อยๆ จนกว่าน้ำแป้งจะข้นหนืด 
  3. ใส่ข้าวโพดหวานที่เตรียมไว้ลงไปในหม้อน้ำแป้ง คนส่วนผสมจนกว่าแป้งจะเนียนใส จากนั้นนำเนื้อมะพร้าวใส่ลงไปคนให้เข้ากัน ปิดไฟ พร้อมยกออกจากเตาได้เลย 
  4. ทำน้ำกะทิราดขนม โดยนำกะทิที่เตรียมไว้ใส่หม้อ นำไปตั้งเตา เปิดไฟอ่อนๆ ใส่เกลือ คนให้เข้ากัน รอให้น้ำกะทิเดือด ปิดไฟ ยกออกจากเตา หลังจากนั้นตักขนมใส่ถ้วย ราดด้วยน้ำกะทิเข้มข้นหอมๆ พร้อมทาน
เต้าส่วน ข้าวโพด

เป็นอันเสร็จเรียบร้อยสำหรับวิธีทำขนมเต้าส่วนใส่ข้าวโพดขนมไทย โบราณชาววังอย่างง่าย แถมรสชาติหวานอร่อยสุดๆ จนต้องทานเพิ่มอีกถ้วยเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเป็นขนมที่สามารถทำขายเป็นอาชีพเสริมในช่วงวันหยุดสร้างรายได้เพิ่มเป็นอย่างดี หรือจะทำเป็นเมนูขนมหวานในงานสำคัญต่างๆ ได้อีกด้วย 

เปิดเทคนิคการทำ เต้าส่วนข้าวโพด เนื้อแป้งเหนียวหนึบ ข้าวโพดหวานกรอบ

เต้าส่วน ข้าวโพด

สำหรับขนมเต้าส่วน ข้าวโพดใส่มะพร้าวอ่อนขึ้นชื่อว่าเป็นขนม ไทย ง่ายๆ ทำได้ง่ายนิดเดียว แถมไม่ต้องใช้อุปกรณ์การทำขนมมากมาย อีกทั้งยังเป็นสูตร ขนม ไทยที่มีส่วนผสมเพียงเล็กน้อย แต่สำหรับการทำขนมเต้าส่วนให้อร่อยจะต้องใส่น้ำมะพร้าวลงไปเพื่อเพิ่มความหอมหวานมากยิ่งขึ้น และในขั้นตอนการเคี่ยวน้ำแป้งจะต้องรอให้น้ำร้อนจัดก่อน แล้วค่อยทยอยใส่แป้ง เพื่อให้แป้งกระจายตัวได้ดี และคนแป้งไปในทิศทางเดียวกันจะทำให้เนื้อแป้งเนียนใสมากขึ้น 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

Categories
ขนมไทย

เปิดตำราชวนทำ เต้าส่วน ขนมหวานยอดฮิต หอมอร่อยย่างไทย

เต้าส่วน

ขนมหวานของไทยมีหลากหลายชนิด และแต่ละเมนู แต่ละสูตรจะมีความอร่อยที่แตกกต่างกันออกไป โดยเฉพาะขนม เต้าส่วน ขนมสุดคลาสสิกที่ได้รับความนิยมตลอดกาลที่มีรสชาติหวาน อร่อย หอมชื่นใจ อีกทั้งยังเป็นขนมไทย โบราณที่สามารถหาลองชิมได้ง่ายในปัจจุบัน โดยมีขายทั่วไปในท้องตลาด และร้านขายขนมหวานทั่วไป นอกจากขนมจะหาทานได้ง่ายแล้วในส่วนของวิธีทำก็สามารถทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก แถมทำทานเองได้ที่บ้าน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูขนม โบราณที่ใช้วัตถุดิบในการทำขนมเพียงน้อยนิดแต่รสชาติอร่อยมากเลยทีเดียว

วิธีทำขนมหวานสุดคลาสสิก เต้าส่วน น้ำแป้งใสแจ๋ว หวานมันอร่อย

เต้าส่วน

หลังจากที่ห่างหายจากการทำขนมหวานแสนอร่อยไปนานพอสมควร วันนี้เราจะมาเข้าครัวทำขนมหวานๆ ทานที่บ้าน ว่าแต่จะทำขนมอะไรที่ทำง่าย วัตถุดิบน้อยนิดเดียว แต่รสชาติอร่อยชื่นใจ คงต้องลองทำเมนูสุดคลาสสิกอย่างขนมเต้าส่วน หนึ่งในขนม ไทย ทำ ง่ายๆ มือใหม่ที่ฝึกทำขนมสามารถทำได้แน่นอน แถมสูตรเต้าส่วนถั่วเหลือง เป็นเมนูขนม หวาน ไทยโบราณที่ทำจากถั่วทอง รสชาติอร่อย หอมกลมกล่อม แต่ก่อนอื่นจะต้องเตรียมวัตถุดิบก่อนดังนี้

เต้าส่วน
  1. ถั่วเขียวซีกเลาะเปลือก 500 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 400 กรัม
  3. แป้งท้าวยายม่อม 5 ช้อนโต๊ะ
  4. กะทิกล่อง 100 กรัม
  5. แป้งข้าวเจ้าผสมน้ำกะทิ ½ ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำเปล่า 2,500 กรัม
  7. ใบเตย 5 ใบ

ในส่วนของวัตถุดิบที่เป็นถั่วเขียวซีกเลาะเปลือกควรหาซื้อที่บรรจุแบบมิดชิด ไม่มีแมลงเข้าไปเจาะกิน ซึ่งขนมถั่งทองสามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อ หรือร้านขายของชำใกล้บ้าน และสูตรขนมที่จะทำในวันนี้เป็นสูตรเต้าส่วน กะทิกล่องหอมละมุน และในส่วนของวิธีทำเต้าส่วนก็ง่ายๆ สามารถทำตามได้ดังนี้

เต้าส่วน
  1. ขั้นตอนแรกให้นำถั่วเขียวเลาะเปลือกมาล้างน้ำให้สะอาดประมาณ 2-3 รอบ หรือจนกว่าน้ำจะใสสะอาด เสร็จแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นให้เทน้ำออก แล้วนำไปพักทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ 
  2. นำหม้อมาตั้งเตา เปิดไฟแรง ใส่น้ำลงไปรอให้น้ำเดือด ทำการลดไฟลงปานกลาง นำถั่วเขียวซีกเลาะเปลือกใส่ลงไปในหม้อนึ่งให้สุก ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
  3. เตรียมส่วนผสมที่เป็นแป้ง โดยเริ่มจากนำแป้งท้าวยายม่อมลงไปในภาชนะ ตามด้วยน้ำเปล่า คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นนำหม้อขนาดใหญ่มาตั้งเตา ใส่น้ำลงไป เปิดไฟปานกลาง ใส่ใบเตยมัด น้ำตาลทราย คนส่วนผสมให้ละลาย ต้มให้เดือดอีก 3 นาที ใส่แป้งที่เตรียมไว้ลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน และคนจนกว่าน้ำเชื่อมจะใส ข้นหนืด หลังจากที่แป้งข้นหนืดดีแล้ว ให้ใส่ถั่วเขียวซีกนึ่งลงไป คนส่วนผสมรอให้น้ำเดือด และข้นหนืดดีแล้ว ให้ยกออกจากเตาได้
  4. ต่อมาจะเป็นการทำน้ำกะทิ โดยนำกะทิใส่ในหม้อ นำไปตั้งเตาใส่เกลือ รอให้น้ำกะทิเดือดแล้วค่อยใส่แป้งข้าวเจ้าลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน เมื่อได้น้ำกะทิเรียบร้อยแล้วยกออกจากเตา ตักเต้าส่วนใส่ถ้วย ราดด้วยน้ำกะทิ เป็นอันเรียบร้อย
เต้าส่วน

เชื่อว่าหลายคนที่ได้ดูวิธีทำเต้าส่วนโบราณง่ายๆ ไปแล้วต้องอยากลองทำทานเองที่บ้านแน่นอน เพราะขนมเต้าส่วนมีรสชาติ หวาน น้ำกะทิเข้มข้น แถมทำขนมครั้งเดียวสามารถทานได้ทั้งบ้านเลยทีเดียว หรือถ้าใครอยากเพิ่มความอร่อยสามารถทำเต้าส่วนทรงเครื่องใส่ปาท่องโก๋ชิ้นโตๆ รับรองอร่อยถูกใจแน่นอน 

แชร์เคล็ดลับความอร่อย ขนมเต้าส่วน ทำไม่ยาก รสชาติอร่อยกำลังดี

เต้าส่วน

การทำขนมเต้าส่วน โดยเฉพาะขนมไทย ทำเองจะต้องมีเทคนิคในการทำน้ำเชื่อมให้เหนียวข้น โดยจะต้องใส่แป้งท้าวยายม่อมเพียงชนิดเดียว หรือจะใส่แป้งท้าวยายม่อมผสมกับแป้งมันในอัตราส่วน 1:1 ต้มที่อุณหภูมิไฟอ่อนๆ ไม่ควรใช้ไฟแรง เพราะจะทำให้น้ำเชื่อมข้นเกินไป รสชาติของขนมจะไม่อร่อย เพียงเท่านี้ก็จะได้ขนมเต้าส่วนหนึ่งในขนมหวานที่มีวิธีทำ ขนม ไทย ง่ายๆ ที่มาพร้อมกับความหวาน มัน เค็ม อร่อยรบรส 

อ่านบทความอื่นๆ: 

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

Categories
ขนมไทย

เปิดสูตร ขนม ทองม้วน แป้งบางกรอบ หวาน มัน หอมกลิ่นงาดำ

ขนม ทองม้วน

ขนม ทองม้วน คือหนึ่งในขนม หวาน ไทยในอดีตที่ยังคงอยู่คู่กับคนไทยในหลายยุคหลายสมัย และยังเป็นขนมที่ได้รับความนิยมตลอดกาล โดยในปัจุจบันขนมทองม้วนได้มีการดัดแปลงสูตรไปเยอะมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะป็นสูตรฟักทอง หมูหยอง รสเค็ม รสกล้วย งาดำ รสโกโก้ รสขข้าวโพด และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีทองม้วนสดที่มีลักษณะแป้งนุ่ม รสชาติหวานอร่อย ไม่แพ้ทองม้วนกรอบเลยทีเดียว อีกทั้งขนมทองม้วนยังเป็นขนมไทย โบราณมงคลที่คนไทยมักจะนิยมมอบเป็นของขวัญในวันสำคัญต่างๆ อีกด้วย 

เปิดวิธีการทำ ขนม ทองม้วน กรอบ หวาน มัน อร่อยครบทุกรสชาติ

ขนม ทองม้วน

วันนี้จะมาเปิดตำราชวนทำขนมกรุบปรอบอย่าง ขนมทองม้วน เนื้อแป้งบางกรอบ ที่มาพร้อมกับรสชาติหวาน มัน และโดดเด่นด้วยกลิ่นงาดำ เรียกได้ว่าเป็นขนมไทยที่มีแต่ความอร่อย ที่สำคัญยังเป็นขนมที่สามารถทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะทานง่ายรสชาติอร่อยถูกปากอีด้วย นอกจากวิธีทำทองม้วน กรอบ กรอบ ก็ง่ายๆ คนทั่วไปสามารถทำทานได้เองที่บ้าน หรือจะทำขายก็ขายได้แบบไม่อั้น สำหรับใครต้องการทำขนมชนิดนี้ไว้ลองขายตามตลาดนัดใกล้บ้าน เรามีสูตร ทองม้วนกรอบ ชาววัง รสชาติอร่อย ทำง่ายๆ มาให้ได้ติดตามด้วยนะ

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่จะเตรียมทำขนม

ขนม ทองม้วน
  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 150 กรัม
  2. แป้งมันสำปะหลัง 300 กรัม
  3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  4. เกลือป่น ¼ ช้อนชา
  5. น้ำตาลมะพร้าว 200 กรัม
  6. หัวกะทิ 450 กรัม
  7. งาดำ 2 ช้อนโต๊ะ

สำหรับวัตถุดิบ และส่วนผสมที่กล่าวมาข้างต้นเป็นของสูตรทองม้วนกะทิสดตามสูตรขนม โบราณชาววัง และยังเป็นหนึ่งในสูตรขนมทองม้วนขนม ไทย ทำ ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก คนมือใหม่ทำได้แน่นอน

ขนม ทองม้วน
  1. นำแป้งสาลี แป้งมันสัมปะหลังมาร่อนลงในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นเปิดหลุมใส่ไข่ไก่ลงไป ตามด้วยเกลือป่น น้ำตาลมะพร้าว กะทิใส่ลงไปเล็กน้อย จากนั้นใช้มือนวดแป้งให้เข้ากัน และนวดจนกว่าน้ำตาลจะละลาย เมื่อแป้งเนียนเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ให้ใส่น้ำกะทิลงไปจนหมด นวดแป้งให้เป็นเนื้อเดียวกันอีกครั้ง 
  2. นำแป้งที่นวดเสร็จแล้ว นำไปพักไว้ที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นใส่งาดำลงไปที่เตรียมไว้ลงไป ทำการคลุกเคล้าให้เข้ากัน 
  3. ขั้นตอนต่อมา เตรียมอุปกรณ์สำหรับทำขนม เริ่มจากนำพิมพ์ทองม้วนไปวางบนเตา เปิดไฟอ่อนๆ ทาน้ำมันพืชลงไปบนพิมพ์ทั้งด้านบน และด้านล่าง รอให้พิมพ์ร้อน หยอดแป้งที่เตรียมไว้ลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ เกลี่ยแป้งให้ทั่วพิมพ์ รอประมาณ 2 นาที และในระหว่างที่กำลังย่างขนมอยู่ให้บีบพิมพ์ให้แน่น โดยการย่างขนมอย่างละ 1 นาที จากนั้นม้วนให้ทรงกระบอก นำไปพักไว้ให้เย็น เป็นอันเสร็จเรียบร้อย 
ขนม ทองม้วน

สำหรับทองม้วน กรอบ สูตรโบราณที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว หากยังไม่รับประทานทันที เรามีวิธีเก็บขนม ไทย ง่ายๆ ให้พ้นจากความชื้น โดยการเก็บไว้ในภาชนะที่มีฝาปิด หรือใส่ในถุงพลาสติกและมัดปากถุงให้เรียบร้อยจะทำให้ขนมอยู่ได้นานประมาณ 1 สัปดาห์ แถมรสชาติของขนมยังมีความหวาน หอมอร่อยเหมือนที่ทำเสร็จใหม่ๆ 

ขนม ทองม้วน สูตรหมูหยอง ทำง่ายๆ ทำอร่อย ไม่ง้อร้าน

ขนม ทองม้วน

ขนม ทองม้วนเป็นขนมที่มีหลากหลายสูตร และสูตรที่กำลังได้รับความนิยมคือ สูตรหมูหยอง แป้งบางกรอบ สอดไส้หมองแน่นๆ ดังนั้นใครที่สนใจขนมไทย ทำเองอย่างทองม้วนสูตรหมูหยอง เรามีสูตร ขนม ไทยอย่างง่ายมาให้ลองทำดู ซึ่งสูตรขนมเราสามารถใช้ร่วมกับสูตรกะทิสดได้เลย เพียงเพิ่มหมูหยองเข้าไปและม้วนแป้งเข้าหากัน นำมาพักไว้ให้เย็นก่อนนำมารับประทาน 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: hilo-88.nethttp://hilo-88.net

Categories
ขนมไทย

ขนม โป๊งเหน่ง ขนมวัยเด็ก ก้อนกลมสุดคิ้วท์ แป้งนุ่ม อิ่มอร่อย

ขนม โป๊งเหน่ง

วันนี้จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ ขนม โป๊งเหน่ง เป็นขนมไทย โบราณที่ได้รับความนิยมขายตามเทศกาลต่างๆ ในสมัยอดีต สำหรับขนมชนิดนี้มีชื่อเรียกที่หลากหลายตามสถานที่ของแต่ละพื้นที่ อาทิ ขนมลูกตุ้ม ขนมไมโครโฟนที่เด็กๆ สมัยก่อนจะชอบทานเพราะ เป็นขนมที่ที่มีความโดดเด่นของรูปร่างกลมเหมือนลูกบอล สอดไส้ด้วยไส้กรอกรสชาติกลมกล่อม และเสียบไม้ยาวๆ ให้สามารถถือได้ อีกทั้งยังมีความพิเศษในด้านวิธีการทำที่ไม่เหมือนขนมชนิดอื่นๆ แถมยังต้องอาศัยความใจเย็นอีกด้วย ในส่วนรสชาติของขนมถือว่าอร่อยกำลังดี ไม่หวานเกินไป แถมเนื้อแป้งนุ่มละมุน ที่มาพร้อมกับรสชาติกลมกล่อมของไส้กรอกที่ลงตัวเป็นอย่างมาก

วิธีทำขนมสุดคิ้วท์ ขนม โป๊งเหน่ง ขนมวัยเด็ก ขนมหน้าโรงเรียน รสชาติอร่อย 

ขนม โป๊งเหน่ง

มาย้อนรอยทำขนมวัยเด็กกันบ้างกับขนม โป๊งเหน่ง หนึ่งในขนม โบราณยอดนิยมที่มีรสชาติหวาน หอม อร่อยทานได้ทุกวันไม่มีเบื่อ และที่สำคัญยังเป็นขนมไทยที่ทานแล้วอิ่มท้องนานอีกด้วย สำหรับชนิดนี้เป็นขนมที่หาทานยากมาก และกำลังจะถูกเลือนหายไปตามกาลเวลา ดังนั้นเราจะมาชวนทุกคนลองมาทำขนม หวาน ไทยอย่าง โป๊งเหน่ง ขนมก้อนกลม สุดน่ารักไว้ให้เด็กๆ หรือผู้ใหญ่ในครอบครัวได้ลองทาน เหมือนได้กลับไปในวัยเด็กอีกครั้ง แถมยังเป็นการอนุรักษ์ขนมหาทานยากให้เด็กๆ ได้รู้จักขนมโบราณแสนอร่อยอีกด้วย

ส่วนผสม และวัตถุดิบที่ต้องเตรียม

ขนม โป๊งเหน่ง
  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 450 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 250 กรัม
  3. ไข่ไก่ 4 ฟอง
  4. น้ำเปล่า 300 กรัม
  5. ไส้กรอกหั่นท่อน 15 ท่อน
  6. ไม้เสียบลูกชิ้น 15 อัน
  7. น้ำมันพืช 1 ขวด

สำหรับการทำขนมไทย ทำเองจะมีข้อดีคือสามารถทำขนมได้ในปริมาณที่ต้องการ และสามารถเพิ่มวัตถุดิบที่อยากทานได้ ดังนั้นหากใครอยากลองทำขนมโป๊งเหน่งสอดไส้ด้วยไส้กรอกชีสสามารถเปลี่ยนได้เลยตามใจชอบ

ขนม โป๊งเหน่ง
  1. มาเริ่มเตรียมส่วนผสมของแป้งกันเลย เริ่มจากนำแป้งสาลี ไข่ไก่ น้ำตาลทราย น้ำเปล่า ผงฟู และเกลือป่น มาผสมให้เข้ากัน จนได้แป้งเนื้อเนียน
  2. นำกระทะมาตั้งเตา จากนั้นใส่น้ำมันพืชลงไป เปิดไฟแรง รอให้น้ำมันร้อนได้ที่ และลดไฟลงปานกลาง เตรียมไม้เสียบลูกชิ้นมาเสียบไส้กรอกที่หั่นเป็นท่อนๆ เรียบร้อย นำไปจุ่มแป้งในแนวตรง นำไปจุ่มในน้ำมันร้อนๆ รอให้แป้งสุก ยกออกมารอให้สะเด็ดน้ำมัน แล้วนำไปจุ่มน้ำมันอีกรอบ ทำแบบเดิมประมาณ 3-4 รอบ ก็จะได้ขนมที่มีแป้งกลมตัวโต 
ขนม โป๊งเหน่ง

เป็นอันเสร็จเรียบร้อยกับวิธีทำขนม ไทย ง่ายๆ อย่างขนมลูกตุ้ม หรือโป้งเหน่งที่เรารู้จักกันในวัยเด็ก ซึ่งขั้นตอนที่เรานำมาแชร์เป็นสูตร ขนม ไทยอย่างง่าย ทำได้ไม่ยาก และที่สำคัญรสชาติ อร่อย หวานหอม เหมือนได้ย้อนรอยไปในวัยเด็กเลยทีเดียว 

แนะนำเทคนิคการทำ ขนมโป๊งเหน่ง อย่างง่าย ไม่อมน้ำมัน 

ขนม โป๊งเหน่ง

ขนมโป๊งเหน่ง หนึ่งในขนมงานวัดที่สามารถทำทานได้เอง หรือจะทำขายก็สามารถสร้างกำไรได้อย่างงาม แต่การทำขนม ไทย ทำ ง่ายๆ เองที่บ้านหนึ่งสิ่งที่ทุกคนต้องพบเจอนั่นก็คือ ขนมอมน้ำมัน ดังนั้นเราจึงมีเทคนิคการทำขนมไม่ให้อมน้ำมันมาฝากสามารถทำตามได้ โดยในส่วนของการนำแป้งลงทอดในน้ำมันจะต้องจับไม้เสียบลูกชิ้นในแนวตั้งทอดให้สุกประมาณ 1 นาที จากนั้นหมุนแป้งทอดกับน้ำมัน เพื่อให้แป้งสุกทั่วกัน จากนั้นยกออกมาให้สะเด็ดน้ำมัน นำไม้ไปจุ่มแป้งอีกครั้ง และทำแบบเดิม จนกว่าจะได้ขนมลูกตุ้มที่มีขนาดใหญ่ตามที่ต้องการ เสร็จแล้วนำมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน และชับด้วยกระดาษซับมัน เพียงแค่นี้ขนมก็จะไม่อมน้ำมัน ทานอร่อยได้อย่างเพลิดเพลิน 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: sa-game.bet