Categories
ขนมไทย

สายหวานไม่ควรพลาด บัวลอย เผือก ที่สุดของความอร่อย 

บัวลอย เผือก

สำหรับที่เป็นสาวกบัวลอยไม่ควรพลาดกับ บัวลอย เผือก ลูกกลมสีม่วงอ่อนๆ หวานมันอร่อยไม่มีเบื่อ และที่สำคัญชนิดนี้ถือว่าหาทานได้ง่าย แถมราคาไม่แพงอีกด้วย แต่ถ้าอยากทำทานเองที่บ้านก็สามารถทำได้ เพราะขนมบัวลอยสูตรเผือกนี้มีวิธีการทำที่ง่ายๆ ไม่ซับช้อนเหมือนขนมหวานชนิดอื่น แถมยังสามารถทานได้ทุกวันไม่มีเบื่อ

เปิดตำราชาวัง บัวลอย เผือก สูตรพิเศษ หวาน มัน เนื้อนุ่มนิ่ม สุดปัง 

บัวลอย เผือก

ใครว่า บัวลอยเผือก ทำยากนั้นไม่จริงอย่างที่คิด เพราะวันนี้เราจะพาทุกวันไปพิสูจน์วิธีทําบัวลอย เผือก ทำยากจริงหรือไม่ ส่วนใครที่ชอบทานขนมเผือกบัวลอยสามารถลองทำตามวิธีที่เราจะนำแชร์ได้เลย รับรองว่าทำตามได้แน่นอน สำหรับสูตรที่จะใช้ในวันนี้คือ สูตรบัวลอยเผือก ชาววัง นั่นเอง

วัตถุดิบ และส่วนผสม (แป้งบัวลอย)

  1. แป้งข้าวเหนียว 300 กรัม
  2. แป้งมัน 50 กรัม
  3. เผือกนึ่งสุก 300 กรัม
  4. น้ำมะพร้าว 250 กรัม
  5. หัวกะทิ 50 กรัม
บัวลอย เผือก

ส่วนผสม และวัตถุดิบ (น้ำกะทิ)

  1. หัวกะทิ 200 กรัม
  2. หางกะทิ 150 กรัม
  3. น้ำมะพร้าว 200 กรัม
  4. น้ำตาลทราย 200 กรัม
  5. เกลือ ½ ช้อนโต๊ะ
  6. เนื้อมะพร้าวอ่อน 30 กรัม

ขั้นตอนการทำ บัวลอย เผือก ไข่หวาน นุ่มๆ ไข่หวานเยิ้มๆ จัดเต็ม

วิธีการทำขนมบัวลอย เผือก สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ไข่หวานฟองโต ช่วยเพิ่มรสชาติให้ขนมไทยมีความอร่อยมากขึ้น แถมขนม โบราณบัวลอยเผือกสูตรไข่หวานวสามารถทานได้แบบไม่มีเบื่อ ว่าแล้วไปลงมือทำขนมไทย โบราณบัวลอยกันเลย

บัวลอย เผือก
  1. มาเริ่มกันที่ขั้นตอนแรก นำแป้งข้าวเหนียวมาผสมกับแป้งมัน จากนั้นนำเผือกนึ่งสุกมาใส่ในแป้ง ใช้มือขยำให้แป้งและเผือกมีความเป็นเนื้อเดียวกัน เติมน้ำกะทิ และน้ำมะพร้าว หลังจากนั้นนวดแป้งต่อไปจนกว่าจะเหนียวสามารถนำมาปั้นได้ นำแป้งมาปั้นเป็นก่อนขนาดเล็ก หรือใหญ่ตามใจชอบ
  2. ทำการเติมใส่ในหม้อให้เดือด จากนั้นใส่เม็ดบัวลอยลงไป รอให้แป้งลอยขึ้นมาเหนือน้ำ จากนั้นตักบัวลอยใส่น้ำเย็น เพื่อทำการน็อคเม็ดแป้งให้มีความนุ่มเด้ง
  3. ต่อมาจะเป็นขั้นการทำน้ำกะทิ เริ่มจากหัวกะทิใส่ในหม้อ เติมน้ำตาลทราย น้ำมะพร้าว เกลือ และหางกะทิลงไป เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ จนน้ำกะทิเดือด 
  4. ตักเม็ดบัวลอยใส่ในถ้วย และเติมไข่หวานไปราดด้วยน้ำกะทิ เพียงเท่าเป็นเสร็จสิ้น
บัวลอย เผือก

บัวลอยเผือก ถือว่าเป็นขนม หวาน ไทยยอดนิยมอีกหนึ่งเมนูขนม ไทย ทำ ง่าย และไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด อีกทั้งวิธีทำขนม ไทย ง่ายๆ เพียงแค่ทำตามขั้นตอนที่กล่าวมาข้างต้นได้เลย รับรองว่าทำขนมไทย ทำเองอร่อย หวานมัน หอมกลิ่นกะทิสด แถมแป้งบัวลอยยังเหนียวนุ่มตาม สูตร ขนม ไทยดั้งเดิมไม่ผิดเพี้ยนจากต้นตำรับขนมไทยชาววังแน่นอน 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

ขนมอร่อยบอกต่อ! บัวลอย ไข่หวาน เม็ดกลมๆ เนื้อนุ่ม สีสันสดใส 

บัวลอย ไข่หวาน

บัวลอย ไข่หวาน เป็นขนมที่ได้ยินชื่อมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ เพราะเป็นขนมที่ทุกบ้านชอบทำไว้ทานกันครอบครัว เนื่องจากขนมชนิดทำง่าย แถมวัตถุดิบก็หาง่ายอีกด้วย ส่วนเรื่องรสชาติมีความหวาน ที่ตัดกับไข่ไก่ อร่อยจนอยากทานอีกเลยทีเดียว สำหรับใครที่ลองทำทานในช่วงวันว่างๆ วันนี้เราสูตรขนมบัวลอยโบราณมาแชร์ให้ทุกคนได้ติดตามกัน

เปิดสอน บัวลอย ไข่หวาน ขนมหลากหลายสี ทำตามได้ง่ายๆ 

บัวลอย ไข่หวาน

สาวกขนมหวานมาทางนี้ วันนี้เรามี บัวลอยไข่หวาน ขนมแสนอร่อย รสชาติหวานหอม กลิ่นกะทิเข้มข้น สำหรับวิธี ทำ บัวลอย ไข่หวานที่เรามาแชร์นั้นไม่ยากสามารถทำได้ด้วยตัวเอง แถมยังได้บัวลอยไข่หวานที่สดใหม่ และรสชาติกลมกล่อมตามต้นตำรับชาววัง เลยทีเดียว โดยก่อนที่จะไปดู วิธีทํา บัวลอยไข่หวานโบราณ เราต้องมาเตรียมวัตถุดิบดังนี้

บัวลอย ไข่หวาน
  1. แป้งข้าวเหนียว 1 ½ ถ้วยตวง
  2. น้ำใบเตยเข้มข้น ½ ถ้วยตวง
  3. เผือกนึ่ง ½ ถ้วยตวง
  4. ฟักทองนึ่งสุก ½ ถ้วยตวง
  5. น้ำกะทิ 1 ถ้วยตวง
  6. เกลือ ½ ช้อนชา
  7. ไข่ไก่ 2-3 ฟอง
  8. น้ำตาลทราย 1 ½ ถ้วยตวง

สำหรับส่วนผสมที่ใช้ทำสีขนมบัวลอย ขนมไทย นั้น ถ้าไม่มีวัตถุดิบจากธรรมชาติสามารถใช้สีผสมอาหารแทนได้ หรือถ้าไม่ชอบสีของเผือก ฟังทอง ใบเตย ก็เปลี่ยนวัตถุดิบชนิดอื่นได้ตามความต้องการได้เลย ต่อมาจะเป็นวิธีทำบัวลอยขนมไทยอย่างง่ายดังนี้

บัวลอย ไข่หวาน
  • นำแป้งข้าวเหนียวที่เตรียมไว้มา มาแป้งออกเป็น 3 ส่วน เท่าๆ กัน จากนั้นทำเผือก น้ำใบเตย และฟักทองนึ่งสุกแล้ว มาใส่ลงในถ้วยแป้งที่ทำการแบ่งไว้ก่อนหน้านั้น 1 ถ้วยแป้ง ต่อ 1 วัตถุดิบที่ใช้ผสมอาหาร จากนั้นทำการนวดแป้งสีผสมให้เข้ากัน
  • จากนั้นนำแป้งที่นวดแล้วมาปั้นเป็นลูกกลมๆ ขนาดตามใจชอบ นำไปคลุกเคล้าให้เข้ากันกับแป้งเพื่อไม่ให้ขนมติดกัน หลังจากนั้นนำไปต้มในน้ำเดือดจนกว่าแป้งจะลอยขึ้นมาผิวน้ำ
บัวลอย ไข่หวาน
  • นำกะทิใส่ในหม้อที่สำหรับต้ม และเติมน้ำตาลทรายลงไป ต่อด้วยเกลือป่น นำไปเคี่ยวในไฟอ่อนๆ ให้น้ำตาลละลาย เมื่อกะทิเดือด แล้วใส่ไข่ไก่ลงไปปิดไฟ และยกออกจากเตา
  • ตักขนมใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

แชร์ ขนม โบราณ บัวลอยหลากสี เพิ่มความหวานอร่อยลง

บัวลอย ไข่หวาน

บัวลอยไข่หวาน เป็นขนมไทย โบราณยอดนิยมที่สามารถได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ เรียกได้ว่าทานได้ทั้งครอบครัวเลยทีเดียว สำหรับใครอยากทำขนม หวาน ไทย อย่างบัวลอยเพิ่มไข่แสนอร่อย และเคล็ดลับความอร่อยของขนม ไทย ทำ ง่ายๆ เพียงแค่ในขั้นตอนการต้มแป้งบัวลอยขนม ไทย ง่ายๆ โดยก่อนนำแป้งลงต้มต้องรอให้น้ำเดือดก่อนสักพักแล้วค่อยนำแป้งลงต้ม และรอให้แป้งลอยขึ้นก่อนถึงจะตักใส่ถ้วยได้ สำหรับบัวลอยขนมไทย ทำเองรสชาติจะมีความหวานละมุน แถมบัวลอยสูตรไข่หวานเป็นสูตร ขนม ไทยที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

สูตร ขนม กล้วย เนื้อกล้วยแน่นจุใจ หวานน้อย แต่อร่อยทานได้ทั้งวัน 

สูตร ขนม กล้วย

ขนมกล้วย เป็นอีกหนึ่งเมนูขนมหวานที่ทานทีไรก็อร่อยไม่มีเบื่อ อีกทั้งยังเป็นเป็นขนมที่ทานกันมาตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน ถือว่าเป็นขนมหวานยอดฮิตตลอดกาลเลยก็ว่าได้ แถมวิธีทำก็ไม่ยากสามารถทำทานเองได้ไม่ยาก ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามี สูตร ขนม กล้วย หวานละมุน เนื้อกล้วยเน้นๆ ว่าแล้วไปลุยกันเลย

แนะนำ สูตร ขนม กล้วย เมนูขนมหวานจากชาววัง เนื้อกล้วยนุ่มเด้ง หวาน มัน 

วันนี้จะพาทุกคนมาเปลี่ยนกล้วยลูกเล็กๆ ให้เป็นขนมแสนอร่อยสามารถทานได้ทั้งครอบครัว สำหรับเมนูที่จะทำคือ ขนมกล้วยรสชาติหวานอร่อยไม่เหมือนใคร ส่วนสูตรขนมกล้วย และวิธี ทำ ขนม กล้วยง่ายๆ รสชาติเหมือนต้นตำรับ สำหรับวัตถุดิบของขนมกล้วยมีเพียงกล้วยสามารถทำได้แล้ว 

สูตร ขนม กล้วย

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

  1. กล้ววน้ำว้าสุก 500 กรัม
  2. แป้งมัน 50 กรัม
  3. แป้งข้าวจ้าว 100 กรัม
  4. หัวกะทิ 300 กรัม
  5. น้ำตาลทราย 100 กรัม
  6. แป้งท้าวยายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
  7. เนื้อมะพร้าวขูด 30 กรัม

สำหรับขั้นตอนการทำขนม กล้วยเนื้อนุ่มง่ายๆ ตามฉบับขนมไทยนั้นง่ายนิดเดียว แถมมือใหม่ฝึกทำ ขนม โบราณก็สามารถทำได้ ดังนี้

สูตร ขนม กล้วย
  1. นำกล้วยมาปลอกเปลือกออก และหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นนำไปบดให้ละเอียด 
  2. นำแป้งข้าวจ้าว แป้งมัน และแป้งท้าวยายม่อม ใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นใส่กะทิลงไปนวดแป้งให้เข้ากัน จนกว่าแป้งจะไม่ติดมือ ใส่กล้วยที่บดแล้วตามลงไป และน้ำตาลทราย ผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นเติมน้ำกะทิลงอีกรอบ และผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  3. นำขนมตักใส่ถ้วยตะไล หรือกระทงใบตอง และโรยมะพร้าวลงไป นำหม้อนึ่งไปตั้งเตาจากนั้นนำกระทงขนมลงไป และปิดฝาหม้อนึ่ง เปิดไฟปานกลาง เป็นเวลา 25- 30 นาที เมื่อขนมสุกแล้วให้ยกออกจากเตา รอให้เย็น เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย
สูตร ขนม กล้วย

สำหรับสูตร ขนมกล้วย ที่นำมาแชร์เป็นสูตรขนม หวาน ไทยน้ำตาลน้อย ถ้าใครชอบหวานสามารถใส่น้ำตาลเพิ่มได้เลย และถ้าอยากให้เนื้อกล้วยเด้งนุ่มกว่านี้สามารถใส่แป้งเพิ่มได้ เพียงแค่นี้ก็จะได้ขนม ไทย ทำ ง่ายๆ และอร่อยด้วย

เรื่องกล้วยๆ ขนมไทย ทำเอง ประโยชน์เพียบ

สูตร ขนม กล้วย

สูตร ขนมกล้วยที่นำมาแชร์ในวันนี้เป็นขั้นตอนทำขนม ไทย ง่ายๆ ไม่ซับช้อน อีกทั้งเป็นสูตร ขนม ไทยโบราณที่ทานแล้วได้ประโยชน์ โดยกล้วยช่วยลดแผลในกระเพาะ แก้ท้องผูก บำรุงระบบประสาท อีกทั้งยังสามารถลดความดันโลหิตได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นขนมหวานที่ทานได้ทุกวัน และยังได้ประโยชน์อีกด้วย 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

สูตรขนมพื้นบ้านยอดฮิต ขนมชั้นใบเตย เหนียวนุ่ม เคี้ยวเพลิน!

ขนมชั้นใบเตย

เชื่อว่าหลายคนรู้จัก ขนมชั้นใบเตย เป็นขนมที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน อีกทั้งขนมชั้นยังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย เพราะรสชาติมีความหวาน และหอม เนื้อเหนียวนุ่ม เคี้ยวไม่มีเบื่อ สำหรับวิธีการทำขนมชั้นนั้นหลายคนอาจจะยังไม่เห็นขั้นตอนต่างๆ ว่ากว่าจะมาเป็นขนมชั้นที่เราทานต้องมีกระบวนการอะไรบ้าง วันนี้เราจะพาทุกคนมาวิธีการทำขนมชั้นกัน

ความเป็นมา ขนมชั้นใบเตย ที่หลายคนไม่เคยรู้

ขนมชั้นใบเตย

ขนมชั้น ใบเตย เป็นขนมพื้นบ้านสมัยโบราณที่มีรสชาติหวานฉ่ำๆ และเหนียวนุ่ม ส่วนรูปร่างมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมสีเขียวธรรมชาติ สลับกับเขียวขาวเรียงกันเป็นชั้นๆ มีความสูงประมาณ 5-9 ชั้น สำหรับขนม ชั้น ใบ เตย นิยมทำเป็นขนมมงคลต่างๆ ไม่จะเป็นงานบุญ งานบวช หรืองานขึ้นบ้านใหม่ โดยคนสมัยก่อนเชื่อว่าการรับประทานขนมชั้นจะทำให้มีแต่ความสุข และเจริญก้าวในหน้าที่การงานนั้นเอง

วิธีทำ ขน ม ชั้น ใบเตยขนมมงคล สูตรต้นตำรับ รสชาติหวานฉ่ำๆ 

ขนมชั้นใบเตยหนึ่งในขนมหวานที่สามารถได้ทั้งวันไม่เบื่อ สำหรับใครที่ชอบทานขนม ไทยมงคล ต้องไม่พลาด เพราะเรามีวิธีทำขนมไทยอย่าง ขนมชั้นสูตรใบเตยมาให้ได้ทำตามไว้ทานกันในครอบครัว หรือมอบเป็นของขวัญให้กับญาติผู้ใหญ่ในวันสำคัญๆ ได้เช่นกัน ซึ่งก่อนที่จะเข้ากระกวนการทำขนม เรามาเตรียมส่วนขนม โบราณชนิดนี้กัน

ขนมชั้นใบเตย
  1. แป้งข้าวเจ้า 50 กรัม
  2. แป้งมันสำปะหลัง 500 กรัม
  3. หัวกะทิ 800 กรัม
  4. หางกะทิ 200 กรัม
  5. น้ำใบเตย 200 กรัม
  6. น้ำลอยดอกมะลิ 200 กรัม
  7. น้ำตาล 800 กรัม
  8. เกลือ 1 ช้อนชา

ขั้นตอนการทำขนมไทย โบราณ ขนมชั้นสูตรใบเตย ซึ่งสูตรที่นำมาแชร์ในวันนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 

ขนมชั้นใบเตย
  1. นำแป้งข้าวโพด แป้งมันสำปะหลัง แป้งข้าวเจ้า มาผสมรวมกัน และคลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน 
  2. เตรียมน้ำเชื่อม โดยการเทน้ำตาลใส่หม้อ และตามด้วยน้ำลอยดอกมะลิ เมื่อน้ำตาลละลายแล้วให้ยกออกจากเตา ใส่น้ำกะทิลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน
  3. จากนั้นเทนน้ำเชื่อมลงในแป้งที่เตรียมไว้ จากนั้นใช้มือผสมแป้งให้เป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากนั้นนำไปกรองด้วยกระชอน เพื่อเอาเม็ดแป้งออก ขั้นตอนนี้เราจะได้น้ำแป้งที่มีเนื้อเนียนมากขึ้น
  4. แบ่งน้ำแป้งออกเป็น 2 ส่วน โดยแป้งส่วนแรกใส่น้ำใบเตยลงไป แต่ส่วนที่ 2 ไม่ต้องน้ำใบเตย นำไปพักไว้ก่อน

ขั้นตอนที่ 2

ขนมชั้นใบเตย
  1. นำน้ำแป้งส่วนที่ 1 (แป้งผสมน้ำใบเตย) มาเทลงในถาดสี่เหลี่ยม โดยให้แป้งมีความ 2-3 เซนติเมตร จากนั้นนำไปนึ่งในหม้อนึ่งเปิดไฟปานกลาง เมื่อแป้งสุกแล้วให้เทแป้งส่วนที่ 2 (ไม่ผสมน้ำใบเตย) ความหนา 2-3 เซนติเมตร ทำต่อไปเรื่อยๆ ให้ได้ขนม 7-9 ชั้น 
  2. นึ่งขนมต่อไปจนแป้งสุกดี จากนั้นยกออกจากเตา พักไว้ให้เย็น จากนั้นตัดขนมเป็นสี่เหลี่ยมพอดีคำ
ขนมชั้นใบเตย

หลังจากที่ทำขนมชั้นใบเตย เรียบร้อยแล้ว ทำการจัดขนมใส่จานให้สวยงาม สำหรับเทคนิคทำขนมชั้นขนม หวาน ไทยให้อร่อย ในขั้นตอนการเทแป้งควรเช็คก่อนว่าหน้าแป้งสุกดีแล้วค่อยเทน้ำแป้งส่วนที่สองลงไป เพื่อให้ขนมแบ่งเป็นชั้นๆ ชัดเจน เพียงแค่นี้ก็จะได้ขนมชั้น ขนม ไทย ทำ ง่ายๆ ไม่ยาก หากใครอยากลองทำขนม ไทย ง่ายๆ แนะนำขนมชั้น หนึ่งในขนมไทย ทำเองได้ที่บ้าน และยังเป็น สูตร ขนม ไทยพื้นบ้านมงคลที่อร่อยที่สุดอีกด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

ขนมอร่อยเด็ด! เปียก ปูน กะทิ สด สูตรพื้นบ้านโบราณ หวาน มัน สีสวย น่าทาน 

เปียก ปูน กะทิ สด

อีกหนึ่งเมนูที่อยากแนะนนำให้ลองทานกันมากๆ อย่างขนมหวาน เปียก ปูน กะทิ สด โรยหน้าด้วยมะพร้าวอ่อน ที่มาพร้อมกับกะทิสดเข้มข้น และที่สำคัญรสชาติที่หวานละมุน อบอวลด้วยกลิ่นใบเตยสด อร่อยอย่างลงตัว อีกทั้งยังหอมกลิ่นงาคั่วที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ 

สูตรขนม เปียก ปูน กะทิ สด มะพร้าวอ่อน ทำขาย ได้กำไรดี 

เปียก ปูน กะทิ สด

ขนมเปียกปูน กะทิ สด เป็นขนมที่ได้รับความนิยมมากในอดีต และในปัจจุบัน เปียกปูนกะทิสดมีขายในร้านขายขขนมทั่วไป แต่ถ้าอยากลองทำทานเอง หรือทำขายก็ไม่ยากอย่างที่คิด เพราะส่วนผสม เปียกปูนกะทิสดมีเพียงไม่กี่อย่าง และสูตร เปียกปูนกะทิสดที่กำลังเป็นที่นิยมคือ เปียกปูนกะทิสดดอกไม้น่าทานสุดๆ โดยก่อนอื่นเรามาเตรียมส่วนวผสมกันก่อนดังนี้

เปียก ปูน กะทิ สด

ส่วนผสม และวัตถุดิบขนมเปียกปูน

  1. แป้งท้าวยายม่อม 100 กรัม
  2. แป้งข้าวเจ้า 150 กรัม
  3. น้ำตาลโตลด 100 กรัม
  4. น้ำตาลทราย 70 กรัม
  5. น้ำปูนใส 300 กรัม
  6. น้ำใบเตย 500 กรัม
  7. กะทิ 250 กรัม

ส่วนผสม และวัตถุดิบหน้ากะทิ

  1. กะทิ 400 กรัม
  2. แป้งข้าวเจ้า 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  3. งาคั่ว 3-5 ช้อนโต๊ะ
  4. เนื้อมะพร้าวอ่อน 150 กรัม

เมื่อเตรียมส่วนผสม เปียกปูน กะทิสด เสร็จแล้ว ต่อมาเราจะพาทุกคนมาดูวิธีทำขนม ไทยสูตรนี้กัน โดยที่ขั้นตอนการทำเข้าใจง่ายมาก ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย

เปียก ปูน กะทิ สด
  1. ขั้นตอนแรกนำแป้งข้าวเจ้า และแป้งเท้ายายม่อม น้ำตาลโตนด น้ำตาลทราย น้ำกะทิ และเกลือ ลงในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นใช้มือนวดแป้ง และส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ใส่น้ำมะพร้าว น้ำใบเตยที่ปั่นแล้ว และน้ำปูนใสลงไปในแป้ง กวนส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวกัน นำไปเทใส่ในกระทะตั้งเตา โดยใช้ไฟปานกลาง กวนจนกระทั่งแป้งสุกดี เมื่อแป้งสุกแล้ว ตักใส่ในพิมพ์ที่เตรียมไว้ พักไว้จนกว่าขนมจะเย็น
  2. ต่อมาเตรียมส่วนผสมของน้ำกะทิ เริ่มจากนำหัวกะทิเทใส่ในหม้อ และตามด้วยแป้งข้าวเจ้า เกลือ ลงไป ผสมทั้งหมดให้เข้ากัน นำหม้อไปตั้งไปตั้งเตา เปิดไฟปานกลาง คนส่วนผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน รอให้แป้งสุก จากนั้นเติมเนื้อมะพร้าวอ่อนลงไป และยกหม้อออกจากเตา 
  3. ตักส่วนน้ำกะทิเทราดลงไปบนหน้าขนมเปียกปูนที่เตรียมไว้ ตามด้วยงาคั่ว เพียงแค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

ขนมไทยแสนอร่อยขนม เปียก ปูน กะทิ สด ทานได้ทั้งครอบครัว

เปียก ปูน กะทิ สด

เปียกปูน กะทิ สด ถือว่าเป็นขนม โบราณพื้นบ้านที่ทำทานได้ทั้งครอบครัว หรือจะทำขนมไทย โบราณอย่าง ขนมเปียกปูนไว้ขายก็ได้กำไรแต่วันแรกที่ขายเลยทีเดียว อีกทั้งรูปร่างหน้าตาของขนม หวาน ไทยมีสีเขียวธรรมชาติน่าทานสุดๆ สำหรับวิธีการทำขนมเปียกปูนขนม ไทย ทำ ง่ายๆ นั้น ในขั้นตอนต้มแป้ง เมื่อแป้งเริ่มหนืดควรกวนให้แรงขึ้น เพาะไม่เช่นนั้นแป้งจะไหม้ก่อน แถมยังได้แป้งไม่สุกอีกด้วย เพียงแค่ก็สามารถทำ ขนม ไทย ง่ายๆ ให้อร่อยตามฉบับขนมไทย ทำเองที่บ้าน แถมขนมเปียกปูน เป็นสูตร ขนม ไทยมงคลที่นิยมทำทานในวันสำคัญอีกด้วย 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

ขนมหายากที่อยากแชร์! ขนม หยก มณี สูตรโบราณ เนื้อสาคูน่มนิ่ม หนึบหนับ

ขนม หยก มณี

ขนม หยก มณี ขนมอันเลอค่าที่หาทานได้ยากในปัจจุบัน ซึ่งจะมีขายเพียงแค่บางพื้นที่ หรือตามตลาดท่องเที่ยวของไทยเท่านั้น หากใครที่ชอบทานขนมหวานมาทางนี้ เพราะวันนี้เรามีสูตรขนมดั้งเดิมที่ตามโบราณมาหายากมาให้ได้ติดตาม 

ขนม หยก มณี ขนมหวานมงคลอันเลอค่า รสชาติหวานละมุน

ขนม หยก มณี

ขนมหยกมณี มีลักษณะเป็นก้อนกลมคลุกเคล้าด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อน ที่มาพร้อมเนื้อสาคูสีเขียวนุ่มหนึบ และรสชาติที่หวานมันกำลังดี สำหรับขนมชนิดนี้มีให้เลือกหลายสูตร อาทิ หยกมณีอัญชันสีม่วงสวยงาม ขนมหยกมณีอันเลอค่า และหยกมณีสามสี เป็นต้น นอกจากนี้ขนมหยกมณี ความหมายที่บ่งบอกว่าขนมมีสีเขียวใสเหมือนหิน ในส่วนของวิธีนั้นสามารถทำตามได้ที่บ้าน ดังนี้

ขนม หยก มณี

ส่วนผสม และวัตถุดิบที่ต้องเตรียม

  1. แป้งสาคู 1 ½ ถ้วยตวง
  2. น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
  3. น้ำดอกมะลิ 2 ½ ถ้วยตวง
  4. เกลือ ½ ช้อนชา
  5. เนื้อมะพร้าว 1 ถ้วยตวง

สำหรับส่วนผสมถ้าใครไม่มีน้ำดอกมะลิสำหรับปั่นใบเตยสามารถใช้น้ำเปล่าแทนได้ ต่อมาจะขั้นตอนทำขนม ไทยอย่างง่าย ดังนี้

ขนม หยก มณี
  1. นำแป้งสาคูมาล้างน้ำให้สะอาดประมาณ 1-2 ครั้ง พักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ให้สะเด็ดน้ำ จากนั้น
  2. นำใบเตยมาปั่นรวมกันกับน้ำดอกมะลิ จากนั้นกรองเอาน้ำใบเตยใส่ภาชนะที่เตรียมไว้
  3. ต่อมาให้นำเนื้อมะพร้าวที่ขูดแล้วเรียบร้อยมาคลุกเคล้ากับเกลือ นำไปนึ่งตั้งไฟปานกลางประมาณ 5 นาที 
  4. นำสาคูที่เตรียมไว้มาต้มในน้ำเดือด คนสาคูเรื่อยๆ เพื่อไม่ติดหม้อ เมื่อสาคูสุกแล้ว ใส่น้ำใบเตยลงไปผสมให้เข้ากันอีกครั้งจนกว่าสาคูจะหนืด จากนั้นปิดเตา เอาออกจากเตานำไปเทใส่ถาด เพื่อให้สาคูเย็นเร็วขึ้น
  5. ต่อมาเป็นขั้นตอนการนำสาคูมาตักให้เป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำ แล้วนำไปคลุกเคล้ากับเนื้อมะพร้าวที่นึ่งไว้ จากนั้นจัดใส่จาน หรือจะนำมาใส่ในกระทงใบเตยก็สวยงามน่าทาน 
ขนม หยก มณี

หลังจากที่ทำ ขนม หยกมณี เสร็จแล้ว เราจะได้ขนมไทยที่มีรสชาติ หวาน มัน เค็ม และเนื้อนุ่ม ตรงตามสูตรขนม โบราณ หากใครอยากทำขนมไทย โบราณ แนะนำให้ทำตามสูตรขนมสาคูหยกมณีได้เลย 

เทคนิคทำ ขนมสาคูหยกมณี หนึ่งในขนม หวาน ไทย อร่อย หาทานยาก 

ขนม หยก มณี

ถึงแม้ว่าขนม หยก มณีจะเป็นขนมที่หาทานยาก แต่วิธีทำสาคูหยกมณี ขนม ไทย ทำ ง่ายมาก แค่ทำตามสูตรที่เราทำมาแชร์ได้เลย และเทคนิคการทำขนมสาคูหยกมณีตามฉบับขนม ไทย ง่ายๆ ให้อร่อยนั้น ในขั้นตอนของการต้มเม็ดสาคูต้องหมั่นคนสาคูอย่างสม่ำเสมอ อย่าให้แป้งติดก้นหม้อ เพราะจะทำให้สาคูไหม้ได้ เพียงแค่นี้เราก็จะได้เม็ดสาคูที่นุ่ม และมีกลิ่นหอม อีกทั้งขนมไทย ทำเองมีรสชาติที่หวานละมุนตามสูตร ขนม ไทยแบบขนมไทยชาววังดั้งเดิมอีกด้วย 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

เผยสูตร วุ้น กะทิ ใบ เตย กะทิเข้มข้น หอมกลิ่นใบเตย หวานชื่นใจ

วุ้น กะทิ ใบ เตย

วุ้น กะทิ ใบ เตย ขนมหวานที่ทานแล้วรู้สึกเย็นสดชื่น เพราะรสชาติที่หวานหอมกลิ่นใบเตย และเนื้อนุ่มเด้ง กรุบกรอบเคี้ยวเพลินสุดๆ แถมขนมยังสีเป็นสีเขียวธรรมชาติ ตัดกับสัขาวของกะทิได้อย่างลงตัว และน่ารับประทานอีกด้วย ที่สำคัญขนมชนิดนี้เป็นหนึ่งเมนูขนมหวานที่คลายร้อนได้ดีเลยทีเดียว 

วุ้น กะทิ  ใบ เตย ขนมแห่งความสุข ทานแล้วได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ 

วุ้น กะทิ ใบ เตย

มาต่อกันที่ขนมสีธรรมชาติ เนื้อเด้ง กรุบกรอบ อย่าง วุ้นกะทิ ใบเตย เป็นขนมชาววังในอดีตที่หลายคนชอบทานเป็นประจำ และนอกจากขนมจะมีสีสันที่สวยงามแล้ว รสชาติยังอร่อย หวานชื่นใจสุดๆ ในส่วนของวิธี ทําวุ้น กะทิ ใบเตยง่ายๆ แถมสูตรวุ้นกะทิใบเตย มีเพียงมาวุ้น กับน้ำตาลก็สามารถทำวุ้นกะทิใบเตยดอกไม้ หรือ 

วุ้นกะทิโบราณ ได้แล้ว โดยวัตถุดิบ และส่วนผสมทั้งหมดมีดังนี้

ส่วนผสมของวุ้น (กะทิ)

  1. น้ำตาลทราย ¼ ถ้วยตวง
  2. ผงวุ้น 2 ช้อนโต๊ะ
  3. หัวกะทิ 3 ถ้วยตวง
  4. เกลือ ½ ช้อนชา
วุ้น กะทิ ใบ เตย

ส่วนผสม และวัตถุดิบของวุ้น (น้ำใบเตย)

  1. น้ำใบเตย 1 ถ้วยตวง
  2. น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง
  3. น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
  4. ผงวุ้น 3 ช้อนโต๊ะ

การทำวุ้นที่ใช้ทำขนม ไทยสามารถใช้ยี่ห้ออะไรก็ได้ตามใจชอบของแต่ละบ้านที่จะหาซื้อ เพราะทุกยี่ก้อสามารถขนมไทยได้หมด และในลำดับต่อมาเราจะมาทำขนม โบราณอย่าง วุ้นกะทิสูตรใบเตยกัน 

วุ้น กะทิ ใบ เตย
  1. เตรียมละลายผงวุ้น โดยการนำน้ำเปล่าใส่ในหม้อ และเทผงวุ้นใส่ลงไป นำไปตั้งไฟอ่อนๆ คนวุ้นเรื่อยๆ จนกว่าวุ้นจะละลายหมด หลังจากนั้นใส่น้ำตาลทรายลงไปคนจนน้ำตาลละลายหมด
  2. เมื่อน้ำตาลละลายหมด เทน้ำใบเตยลงไปคนส่วนผสมให้เข้ากัน จากนั้นรอให้ส่วนผสมทั้งหมดเดือด เมื่อส่วนผสมเดือดแล้วให้ยกออกจากเตา พักไว้ให้เริ่มอุ่นๆ เสร็จแล้วเทส่วนผสมลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ 
  3. จากนั้นเรามาเตรียมใส่วนของวุ้นกะทิ เริ่มจากใส่หัวกะทิในหม้อแล้วนำไปตั้งไฟอ่อน เทวุ้นลงไปคนส่วนผสมให้เข้ากันจนกว่าวุ้นจะละลาย ใส่น้ำตาลทรายคนในละลาย เสร็จแล้วปิดไฟ และยกออกจากเตา พักไว้ให้วุ้นอุ้นๆ นำไปราดหน้าวุ้นใบเตย พักไว้ให้เย็น จากนั้นแกะวุ้นออกจากพิมพ์นำไปจัดใส่จานให้สวยงาม พร้อทาน

ก่อนที่จะนำวุ้น กะทิ ใบ เตยมารับประทานควรนำไปเข้าตู้เย็น เพื่อให้ขนมเย็นตัวเร็วขึ้น แถมทานแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น และได้รสชาติขนมไทย โบราณอย่างแท้จริง 

เผยความลับขนม หวาน ไทย วุ้นกะทิ สูตรใบเตย หอมกลิ่นใบเตยเข้มข้น 

วุ้น กะทิ ใบ เตย

วุ้นกะทิใบเตย ถือว่าเป็นขนม ไทย ทำ ง่ายมาก โดยเคล็ดลับในการทำวุ้นกะทิ หนึ่งในขนม ไทย ง่ายๆ น้ำใบเตยให้มีสีเขียวธรรมชาติ และกลิ่มหอม คือ นำใบเตยตำด้วยครกให้ละเอียดจะได้ใบเตยที่มีกลิ่นหอม และสีสวยงาม เพียงแค่นี้ก็จะได้ขนมไทย ทำเองที่รสชาติ หวาน มัน แถมวุ้นกะทิน้ำใบเตยเป็นสูตร ขนม ไทยที่สามารถทำทานเองได้ และอร่อยด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

ขนมหวานแนะนำ! สาคู เปียก ข้าวโพด ราดด้วยกะทิสด หวานอร่อย! 

สาคู เปียก ข้าวโพด

ขนมหวานที่อยากแนะนำให้ลองทานอีกหนึ่งเมนูคือ สาคู เปียก ข้าวโพด เป็นขนมที่ทำจากต้นสาคูแท้ โดยเม็ดสาคูจะมีสีน้ำตาลอ่อนๆ มีลักษณะเป็นเม็ดกลมๆ น่ารักๆ ทำให้เวลาเคี้ยวจะมีความหนุบหนึบ และหอมกลิ่นสาคู และความกรอบของขาวโพดอร่อยอย่างลงตัว 

สาคู เปียก ข้าวโพด ขนมหวานยอดนิยมตลอดกาล ทำง่าย อร่อยด้วย

สาคู เปียก ข้าวโพด

สำหรับใครที่อยากทำขนมสาคู เปียก ข้าวโพด แต่ไม่รู้ว่าจะทำขนมสูตรไหนดี วันนี้เรามีสูตรสาคู เปียก ข้าวโพด มะพร้าว อ่อน มาให้ทุกคนได้ทำตาม สำหรับส่วนผสมของขนมหวานข้าวโพดเปียกสาคู ใส่มะพร้าวนั้นมีเพียงไม่กี่อย่าง และที่สำคัญขั้นตอนการทำสาคูเปียก ข้าวโพดทำง่ายมากๆ อีกด้วย 

วัตถุดิบ และส่วนผสมของสาคูเปียก

สาคู เปียก ข้าวโพด
  1. แป้งข้าวเจ้า 3 ช้อนโต๊ะ
  2. แป้งสาคู 300 กรัม
  3. ข้าวโพดต้ม 150 กรัม
  4. กะทิ 300 กรัม
  5. ใบเตย 2-3 ใบ
  6. น้ำตาลทราย 30 กรัม
  7. มะพร้าวอ่อน 1 ถ้วย

เปิดขั้นการทำสาคูข้าวโพดมะพร้าวอ่อน รสชาติอร่อยครบรส ฉบับมือใหม่ 

สาคู เปียก ข้าวโพด

สาคู เปียก ข้าวโพดมะพร้าวอ่อน คือขนมไทยที่ทำได้ด้วยตัวเองได้ง่ายๆ หรับบ้านไหนไม่มีแป้งสาคูแท้สามารถใช้แป้งสาคูเทียมได้ เนื้อแป้งมีความนิ่มอร่อยเหมือนกัน หลังจากที่เราเตรียวัตถุดิบของสาคูโพดเปียก หนึ่งในขนม โบราณเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในขั้นตอนต่อไปจะเป็นขั้นตอนการทำขนมมีรายละเอียดดังนี้

  1. ขั้นตอนแรกเตรียมน้ำมะพร้าวใส่หม้อนำไปตั้งเตา โดยใช้ไฟปานกลาง เมื่อน้ำมะพร้าวเดือดแล้วให้ใส่ใบเตยที่เตรียมไว้ลงไป เพื่อทำให้ขนมมีขนมมากขึ้น
  2. ใส่แป้งสาคูที่เตรียมไว้ลงไป คนแป้งเรื่อยๆ อย่าให้แป้งสาคูติดก้นหม้อ และไม่จับตัวเป็นก้อน เมื่อเม็ดสาคูเริ่มใสแล้ว ใส่น้ำตาลทรายลงไป คนน้ำตาลทรายให้ละลาย และใส่เม็ดข้าวโพดที่เตรียมไว้ลงไป ตามด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อนที่ขูดไว้แล้ว คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ปิดไฟ และยกออกจากเตาพักไว้ให้เย็น
  3. ในลำดับต่อมา เราจะมาทำน้ำกะทิ โดยเริ่มจากให้นำหัวกะทิที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในหม้อ นำไปตั้งเตาเปิดไฟอ่อนๆ จากนั้นใส่เกลือลงไป และตามด้วยแป้งข้าวเจ้า คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันจนกว่าแป้งจะสุก 
  4. ตักขนมสาคูใส่ถ้วย นำกะทิที่ได้ราดลงไป จากนั้นตกหน้าด้วยเมล็ดข้าวโพด และเนื้อมะพร้าวอ่อน เพื่อความสวยงาม
สาคู เปียก ข้าวโพด

จบไปแล้วกับขั้นตอนการ สาคูเปียกข้าวโพดตามสูตร ขนมไทย โบราณ แบบดั้งเดิม ที่มีรสชาติหวานละมุน และหอมกลิ่นมะพร้าวอ่อนๆ อร่อยไม่มีเบื่อ นอกนี้จากขนมสาคูยังเป็น ขนม หวาน ไทยที่สามารถทำขายสร้างเป็นอาชีพได้ด้วย หากใครสนใจอยากลองทำขนม ไทย ง่ายๆ ไว้ลองทานที่บ้าน ขอแนะนำขนมสาคู ขนมไทย ทำเองสไตล์ขนมโฮมเมค แถมสูตร ขนม ไทย อย่างสาคูเปียก เป็นสูตรโบราณที่อยากให้ลองทำตามกัน ไม่ยากอยากที่คิด 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

ข้าวเหนียวดำ เปียก ลำไย ขนมคลายร้อน หอมอร่อย ชื่นใจ 

ข้าวเหนียวดำ เปียก ลำไย

อีกพูดถึงขนมหวานที่คลายร้อนที่ได้รับความนิยมมาตั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน ต้องยกให้ ข้าวเหนียวดำ เปียก ลำไย ขนมที่ทุกบ้านนิยมทานช่วงหน้าร้อน เพราะรสชาติหวานฉ่ำๆ ที่มาพร้อมกับกลิ่นกะทิ ใบเตยที่หอมละมุนชวนทาน แถมมีเนื้อลำไยหวานอร่อยชื่นใจสุดๆ 

วิธีทำ ข้าวเหนียวดำ เปียก ลำไย ให้น่ารับประทาน ข้าวไม่อืด 

ข้าวเหนียวดำ เปียก ลำไย

ในสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวแบบนี้ มีหลายคนที่กำลังมองหาขนมหวานทานคลายแต่ไม่รู้ว่าจะทานขนมอะไรดี เราขอแนะนำข้าวเหนียวดำ เปียก ลำไย รสชาติหวาน เพิ่มความมันของกะทิทราดหน้าข้าวเหนียว เปียกนุ่มนิ่ม ตัดกับเนื้อลำไยได้อร่อยชื่นใจ เรียกได้ว่าขนมข้าวเหนียวเปียก ลำไยเนื้อหวานๆ ทำให้คลายร้อนได้ดีสุดๆ ส่วนวิธีทำข้าวเหนียวเปียกลำไย ง่ายๆ สามารถทำตามได้ดังนี้

  1. ข้าวเหนียวดำ 300 กรัม
  2. น้ำมะพร้าวอ่อน 200 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 50 กรัม
  4. เนื้อมะพร้าวอ่อน 1 ถ้วย
  5. เนื้อลำไย ½ ถ้วย
ข้าวเหนียวดำ เปียก ลำไย

ส่วนผสมของน้ำกะทิ

  1. แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
  2. หัวกะทิ 1 ½ ถ้วย
  3. เกลือ ½ ช้อนชา
  4. ใบเตย 2-3 ใบ

เมื่อเตรียมส่วนผสมของ ข้าวเหนียวดําเปียกลําไยสูตรโบราณ เรียบร้อยแล้ว ต่อมาเราดูวิธีทำขนม ไทยอย่างง่ายกันว่าทำอย่างไร ไปดูกันเลย

ข้าวเหนียวดำ เปียก ลำไย
  1. นำข้าวเหนียวดำใส่น้ำเปล่าลงไป แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง จากนั้นนำข้าวมาล้างน้ำ 2-3 ครั้ง ตั้งทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ
  2. นำน้ำมะพร้าวใส่หม้อเปิดไฟปานกลาง จากนั้นรอให้น้ำมะพร้าวเดือด ใส่ข้าวเหนียวดำลงไปต้มประมาณ 15 นาที พยายามคนเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ติดหม้อ จากนั้นใส่น้ำตาลทรายลงไปคนให้น้ำทรายละลาย และคนต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจนน้ำงวด 
  3. จากนั้นใส่มะพร้าวอ่อน และเนื้อลำไยลงไป คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ปิดไฟแล้วยกออกจากเตา 
  4. ต่อมาเป็นขั้นตอนการน้ำกะทิ เริ่มจากใส่หัวกะทิ แป้งข้าวเจ้า เกลือ และตามด้วยใบเตยใส่ลงไปในหม้อตั้งไฟปานกลาง จากนั้นเคี่ยวจนกะทิเข้มข้น ปิดไฟพักไว้ให้เย็น และตักใส่ถ้วย พร้อมทานได้เลย
ข้าวเหนียวดำ เปียก ลำไย

สำหรับ ข้าวเหนียวดำ เปียกลำไย เป็น ขนมไทย สูตรดั้งเดิมตามแบบขนม โบราณของไทย ซึ่งรสชาติของข้าวเปียกลำไยจะมีความหวาน มัน เค็ม เรียกได้ว่ามีครบทุกชาติเลยทีเดียว โดยก่อนที่จะนำขนมมารับประทานจะนิยมนำไปแช่ในตู้เย็นก่อนนำมารับประทาน ทำให้เมื่อทานแล้วจะรู้เย็นชื่นใจ

เปิดความอร่อย ข้าวเหนียวเปียกลำไย ขนมไทย โบราณ หวานชื่นใจ

ข้าวเหนียวดำ เปียก ลำไย

ข้าวเหนียวดำเปียกลำไย เป็นขนม หวาน ไทยที่สามารถทานได้ทุกเวลา และอีกหนึ่งเคล็ดความอร่อยของขนม ไทย ทำ ง่ายๆ คือ หากบ้านไหนมีดอกมะลิสามารถนำน้ำมะลิมาใช้เป็นส่วนผสมของข้าวเหนียวเปียกลำไยจะทำให้ขนมมีความหอมชื่นใจมากขึ้น สำหรับใครที่อยากทำขนมชนิดนี้แต่ไม่มีข้าวเหนียวดำ แนะนำให้ใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูแทนข้าวเหนียวข้าวเหนียวดำได้ ส่วนขั้นตอนการทำขนม ไทย ง่ายๆ เพียงทำตามสูตรขนมที่กล่าวมาข้างต้นได้เลย เพียงแค่นี้เราก็จะได้ขนมไทย ทำเองง่ายนิดเดียว แถมสูตร ขนม ไทยอย่างข้าวเหนียวเปียกลำไย เป็นสูตรเราคัดมาแล้ว รับรองทำได้แน่นอน 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
ขนมไทย

ขนมพื้นบ้าน! ขนม ตะลุ่ม หน้าสังขยา เนื้อนุ่มเด้ง รสชาติ หวาน มัน เค็ม อร่อยอย่างลงตัว

ขนม ตะลุ่ม

ขนม ตะลุ่ม เป็นขนมพื้นบ้านที่หาทานยากมากในปัจจุบัน เพราะจะมีขายแค่ในบางพื้นที่เท่านั้น ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนย้อนเวลามาทำขนมดั้งเดิมไว้ทานกับครอบครัว หรือจะทำขายก็ได้กำไรแน่นอน ในส่วนของวิธีทำก็ทำง่ายไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด ว่าแล้วไปลุยกันเลย

แชร์สูตร(ไม่)ลับ! ขนม ตะลุ่ม ของดีสมัยอดีต ทำง่ายนิดเดียว

ขนม ตะลุ่ม

หากใครที่ชอบทานขนมหวานชาววัง และกำลังหาเมนูขนมหวานทำทานแก้เบื่อ ขอแนะนำขนมตะลุ่ม ขนมที่มีรสชาติหวานละมุนลิ้นสุดๆ หากได้ลองทานขนมตะลุ่มรับรองจะต้องติดใจแน่นอน สำหรับสูตรขนมตะลุ่มที่เราจะนำมาแชร์นั้นมีส่วนผสมเพียงน้อยนิดดังนี้

วัตถุดิบ และส่วนผสมของแป้งขนม

  1. แป้งข้าวเจ้า 200 กรัม
  2. แป้งท้าวยายม่อม 50 กรัม
  3. เกลือ ½ ช้อนชา
  4. น้ำเปล่า 300 กรัม
  5. กะทิสด 150 กรัม
ขนม ตะลุ่ม

วัตถุดิบ และส่วนผสมของหน้าสังขยา

  1. ไข่เป็ด 5 ฟอง
  2. หัวกะทิ 150 กรัม
  3. ใบเตย 5 ใบ
  4. น้ำตาลมะพร้าว 200 กรัม

ขั้นตอนการทำ ขนมตะลุ่ม หนึ่งในขนม ไทยอย่างง่าย แม้คนที่ไม่เคยทำขนมมาก่อนก็ทำได้ ซึ่งขนมไทยชนิดนี้เป็นขนม โบราณที่สามารถทำทานได้ทุกวันไม่เบื่อ 

ขนม ตะลุ่ม
  1. เริ่มต้นที่การเตรียมแป้งขนมกันก่อน ขั้นแรกนำแป้งข้าวเจ้า แป้งท้าวยายม่อม เกลือ หางกะทิ น้ำปูนใส และน้ำเปล่า ผสมทั้งหมดให้เข้ากัน กรองด้วยผ้าขาวบางอีกครั้ง จากพักไว้
  2. ต่อมาให้เตรียมหน้าสังขยา โดยนำไข่เป็ดใช้เฉพาะไข่แดง น้ำตาลมะพร้าว ใบเตย และหัวกะทิ ผสมให้เข้ากัน กรองด้วยผ้าขาวบาง 
  3. นำหม้อนึ่งมาตั้งไฟให้น้ำเดือด จากนั้นนำน้ำแป้งที่เตรียมไว้ตักใส่ถ้วยขนมที่เตรียมไว้ นำไปนึ่งประมาณ 5 นาที
  4. จากนั้นหยอดสังขยาลงไปในหน้าถ้วยขนมที่นึ่งอยู่ และทำการนึ่งต่อไปอีก 15 นาที เมื่อครบเวลาแล้วให้ยกออกจากเตา พักไว้ให้เย็น
ขนม ตะลุ่ม

หลังจากที่ทำขนม ตะลุ่มเสร็จแล้ว หากใครต้องการเก็บขนมไว้ทานในวันถัดไป แนะนำให้เก็บขนมไว้ในตู้เย็น เพราะไม่เช่นนั้นขนมอาจจะเสียได้ สำหรับขนมไทย โบราณชาววังจะเห็นว่าขั้นตอนการทำนั้นไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด และที่สำคัญยังเป็นขนม หวาน ไทยที่ใช้เวลาทำไม่นาน อุปกรณ์ก็มีเพียงไม่อย่าง รับรองว่าทำได้แน่นอน 

ตะลุ่ม ขนม ไทย ทำ ง่าย รสชาติหวานฉ่ำๆ ทานคู่กับอะไรก็อร่อย 

ขนม ตะลุ่ม

ขนมตะลุ่ม หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อนี้มากนัก เนื่องจากไม่ค่อยมีใครทำมากนัก จึงทำให้ขนมชนิดนี้หาทานได้ยากมาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถทำทานเองได้ เพราะขนมชนิดนี้ถือว่าเป็นขนม ไทย ง่ายๆ มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก สำหรับคนที่อยากทำขนมไทย ทำเองที่บ้านสามารถทำตามวิธีทำที่เรานำมาแชร์ได้เลย รับรองว่าทุกขั้นตอนตรงตามสูตร ขนม ไทยชาววังทุกประการ แถมตะลุ่ม เป็นขนมที่ทานคู่กับเครื่องดื่มพวก ชา กาแฟได้อร่อยชื่นใจสุดๆ 

อ่านบทความอื่นๆ: