
ทาร์ตไข่ ขั้นตอนการทำนั้นแสนจะง่าย อีกทั้งยังกินเพลิน ความอร่อยไม่ต้องพูดถึง เทียบเท่า สูตรทาร์ตไข่kfc ใครอยากลอง ต้องฝึกทำ
ส่วนผสมในการทำ ทาร์ตไข่

ทาร์ตไข่เมนูขนมหวานแสนอร่อยที่สามารถหาซื้อกินเองได้ในห้างสรรพสินค้ารวมถึงร้านขนมทั่ว ๆ ไป ทำให้ขนมหวานเมนูนี้ เป็นที่นิยม ใครก็รู้จัก และยิ่งนำออกมาจากเตาอบร้อน ๆ ยิ่งแล้วใหญ่ กัดกินในแต่ละคำ หอม อร่อยจนหยุดไม่ได้ และด้วยสาเหตุนี้ทำให้ แอดมินตัดสินใจรวบรวมสูตรการทำทาร์ตมาให้ผู้ที่ชื่นชอบได้ลองหัดเข้าครัวทำทาร์ตกินเอง และแน่นอน สูตรดังกล่าว สามารถทำได้แน่นอนและอร่อยด้วย เป็น สูตรทาร์ตไข่ง่าย ๆ ที่ใครก็สามารถทำได้
วัตถุดิบสำหรับทำ ทาร์ตไข่
ความน่าสนใจของเมนูขนมหวานชนิดนี้นั่นก็คือ วัตถุดิบใช้เพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น อีกทั้ง ขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ยุ่งยาก ทว่า ผลลัพธ์ที่ได้มา นั่นก็คือ ขนมหวานแสนอร่อย หอม ถูกใจผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานทาร์ต

แป้งทาร์ต
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 11/2 ถ้วยตวง
- น้ำมันหมู 1/4 ถ้วยตวง
- เนยสด 1/4 ถ้วยตวง
- เกลือ 1/2 ชช.
- น้ำตาลไอซิ่ง 2 ชต.
- ไข่แดง 1 ฟอง
- น้ำเปล่า 1-2 ชต.
ไส้คัสตาร์ด
- นมข้นจืด ⅔ ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย ⅔ ถ้วยตวง
- นมสด ⅔ ถ้วยตวง
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- กลิ่นวานิลลา 1 ชต.
- เกลือ ¼ ชช.

วิธีทำทาร์ตง่าย ๆ
แป้งทาร์ตไข่ วิธีทำ ทำอย่างไร? รวมถึง ในส่วนของไส้คัสตาร์ด ทาง แอดมินได้รวบรวมข้อมูลไว้แล้ว
ขั้นตอนที่ 1 แป้ง เกลือ น้ำตาลไอซิ่ง ผสมเข้าด้วยกัน จากนั้น ทำแป้งให้เป็นบ่อตรงกลางแล้วเทน้ำมันหมูลงไป เคล้าให้เข้ากัน
ขั้นตอนที่ 2 นำเนยมาตัดเป็นเม็ดถั่วเขียวเล็ก ๆ ใส่ลงในแป้ง ตามด้วยไข่แดง มาถึงการตะล่อมแป้ง ใช้น้ำเย็นจัดในการตะล่อมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้น นำแป้งสำหรับทำ ทาร์ตไข่ เข้าไปเก็บในตู้เย็นประมาณ 20 นาที

ขั้นตอนที่ 3 ต้มน้ำในกะทะ โดยนำโถที่เล็กกว่ากะทะมาวางทับบนกะทะ จัดการผสมไข่และน้ำตาลทรายในโถ กวนและคนจนส่วนผสมทั้งหมดละลายเข้ากันดี ตามด้วย นมสด นมข้นจืด กลิ่นวานิลลาและเกลือ
ขั้นตอนที่ 5 กรองครีมคัสตาร์ดด้วยผ้าขาวบาง แล้วพักไว้ให้เย็น ในส่วนของ แป้งทาร์ตไข่ นำมากรุในถ้วยพาย ใช้ส้อมจิ้มเป็นรูเพื่อไล่อากาศ แล้วค่อยหยอด ครีมทาร์ตไข่ ลงในถ้วยพาย ในระหว่างนั้น วอร์มเตาอบที่ 220 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบนล่าง ก่อนทำการอบ
ขั้นตอนที่ 6 นำเข้าเตาอบ อบประมาณ 20 นาที แล้วค่อยเช็คดูว่า ไข่สุกหรือเปล่า ? จากนั้น เคลือบหน้าทาร์ตด้วยน้ำเชื่อมคาราเมล นำเข้าเตาอบอีกครั้ง รอบนี้ใช้ไฟบน อบจนหน้าขนมดูไหม้ ก็ถือว่าทำเสร็จแล้ว
อ่านบทความอื่นๆ:
สนับสนุนโดย:
https://sa-game.bet เว็บคาสิโนอันดับ1