ขนม อาลัว กรอบนอกนุ่มใน หนึ่งในสูตรขนมไทยขายดี

ขนม อาลัว

ขนม อาลัว มีชื่อที่คล้ายคลึงกับ ขนมของต่างประเทศ นั่นก็เป็นเพราะว่าเป็น ขนมไทย อีกหนึ่งอย่างที่ท้าวทองกีบม้าเป็นคนรังสรรค์ขึ้นมา โดยต้นกำเนิดที่แท้จริงของขนมอยู่ที่ประเทศโปรตุเกส นำมาตั้งชื่อที่มีความหมายถึงขนมที่ยั่วยวนชวนให้รับประทาน  มีลักษณะเป็นขนมชิ้นเล็กสีหวาน เนื้อสัมผัสด้านนอกจะกรอบ แต่ด้านในนั้นกลับนุ่มลิ้นหวานละมุน หยิบทานเพลินอย่าบอกใครเลยละ

วัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีทำ ขนม อาลัว ขนมไทยทำง่าย

ในปัจจุบันนั้นขนมอาลัว ถือเป็น ขนมไทยยอดนิยม อีกหนึ่งอย่างที่คนไทยให้ความสนใจกันมาก ด้วยรสชาติที่อร่อยจนใครๆต่างหลงใหล ทั้งยังสามารถเก็บไว้ได้นาน นำใส่กล่องพกพาไปรับประทานได้สะดวก หลายคนจึงชื่นชอบ ขนมไทยโบราณ ชนิดนี้กันมาก แถมยังเป็นขนมที่ใช้วัตถุดิบในการทำน้อย แต่ขั้นตอนการทำนั้นต้องใช้ระยะเวลาสักนิด แต่เราจะพาทุกคนไปทำขนมอาลัวลดเวลา โดยใช้เตาอบแทนการนำขนมไปตากแดดกันค่ะ

วัตถุดิบทำขนมอาลัว

  1. แป้งเค้กหรือแป้งสาลีอเนกประสงค์ 65 กรัม 
  2. น้ำตาลทราย 150 กรัม
  3. กะทิ 250 มิลลิลิตร
  4. น้ำเปล่า 60 มิลลิลิตร
  5. สารแต่งกลิ่นมะลิ ½ ช้อนชา
  6. สีผสมอาหารตามชอบ
ขนม อาลัว

ขั้นตอนวิธีการทำ 

  1. ขั้นตอนแรกในการทำขนมอาลัว ให้ใส่กะทิ และแป้งเค้กหรือแป้งสาลีอเนกประสงค์ลงไปในชามผสม ใช้ตะกร้อมือคนให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน และนำไปกรองด้วยตะแกรงใส่ลงไปในกระทะเทฟล่อน หรือกระทะทองเหลือง
  2. ใช้ไม้พายคนส่วนผสมในกระทะให้เข้ากัน เติมน้ำตาลทรายลงไปคนให้ละลายเข้ากันอีกครั้ง จากนั้นเติมสารแต่งกลิ่นมะลิลงไปคนให้เข้ากันก่อนทำขั้นตอนถัดไป
  3. เปิดไฟตั้งกระทะด้วยไฟกลางค่อนไฟแรง ใช้ไม้พายคนส่วนผสมตลอดเวลาจนกว่าส่วนผสมจะข้น แล้วปรับไฟลงเป็นไฟกลางค่อนอ่อน คนต่อให้ส่วนผสมร่อนจากกระทะ มีเนื้อเนียนเริ่มจับตัวเป็นก้อน ปิดเตาได้เลย
  4. นำแป้งออกมาแบ่งใส่ชามผสมตามจำนวนสีผสมอาหารที่เลือกใช้ ใส่สีผสมอาหารลงไปผสมให้เข้ากัน 
  5. ใส่แป้งอาลัวลงไปในถุงบีบ พร้อมใส่หัวบีบอาลัว จากนั้นเตรียมถาดรองอบรองด้วยกระดาษไข หรือกระดาษรองอบ บีบขนมลงไปให้ทั่วโดยห่างกันเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้ขนมติดกัน 
  6. อบขนมด้วยเตาอบที่อุณหภูมิ 50 องศา ไฟบนล่าง เปิดพัดลม เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หรือจนกว่าขนมจะแห้งดี จากนั้นนำออกมาพลิกด้านขนมแล้วนำไปอบอีกครั้งเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เป็นอันเสร็จสิ้นพักไว้ให้เย็นแล้วรับประทานได้เลยค่ะ
ขนม อาลัว

หลังจากจบบทความการทำ สูตรขนมอาลัวไม่ตากแดด เชื่อว่าหลายคนคงจะสามารถทำ ขนมอาลัว รับประทานกันได้เองที่บ้านแล้ว แต่หากใครจะทำขายก็นับว่าเป็น ขนมไทยขายดี ที่สามารถสร้างรายได้เสริมได้เป็นกอบเป็นกำ โดยขนมอาลัวนี้จริงๆแล้วมีอยู่สองชนิด คือ อาลัวชาววัง และอาลัวจิ๋ว ซึ่งสูตรที่เราเห็นได้บ่อยครั้งก็เห็นจะเป็นเจ้าอาลัวจิ๋วนี่แหละ