
หากกล่าวถึง “ประเทศฝรั่งเศส” หลายคนคงอดคิดถึงสถานที่สุดโรแมนติกไม่ได้ เพราะเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าหลงใหลมากมาย นอกจากนี้ยังเป็นประเทศต้นกำเนิดของ เบเกอรี่ หลากหลายเมนู บางเมนูก็กลายเป็น เบเกอรี่ยอดนิยม โด่งดังไปทั่วโลก รวมถึงเมนู เมอแรงค์ (MERINGUE) ขนมหวานเนื้อเบาฟูที่กำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างสูงในประเทศไทย ด้วยความนิยมนี้ทำให้ถูกประยุกต์ปรับปรุงสูตรให้อร่อยน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น บางชิ้นมีความน่ารักจนไม่กล้ารับประทานเลยทีเดียว
ทำความรู้จัก เมอแรงค์ เบเกอรี่ชิ้นจิ๋ว หยิบทานเพลิน

คำว่าเมอแรงค์เป็นศัพท์ภาษาฝรั่งเศสที่มีความหมายสุดโรแมนติก สื่อความหมายถึง “จูบ” ส่วน ขนมเมอแรงค์ คือ ขนมหวาน ของชาวฝรั่งเศส และสวิสเซอร์แลนด์ ทำมาจากส่วนผสมหลักอย่าง ไข่ขาวที่ถูกนำมาตีพร้อมน้ำตาลด้วยเครื่องผสมอาหารความเร็วสูงจนมีเนื้อนุ่มฟู ในบางสูตรมีการผสมแป้งเข้าไปเพื่อช่วยขึ้นรูป พร้อมเติมสารแตงกลิ่นหอม เมื่อรับประทานเข้าไปจะรับรู้ได้ถึงเนื้อสัมผัสกรอบกำลังดี รสชาติหวานหอมละลายในปาก
ประความเป็นมาของขนม เมอแร็งก์ หรือเมอแรงค์

ประวัติเมอแรงค์ นั้นมีต้นกำเนิดที่เมือง MERINGEN หรือเมืองเมอริเจน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยถูกคิดค้นและปรับปรุง สูตรขนมเมอแรงค์ โดยเชฟชาวอิตาลีท่านหนึ่ง มีนามว่า GASPARINI ในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 ถึงต้นศตวรรษที่ 18 ในเวลาต่อมาก็ได้มีการโต้แย้งถึงแหล่งกำเนิดของ เมนูเบเกอรี่ เมนูนี้ขึ้นมา ทำให้เกิดข้อขัดแย้ง ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าแท้จริงแล้วต้นกำเนิดอยู่ที่ใดกันแน่ แต่สิ่งที่ปรากฏเป็นหลักฐานที่แน่ชัดก็คือมีสูตรอยู่ใน ตำราอาหาร ของ MASSIALOT ในช่วงปี ค.ศ.1692
MARINGUE เบเกอรี่ยอดนิยม ที่สามารถแบ่งได้หลายประเภท

แม้จะไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเกิดขึ้นที่ประเทศใดกันแน่ แต่ก็ถูกนำไปประยุกต์สูตรให้เข้ากับแบบฉบับการรับประ ทานขนมหวาน ของแต่ละประเทศ คือ สวิตเซอร์แลนด์ , ฝรั่งเศส และอิตาลี จึงสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ เฟรนช์เมอแรงค์ FRENCH MERINGUE , สวิสเมอแรงค์ SWISS MERINGUE , อิตาเลียนเมอแรงค์ ITALIAN MERINGUE ซึ่งจะมีความแตกต่างกันในด้านของเนื้อสัมผัส วัตถุดิบ และวิธีการทำ
วัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีทำ พร้อมเทคนิคง่ายๆในการทำเบเกอรี่

ก่อนจะไปเรียนรู้ สูตรเมอแรงค์ ของเราในบทความนี้ เราก็ขอบอกถึงเทคนิคในการทำ เมอแรงค์ ให้ได้รู้ก่อนการลงมือทำ คือ การเช็ดชามผสม และเครื่องตีด้วยน้ำส้มสายชู หรือน้ำมะนาว เพราะหากยังหลงเหลือคราบไขมันแม้แต่น้อยก็จะทำให้การ ตีขนมเมอแรงค์ ไม่ขึ้นฟูสวยงามอย่างที่หวังไว้ และอีกหนึ่งข้อควรระวังคือการเตรียมวัตถุดิบหลักอย่าง “ไข่ขาว” แนะนำให้แยกไข่ขาว และไข่แดงให้ระมัดระวังที่สุด ดังนั้น หากทำได้ตามนี้ การทำขนมของคุณในครั้งนี้ก็จะสามารถผ่านไปได้โดยง่าย ไม่มีอุปสรรคในการทำค่ะ
วัตถุดิบทำ เมอ แรงค์
- ไข่ขาวของไข่ไก่ 2 ฟอง
- น้ำตาลทราย 85 กรัม
- กลิ่นวนิลา ½ ช้อนชา
- สีผสมอาหารตามชอบ

ขั้นตอนวิธีการทำ
- ขั้นตอนแรกในการทำเมอแรงค์ เริ่มจากการทำความสะอาดหัวตี และโถผสม (เช็ดด้วยน้ำส้มสายชู หรือน้ำมะนาว เพื่อให้ปราศจากคราบมัน) ก่อนจะใส่ไข่ขาวลงไปในชามผสม ตามด้วยน้ำตาลทราย
- ตั้งหม้อต้มน้ำรอให้เดือด ปรับไฟเป็นไฟอ่อนแล้วนำชามผสมที่ใส่ไข่ขาว และน้ำตาลละลายมาวางบนปากหม้อ ต่อด้วยการใช้ไม้พายคนให้ส่วนผสมละลายเข้ากันดี เป็นการใช้ไอน้ำช่วยให้ส่วนผสมละลายได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เสร็จแล้วยกออกจากเตาได้เลยค่ะ
- นำส่วนผสมในขั้นตอนที่ 2 มาตีด้วยเครื่องผสมอาหารสปีดสูงสุด ตีจนตั้งยอดอ่อนแล้วปิดเครื่องผสมอาหาร ใส่สารแต่งกลิ่นวานิลลาลงไป เปิดเครื่องตีต่อด้วยสปีดสูงสุด จนตั้งยอดกลาง – แข็ง จากนั้นแบ่งส่วนผสมออกมาใส่ภาชนะ ตามจำนวนสีผสมอาหารที่เลือกใช้ ก่อนจะเติมสีผสมอาหารลงตะล่อมให้เข้ากันกับส่วนผสม (ในขั้นตอนนี้แนะนำว่าอย่าคนแรงนะคะ เพราะจะทำให้ไข่ขาวซึ่งเป็นส่วนผสมหลัก มีเนื้อเหลว และฝ่อลงได้)
- นำหัวบีบใส่ลงไปในถุงบีบ ตัดปลายของถุงบีบให้ลึกพอพ้นขอบหัวบีบ ก่อนจะใส่ลงไปในแก้วแล้วใส่ส่วนผสมของ เมอร์แรง ที่เตรียมไว้ลงไป โดยแยกให้เป็นสีละอัน
- เตรียมถาดรองอบ รองด้วยกระดาษไข หรือกระดาษรองอบให้พร้อม ก่อนจะบีบตัว ขนมเมอแรงค์ ให้เป็นรูปร่างตามที่ต้องการ สามารถรังสรรค์ได้ตามชอบเลยนะคะ แต่ขอแนะนำให้เว้นระยะห่างแต่ละชิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวขนมไหลมาติดกัน
- วอร์เตาอบด้วยไฟบนล่าง 90 องศาเซลเซียส ก่อนจะนำขนมที่เตรียมไว้เข้าไปวางในเตาอบชั้นล่างสุด และเปิดเตาอบด้วยอุณหภูมิเท่ากัน เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที หากครบเวลาแล้วตัวขนมยังไม่แห้ง หรือกรอบดี สามารถปรับเพิ่มเวลาอบต่อได้ค่ะ เมื่อได้เนื้อขนมที่พึงพอใจแล้วให้ปิดเตา พักไว้ในเตาอบต่อเป็นเวลา 20 นาที
- หลังจากรอจนครบเวลาจนตัวขนมคลายความร้อนแล้วให้นำออกมาแกะออกจากแผ่นรองอบ และนำไปใส่ภาชนะมีฝาปิดทันที หากตั้งทิ้งไว้ข้างนอกจะทำให้ขนมชื้น และไม่กรอบ รอต่อไปให้ขนมเย็นสนิทแล้วค่อยนำออกมารับประทานนะคะ
อ่านบทความอื่นๆ:
สนับสนุนโดย:
https://sa-game.bet เว็บคาสิโนและพนันออนไลน์ชื่อดัง