
เชื่อว่าหากใครไม่ใช่คนท้องถิ่นในภาคใต้แล้ว คงไม่เคยรับประทาน ขนม โคกะทิ หรือขนมหัวล้านมาก่อน เพราะในปัจจุบันนั้นถือเป็นขนมไทยโบราณหาทานยาก ที่มักจะพบเจอได้น้อยในภาคอื่นๆของประเทศไทย บางท้องถิ่นของภาคใต้มักจะเรียกชื่อขนมชนิดนี้แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น ขนมโคน้ำ,ขนมโคน้ำกะทิ,ขนมหัวล้านทอด,ขนมมด ซึ่งก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกันตามไปด้วย
วัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีทำ ขนม โคกะทิ สอดไส้มะพร้าว
ขนม โคกะทิ หรือ ขนมหัวล้านกะทิ เป็นขนมที่ทำจากแป้งข้าวเหนียวเนื้อนุ่มนิ่ม ในสมัยก่อนจะเติมสีสันด้วยน้ำสมุนไพร สอดไส้ด้วยไส้หวานจากเนื้อมะพร้าวกับน้ำตาล และไส้เค็มจากถั่วเขียวกวนนั้นเอง นับเป็น ขนมโคกะทิสูตรโบราณ รับประทานคู่กับน้ำกะทิหวานมันที่เข้ากันเป็นอย่างดี
วัตถุดิบทำขนมโคกะทิ
- น้ำตาลมะพร้าวหั่นชิ้นเล็ก 100 กรัม
- กะทิ 250 มิลลิลิตร
- มะพร้าวอ่อนขูด 300 กรัม
- แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- สีผสมอาหาร
- งาขาวคั่ว ปริมาณตามชอบ

ขั้นตอนวิธีการทำ
- ขั้นตอนแรกตั้งกระทะด้วยไฟอ่อนค่อนกลาง ใส่น้ำตาลมะพร้าวและน้ำเปล่าเล็กน้อย ทำการผัดส่วนผสมหรือไส้ ขนม โคกะทิ ให้ละลายดีแล้วใส่เนื้อมะพร้าวขูดลงไปผัดต่อ ให้มีความแห้งและเหนียวจนสามารถปั้นเป็นก้อนได้ เสร็จแล้วพักไว้ให้พออุ่น
- เตรียมชามผสมสองชามแล้วใส่แป้งข้าวเหนียวลงไปในปริมาณเท่ากัน ชามแรกใส่สีผสมอาหารลงไปนวดให้เข้ากัน จากนั้นทยอยใส่น้ำเปล่าลงไปในระหว่างนวด จนแป้งนุ่มเนียนจับตัวเป็นก้อน ไม่ติดมือ ชามที่สองทำเหมือนชามที่หนึ่งแต่ไม่ใส่สีผสมอาหาร (ในกรณีที่ต้องการใช้สองสีนะคะ)
- แบ่งแป้งออกมาเป็นวงกลม คลึงให้มีลักษณะแบนแล้วใส่ไส้ที่เตรียมไว้ตรงกลาง แล้วทำการปั้นให้แป้งห่อหุ้มไส้ให้หมด ทำซ้ำจนกว่าแป้งและไส้จะหมด
- ตั้งเตาต้มน้ำเปล่าให้เดือดแล้วใส่ขนมลงไปต้ม เมื่อขนมเริ่มสุกจะลอยขึ้นมา ต้มต่ออีก 3 นาที เพื่อให้แป้งและไส้สุกดีเป็นสีใส จากนั้นใช้กระชอนตักขนมขึ้นมาแช่ในน้ำเย็นจัด
- ตั้งหม้อด้วยไฟกลางค่อนอ่อน ใส่กะทิและเกลือลงไปต้มให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน รอจนกะทิเดือดแล้วจัดใส่จานเสิร์ฟได้เลยค่ะ

สูตร ขนม โคกะทิ สูตรนี้สามารถทำได้ง่าย ทุกคนที่อยากรับประทาน ขนมไทยอร่อย ก็สามารถหาซื้อวัตถุดิบได้ง่ายทั่วไป ไม่ต้องไปหาซื้อไกลถึงภาคใต้ก็ได้ทาน ขนมไทยภาคใต้ ที่ทำด้วยตัวเองกันแล้ว ดังนั้น อย่าลืมนำสูตรนี้ไปปรับใช้แล้วลองทำกันให้ได้นะคะ และอย่าลืมติดตามสูตรขนมต่างๆที่เราได้นำมาฝากกันในบทความอื่นๆ สำหรับบทความนี้ต้องขอลากันไปก่อน สวัสดีค่ะ
ufaball.bet เว็บพนันออนไลน์ เว็บตรง ฝากถอนได้ไม่มีขั้นต่ำ