
ขนมเกสรลำเจียกหรือขนมบุหงาปูดะขนมไทยโบราณของดีของจังหวัดอ่างทอง มีต้นกำเนิดในสมัยรัชกาลที่ 2 จากสตรีที่เข้าไปอยู่ในวังจนได้สูตรออกมาเผยแพร่ให้คนที่อยู่นอกวังได้รับประทาน ที่มาของชื่อนั้นอาจจะเป็นเพราะมีลักษณะเหมือนกลีบเกสรของดอกลำเจียกที่สุกงอมเต็มที่ แถมยังมีกลิ่นหอมจากสีผสมอาหารจากธรรมชาติที่ใส่ลงไป อีกทั้งยังทำให้ขนมมีสีสันสวยงาม สัมผัสเหนียวแต่นุ่มนิ่ม ไส้ทำจากมะพร้าวเพิ่มความกรุบกรอบในขนม รสชาติหวานกลมกล่อม ทำให้หลาย ๆ คนที่ได้ลองติดใจจนหยุดกินไม่ได้ แต่ในปัจจุบันนั้นถือเป็นขนมที่หาทานได้ยาก เพราะส่วนผสมหลักอย่างมะพร้าวทึนทึกนั้นหาได้เฉพาะบางจังหวัด จึงทำแค่ในบางจังหวัดที่ปลูกมะพร้าวเท่านั้น

วัตถุดิบการทำขนมเกสรลำเจียก ขนมไทยสีสันสวยงาม
“ ลำเจียกชื่อขนม นึกโฉมฉมหอมชวยโชย ไกลกลิ่นดิ้นแดโดย โหยไห้หาบุหงางาม มัศกอด กอดอย่างไร น่าสงสัยใคร่ขอถาม กอดเคล้นจะเห็นความ ขนมนามนี้ยังแคลง ” ส่วนหนึ่งในพระราชนิพนธ์กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาว – หวาน ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้กล่าวถึงขนมเกสรลำเจียกไว้ ทำให้เราได้รู้จักขนมชนิดนี้มากขึ้นผ่านบทพระราชนิพนธ์ เป็นขนมไทยที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่สมัยโบราณ วัตถุดิบต่าง ๆ ล้วนทำจากธรรมชาติไม่เหมือนในปัจจุบัน เช่น สีแต่งอาหารจากดอกอัญชัน ใบเตย กลิ่นจากน้ำลอยดอกมะลิ ข้าวเหนียวแช่น้ำตำครกแทนแป้งข้าวเหนียวสำเร็จรูป
ส่วนของไส้ขนม
- มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย ปริมาณ 130 กรัม หรือจะเรียกอีกอย่างว่ามะพร้าวกึ่งอ่อนกึ่งแก่ มีเนื้อสัมผัสนุ่ม ไม่แข็งหรือนิ่มจนเกินไป จึงนิยมใช้สำหรับใช้ทำไส้ขนม
- แป้งข้าวเหนียว ปริมาณ 14 กรัม
- น้ำตาลทราย ปริมาณ 93 กรัม ใช้น้ำตาลทรายขาวเพราะจะทำให้ขนมของเรามีสีสันที่สวยงาม
- น้ำลอยดอกมะลิ ปริมาณ 2/3 ถ้วยตวง เคล็ดลับความหอมของขนม หากใครไม่มีดอกมะลิหรือหาไม่ได้ สามารถใช้สารแต่งกลิ่นแทนได้ค่ะ
- เกลือป่น ปริมาณ 1/8 ช้อนชา
ส่วนของแป้งขนม
- แป้งข้าวเหนียว ปริมาณ 354 กรัม
- เกลือป่น ปริมาณ ½ ช้อนชา
- น้ำลอยดอกมะลิ ปริมาณ 57 กรัม
- น้ำอัญชัน ปริมาณ 68 กรัม
- น้ำใบเตย ปริมาณ 66 กรัม
- กะทิ อบควันเทียน ปริมาณ 16 กรัม

วิธีการทำขนมเกสรลำเจียก อร่อยง่าย ๆ เพียงแค่ลองทำ
ในปัจจุบันเราจะหาทานขนมเกสรลำเจียกได้ในบางจังหวัดที่ปลูกมะพร้าวเท่านั้น ทำให้หากินได้อย่างยากลำบาก หรืออาจจะหาทานได้แต่มีรสชาติที่ไม่ถูกปาก เนื่องจากวัตถุดิบและวิธีการทำของบางร้านที่ไม่ได้คุณภาพ รวมถึงบางร้านอาจทำออกมาได้หวานเกินไปจนทำให้ผู้กินเกิดอาการเลี่ยน จะดีกว่าไหมคะถ้าเราได้ลองทำเองปรับสูตรตามความชอบ และเราเชื่อว่าหลาย ๆ คนนั้นอาจยังไม่เคยทานขนมไทยชนิดนี้ วันนี้เราจึงนำสูตรไม่ลับมาฝากให้ได้ลองทำทานกันเองที่บ้านอย่างจุใจ ไปดูขั้นตอนการทำกันเลยค่ะ
- ขั้นตอนแรกตั้งกระทะด้วยไฟกลาง ใส่น้ำตาลทราย น้ำลอยดอกมะลิ ลงไปกวนให้น้ำตาลละลายด้วยไม้พายจนกลายเป็นน้ำเชื่อม ใส่มะพร้าวทึนทึกขูดฝอยตามลงไปผัดจนมะพร้าวใส เติมแป้งข้าวเหนียวลงไปผัดต่อเร็ว ๆ ให้เข้ากันแล้วยกออกจากเตา แล้วนำช้อนมาปั้นไส้ตามขนาดของขนมที่ต้องการ
- ต่อกันด้วยส่วนตัวแป้งสำหรับขนม โดยการนำแป้งข้าวเหนียว 120 กรัม เกลือ 1/8 ช้อนชา กะทิอบควันเทียน 3 ช้อนชา น้ำดอกอัญชัน 5 ช้อนโต๊ะ ใส่ลงไปในถ้วยแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันด้วยมือ ทำซ้ำแบบนี้กับสีอื่น ๆ ที่เตรียมไว้
- ตั้งกระทะด้วยไฟอ่อนเพราะการที่ไฟแรงเกินไปจะทำให้แป้งไม่ติดกัน แล้วร่อนแป้งลงกระทะด้วยกระชอน โรยให้แป้งบางเสมอกันเป็นแผ่น พอแป้งสุกให้ตักไส้ขนมเกสรลำเจียกที่เตรียมไว้ใส่ลงไปบนแป้งแผ่นบาง ม้วนแผ่นแป้งปิดตัวไส้ พักให้เย็น เพียงเท่านี้ก็สามารถรับประทานขนมสูตรทำเองได้แล้วค่ะ