หม้อแกงถั่ว ขนมไทยประจำเพชรบุรีที่สามารถทำเองได้

หม้อแกงถั่ว ขนมไทยประจำเพชรบุรีที่สามารถทำเองได้
หม้อแกงถั่ว ขนมไทยประจำเพชรบุรีที่สามารถทำเองได้

หลายคนมองว่าขนมไทยนั้นเป็นขนมที่ทำยาก แต่ความจริงแล้วขนมเหล่านี้บางชนิดก็สามารถทำได้ง่าย ๆ แถมยังใช้วัตถุดิบที่สามารถหาได้ทั่วไปอีกด้วย เพียงแต่ว่าขั้นตอนอาจจะมีความหลากหลายและยุ่งยากเล็กน้อย เนื่องจากขนมเหล่านี้เป็นขนมที่มีรายละเอียดในตัวค่อนข้างเยอะ อย่างเช่นที่เราจะมาแนะนำในวันนี้เป็นขนมพื้นบ้านประจำเพชรบุรีอย่างหม้อแกงถั่ว ขนมโปรดของใครหลายคนที่รับประทานได้เพลิน ๆ ด้วยเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม ความหวานผสมกับความมันของไข่ เข้ากันได้ดีกับหอมแดงเจียวที่โรยด้านบน หากไปซื้อรับประทานรับรองว่าไม่อร่อยเท่าทำเองอย่างแน่นอน เพราะหากทำรับประทานเองทุกอย่างนั้นก็จะสดใหม่ เครื่องโรยหน้ายังคงหอมและกรอบอยู่ ในวันนี้เราจึงจะมาแนะนำสูตรและวิธีการทำขนมดังกล่าวให้ได้ลองทำตามกัน

หม้อแกงถั่ว ขนมไทยประจำเพชรบุรีที่สามารถทำเองได้
หม้อแกงถั่ว ขนมไทยประจำเพชรบุรีที่สามารถทำเองได้

วัตถุดิบที่ต้องเตรียมสำหรับการทำขนมกุมภมาศ

เชื่อหรือไม่ว่าขนมหม้อแกงถั่วที่เป็นขนมไทยพื้นบ้านที่สุดแสนจะธรรมดานี้จะมีอีกชื่อที่สวยงามอย่างขนมกุมภมาศ โดยสูตรที่เราจะมาแนะนำในวันนี้จะได้ขนมออกมาประมาณ 1 ถาดกลาง เมื่อแบ่งออกมาแล้วก็จะได้ขนมประมาณ 9 ชิ้นกำลังพอดีสำหรับรับประทานในครอบครัว ประกอบไปด้วย

  1. ถั่วเขียว 200 กรัม นำเอาไปนึ่งหลังจากนั้นให้นำเอาถั่วเขียวสุกมาบดจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน ยิ่งเราบดถั่วได้ละเอียดมากแค่ไหนเนื้อสัมผัสของขนมเราก็จะยิ่งเนียนมากขึ้นเท่านั้น
  2. ไข่เป็ดไซส์ใหญ่จำนวน 5 ฟอง 
  3. ใบเตย 1 กำ นำเอาใบเตยสดมาตัดให้มีขนาดกำลังพอดี ล้างให้สะอาด
  4. น้ำตาลปี๊บ 250 กรัม หากต้องการเพิ่มหรือลดความหวานก็สามารถเพิ่มลดปริมาณน้ำตาลได้ตามต้องการเล็กน้อย 
  5. หัวกะทิ 400 กรัม สามารถใช้ได้ทั้งกะทิคั้นสดเฉพาะส่วนของหัวกะทิหรือจะใช้กะทิสำเร็จรูปทั้งกล่องก็ได้เช่นเดียวกัน
  6. หอมแดงซอย 50 กรัม สามารถปรับปริมาณได้ตามความชื่นชอบ ยิ่งซอยบางเท่าไรเมื่อนำไปเจียวแล้วก็จะยิ่งกรอบมากขึ้นเท่านั้น 
  7. น้ำมันพืช 
หม้อแกงถั่ว ขนมไทยประจำเพชรบุรีที่สามารถทำเองได้
หม้อแกงถั่ว ขนมไทยประจำเพชรบุรีที่สามารถทำเองได้

ขนมหม้อแกงถั่ว สามารถทำได้ในบ้านเพียงแค่มีเตาอบ

หลายคนไม่ทราบว่าขนมหม้อแกงถั่วนั้นมีขั้นตอนการทำอย่างไร ต้องบอกว่ามันเป็นขนมไทยที่แตกต่างจากขนมชนิดอื่นเพราะมันต้องใช้เตาอบ ซึ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวที่ไม่ได้มีทุกบ้าน ดังนั้นหากไม่มีเตาอบสามารถใช้เตาติ๊งหรือเตาอบลมร้อนแทนได้ แต่อาจจะต้องปรับอุณหภูมิและปริมาณอีกทีเพื่อให้ได้ขนมที่ออกมาสวยกำลังดี ขั้นตอนการทำมีดังนี้

  1. เตรียมเตาอบด้วยไฟอุณหภูมิประมาณ 180 – 200 องศาเซลเซียส
  2. นำกระทะตั้งไฟแล้วเทน้ำมันพืชลงไป เมื่อน้ำมันเริ่มร้อนให้เทหอมแดงลงไปเจียว ในขั้นตอนนี้ต้องระมัดระวังเพราะหอมแดงเป็นพืชที่มีน้ำตาลเยอะ หากไม่ระวังจะสามารถไหม้ได้ง่าย เมื่อได้สีตามที่ต้องการแล้วให้ยกออกทันทีโดยนำไปวางในตะแกรงสะเด็ดน้ำมัน สีของหอมเจียวจะเข้มขึ้นเล็กน้อย
  3. ตอกไข่ลงไปในชามผสม จากนั้นให้นำเอาใบเตยที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในชาม ใช้มือขยำไข่และใบเตยเข้าด้วยกันจนไข่ฟูเป็นฟอง
  4. เมื่อไข่เข้ากันและเป็นฟองแล้วให้ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปแล้วขยำให้น้ำตาลปี๊บละลายเข้ากันดีจนกลายเป็นเนื้อเดียว 
  5. เทกะทิลงไปในชามผสมแล้วขยำอีกรอบให้เข้ากัน จากนั้นให้นำเอาส่วนผสมไปกรองด้วยตะแกรงหรือผ้าขาวบาง ในขั้นตอนนี้ให้หยิบใบเตยออกจากส่วนผสมได้เลย
  6. นำเอาถั่วเขียวบดลงไปผสมในชาม ใช้มือขยำจนส่วนผสมกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
  7. นำกระทะตั้งไฟอ่อน เทน้ำมันพืชที่ใช้ทำหอมเจียวลงไป 3 ช้อนโต๊ะ แล้วนำเอาส่วนผสมเทลงไปในกระทะแล้วกวนให้เข้ากัน ในขั้นตอนนี้ให้กวนไปเรื่อย ๆ ห้ามหยุดมือเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นขนมจะไหม้ก้นกระทะ
  8. หลังจากกวนไปซักพักเนื้อขนมจะเหนียวขึ้น ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีให้ทำการเทขนมใส่ลงไปในพิมพ์
  9. นำเอาพิมพ์ที่เต็มไปด้วยขนมใส่ลงไปในเตาอบที่เราทำการวอร์มไว้ตั้งแต่ต้น อบประมาณ 40 นาทีแล้วแต่เตาของแต่ละบ้าน ควรทำการเช็คขนมเรื่อย ๆ ใช้วิธีการเดียวกับการเช็คเค้กนั่นก็คือการนำเอาไม้จิ้มฟันจิ้มลงไป ดูว่าไม้จิ้มฟันมีเศษขนมเปียก ๆ ติดออกมาหรือไม่ หากไม่มี และหน้าขนมแห้งแล้วแปลว่าขนมสุกได้ที่
  10. นำพิมพ์ออกมาจากเตาแล้วพักขนมให้เย็น จากนั้นสามารถตัดแบ่งพร้อมเสิร์ฟรับประทานคู่กับหอมเจียว