Categories
เบเกอรี่

ทิรามิสุ เบเกอรี่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน สไตล์อิตาเลียน

ทิรามิสุ เบเกอรี่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน สไตล์อิตาเลียน
ทิรามิสุ เบเกอรี่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน สไตล์อิตาเลียน

ทิรามิสุเป็นเบเกอรี่ที่เกิดขึ้นในสมัยเรอเนซองส์ เมือง Siana แคว้นทัสคานี ซึ่งชื่อนั้นมีความหมายว่า “Pick me up” เพราะเป็นเค้กที่มีพลังงานเยอะมาก เพราะมีส่วนผสมหลัก ๆ คือ ไข่ไก่ น้ำตาล และคาเฟอีนจากกาแฟในปริมาณที่สูง ทำให้ผู้ที่ได้กินนั้นรู้สึกมีพลังตื่นตัว เล่าต่อกันมาว่าผู้หญิงในราชสำนักของเวนิสนั้นชอบทิรามิสุมาก ๆ หรือจะบอกว่าเป็นขนมเบเกอรี่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในสมัยนั้นก็ไม่ผิด เพราะได้มีการทำกันอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศอิตาลีเอง และในอีกหลาย ๆ ประเทศ เช่น ในประเทศอเมริกานั้นได้อยู่ในเมนูของร้านอาหารทั่วประเทศ และประเทศไทยของเราเองก็นิยมเช่นกัน เห็นได้จากหลาย ๆ ร้านที่ทำทิรามิสุออกมาขายกันอย่างมากมาย ทั้งราคาเองก็หลากหลายด้วยเช่นกัน ตามคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้

ทิรามิสุ เบเกอรี่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน สไตล์อิตาเลียน
ทิรามิสุ เบเกอรี่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน สไตล์อิตาเลียน

วัตถุดิบสำหรับทำทิรามิสุ เบเกอรี่ยอดนิยม

แม้ทิรามิสุนั้นจะเป็นเบเกอรี่สัญชาติอิตาลี แต่วัตถุดิบต่าง ๆ ก็สามารถหาได้ง่ายในประเทศไทย ตามร้านขายอุปกรณ์สำหรับทำเบเกอรี่ หรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป อีกทั้งกาแฟที่เป็นส่วนผสมสำคัญนั้น ยังช่วยทำให้ผู้ที่ได้รับประทานตื่นตัวหายง่วงกันเลยทีเดียว แถมยังช่วยเผาผลาญไขมัน ลดความเครียด และยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย วัตถุดิบอื่นเองก็มีประโยชน์อีกด้วย ทั้งอร่อย ทั้งมีประโยชน์ แต่ขอบอกก่อนนะคะ ว่าไม่เหมาะกับเด็ก ๆ เลย ดูจากส่วนผสมแล้วทุกคนคงพอจะเดาได้ว่าเพราะอะไร เราไปดูวัตถุดิบกันเลยดีกว่าค่ะ

  1. วิปปิ้งครีม ปริมาณ 360 กรัม
  2. มาสคาโปนชีส ปริมาณ 220 กรัม
  3. น้ำตาลไอซิ่ง ปริมาณ 67 กรัม
  4. กาแฟผง สูตรไม่มีน้ำตาล ปริมาณ 1-2 ซอง
  5. น้ำเปล่า ปริมาณ 120 กรัม
  6. กาแฟผงสูตรผสมน้ำตาล ปริมาณ 1 ซอง
  7. เลดี้ฟิงเกอร์สำหรับทำทิรามิสุ
ทิรามิสุ เบเกอรี่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน สไตล์อิตาเลียน
ทิรามิสุ เบเกอรี่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน สไตล์อิตาเลียน

วิธีทำทิรามิสุ เบเกอรี่สุดแสนจะทำง่าย

มาถึงขั้นตอนการทำแล้ว หลายคนอาจจะเคยลองรับประทานกันมาบ้างแล้ว และคิดว่าเป็นทิรามิสุนั้นทำยาก เราจึงจะขอบอกเลยว่าทำง่ายมากเลยค่ะ ทุก ๆ คนสามารถทำกันได้ โดยที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากมาย วิธีการทำนั้นก็ไม่ยุ่งยาก มีเพียงไม่กี่ขั้นตอนก็ได้ทิรามิสุเบเกอรี่แสนอร่อยมารับประทานกันแล้ว ซึ่งเป็นเมนูที่เหมาะมาก ๆ สำหรับวัยทำงานที่ต้องการความกระปรี้กระเปร่า และคนที่ชอบทานกาแฟ หรือคนที่ไม่ชอบทานกาแฟเป็นน้ำ ๆ ก็สามารถทานเมนูนี้ให้หายง่วงได้เช่นกัน แต่ราคานั้นอาจจะสูงไปเสียหน่อยถ้าต้องซื้อกินบ่อย ๆ วันนี้เราจึงมีสูตรวิธีการทำง่าย ๆ มาฝากกันให้ได้ลองทำตาม รับรองเลยว่าคุณต้องหลงรักจนอยากจะทำทานซ้ำ ๆ อีกทั้งยังเป็นขนมที่เก็บไว้ในตู้เย็นได้นานอีกด้วย

  1. ขั้นตอนแรกเป็นขั้นตอนการทำตัวครีม โดยใส่วิปปิ้งครีมแบบหวานมัน น้ำตาลไอซิ่งสามารถปรับใส่ได้ตามชอบ ใช้เครื่องผสมอาหารตีจนเป็นเนื้อข้น (อย่าพึ่งตีจนตั้งยอดนะคะ เพราะเรายังต้องตีส่วนผสมอีกเยอะ การตีให้ตั้งยอดจะทำให้ส่วนผสมแยกชั้นกันค่ะ) ตามด้วยมาสคาโปนชีสลงไปตีต่อให้เข้ากัน 
  2. นำครีมออกมาแบ่งใส่กาแฟด้วยความเข้มข้นตามชอบ และใช้ไม้พายตีให้เข้ากัน เพื่อให้ครีมของเรามีรสและกลิ่นหอมของกาแฟ
  3. ชงกาแฟผงสูตรผสมน้ำตาลให้เข้ากัน เพื่อเตรียมนำไปชุบเลดี้ฟิงเกอร์
  4. นำเลดี้ฟิงเกอร์ลงไปชุบในกาแฟ เพื่อนำไปใส่ในภาชนะแบบใส 
  5. นำครีมยังไม่ได้ผสมกาแฟใส่ถุงบีบ บีบลงไปในภาชนะที่ใส่เลดี้ฟิ้งเกอร์แล้ว
  6. ใส่เลดี้ฟิงเกอร์ชุบกาแฟอีกรอบในชั้นต่อไปให้สลับกันกับตัวครีม
  7. นำครีมส่วนที่ผสมกาแฟใส่ถุงบีบ และบีบลงไปในชั้นสุดท้ายให้ทั่ว และใช้ไม้พายปาดให้ชั้นบนเนียน ๆ เสมอกัน
  8. โรยผงกาแฟตกแต่งหน้าเล็กน้อยเพื่อความสวยงาม เป็นอันเสร็จสิ้นเมนูทิรามิสุเบเกอรี่ ยกเสิร์ฟรับประทานได้เลย หรือจะแช่เย็นก่อนก็ได้ค่ะ
Categories
ขนมไทย

ขนมใส่ไส้ ขนมไทยพื้นบ้านสุดคลาสสิค

ขนมใส่ไส้ ขนมไทยพื้นบ้านสุดคลาสสิค
ขนมใส่ไส้ ขนมไทยพื้นบ้านสุดคลาสสิค

ขนมในประเทศไทยนั้นแม้ว่าจะขึ้นชื่อว่าเป็นขนมไทยเหมือนกันแต่ก็มีต้นกำเนิด และช่วงเวลาที่ถูกคิดค้นที่แตกต่างกันออกไป ด้วยเหตุนี้ทำให้ขนมต่างยุค ทำมาจากวัตถุดิบที่ต่างกัน ขนมที่มาจากในรั้วในวังก็มีความแตกต่างกับขนมที่ชาวบ้านทำเพื่อรับประทานกันเองอีกด้วย โดยจะสังเกตเห็นได้ถึงความต่างในความประณีตรวมไปถึงวัตถุดิบในการทำ ขนมที่ชาวบ้านทำรับประทานกันเองนั้นจะค่อนข้างเรียบง่าย และไม่ได้มีขั้นตอนที่ประณีตอะไรมากมายนัก แต่หากพูดถึงในส่วนของรสชาติแล้วล่ะก็ ต้องบอกเลยว่าอยู่ในระดับที่สูสีกันเลยทีเดียว ขนมที่เราจะมาแนะนำในวันนี้เป็นขนมไทยพื้นบ้านสุดคลาสสิคที่ไม่ว่าใครก็ต้องเคยรับประทานมาก่อนนั่นก็คือขนมใส่ไส้นั่นเอง

ขนมใส่ไส้ ขนมไทยพื้นบ้านสุดคลาสสิค
ขนมใส่ไส้ ขนมไทยพื้นบ้านสุดคลาสสิค

ขนมสอดไส้ ขนมพื้นบ้านที่มาพร้อมกับวัตถุดิบที่หาได้ง่าย

เราอาจจะเคยได้ยินชื่อวัตถุดิบที่ฟังดูแล้วไม่คุ้นหูและหาได้ยากอย่างเช่นแป้งท้าวยายม่อม ทำให้การทำขนมไทยในปัจจุบันนี้สามารถหาทานได้ยาก เนื่องจากวัตถุดิบเฉพาะไม่ค่อยมีคนนิยมนำเอามาขาย แต่สำหรับขนมใส่ไส้นั้นแม้ว่าจะเป็นขนมพื้นบ้านไทยแต่ก็มาพร้อมกับวัตถุดิบที่สามารถหาได้ง่ายทั่วไป ประกอบไปด้วย

  1. มะพร้าวขูด ควรเป็นมะพร้าวทึนทึกที่มีเนื้อแน่นรสหวานกำลังดี ใช้ปริมาณ 1½ ถ้วยตวง
  2. น้ำตาลมะพร้าว เป็นน้ำตาลที่ให้กลิ่นหอมโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ใช้ปริมาณ 1 ถ้วยตวง 
  3. น้ำสะอาดต้มสุก 
  4. เทียนอบควันเทียน สำหรับใครที่อยากจะให้ขนมมีกลิ่นหอมมากยิ่งขึ้นก็สามารถเตรียมเทียนสำหรับอบควันเทียนมาใช้ได้เช่นเดียวกัน แต่หากหาซื้อยากหรือไม่ชอบกลิ่นอบควันเทียนก็สามารถหลีกเลี่ยงไม่ใช้ได้
  5. แป้ง ประกอบไปด้วยแป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วยตวงและแป้งข้าวเจ้า 1/3 ถ้วยตวง 
  6. น้ำเย็น สามารถแต่งกลิ่นได้ด้วยการแช่อัญชัน มะลิ หรือใบเตย ซึ่งนอกจากจะได้กลิ่นหอมแล้วยังได้สีธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มความสวยงามอีกด้วย ใช้ในปริมาณ 1/3 ถ้วยตวง
  7. เกลือป่น 2 ช้อนชา
  8. หัวกะทิ หากใช้กะทิคั้นสดให้เลือกใช้เฉพาะส่วนหัวกะทิ แต่หากใช้กะทิกล่องสามารถใช้กะทิได้ทั้งกล่องโดยไม่ต้องแยกหัวหรือหางกะทิ ใช้ในปริมาณ 3 ถ้วยตวง 
  9. อุปกรณ์สำหรับห่อขนม สามารถใช้ได้ทั้งใบตองและไม้กลัด หรือจะนำใส่พิมพ์พลาสติกใสแบบที่นิยมในปัจจุบันก็ได้เช่นเดียวกัน
ขนมใส่ไส้ ขนมไทยพื้นบ้านสุดคลาสสิค
ขนมใส่ไส้ ขนมไทยพื้นบ้านสุดคลาสสิค

สูตรการทำขนมใส่ไส้ ขนมพื้นบ้านที่ทำง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก

ขนมใส่ไส้นั้นเป็นขนมอีกหนึ่งชนิดที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นขนมไทยที่มีขั้นตอนยุ่งยากสลับซับซ้อน แต่ความจริงแล้ววิธีการทำนั้นไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย เพียงแค่มีหลายขั้นตอนเท่านั้นเอง ซึ่งแต่ละขั้นตอนประกอบไปด้วย

  1. นำหม้อตั้งไฟปานกลาง นำมะพร้าวขูดลงไปกวนกับน้ำตาลมะพร้าวให้ละลายจนเหนียวได้ที่ จากนั้นให้นำเอาน้ำต้มสุกผสมลงไปแล้วคนเรื่อย ๆ จนกว่าส่วนผสมจะข้นจนเหนียวและแห้ง เราก็จะได้เป็นมะพร้าวขูดเคลือบน้ำตาลมะพร้าวที่เหนียวกำลังดี
  2. นำเอาส่วนผสมลงมาพักไว้จนเย็นหลังจากนั้นก็ให้นำเอามะพร้าวขูดที่ได้มาปั้นเป็นก้อนกลมขนาดไม่เกิน 1 นิ้ว ในขั้นตอนนี้สำหรับใครที่อยากจะอบควันเทียนให้นำเอาไส้ที่ได้ใส่ในภาชนะที่มีฝาปิด หลังจากนั้นให้ทำการอบควันเทียนทิ้งไว้ แต่หากไม่ต้องการอบควันเทียนให้นำเอาไส้ใส่ในภาชนะที่ปิดมิดชิดพักเอาไว้
  3. นำเอาน้ำเย็นผสมกับแป้งข้าวเหนียวแล้วนวดจนกว่าจะสามารถปั้นได้ เมื่อแป้งได้ที่ให้ปั้นแป้งเป็นก้อนกลมขนาดกำลังดี 
  4. ตั้งกระทะเทฟล่อนหรือกระทะทองเหลืองด้วยไฟปานกลาง นำเอากะทิ แป้งข้าวเจ้า และเกลือป่นเทลงไปในกระทะ คนจนกว่าจะเข้ากัน กวนไปเรื่อย ๆ จนกว่าส่วนผสมจะข้นได้ที่ จากนั้นให้ยกลงจากเตาแล้วพักเอาไว้จนเย็น
  5. นำเอาแผ่นข้าวเหนียวที่เราปั้นมาห่อไส้ ที่เราพักเอาไว้หรืออบควันเทียนทิ้งไว้ หลังจากนั้นเอาไปวางลงใบตอง และหงายใบตองขึ้นแล้วตักหน้าขนมที่เป็นส่วนของกะทิใส่ลงไปบนไส้ประมาณครึ่งช้อนชา ห่อให้เป็นทรงแล้วนำเอาไม้มากลัด นำเอาไปนึ่งเป็นเวลา 10 นาทีในหม้อนึ่งที่ตั้งจนน้ำเดือดเรียบร้อยแล้ว
  6. หากทำขนมใส่พิมพ์พลาสติกให้ทำการตักกะทิลงไปในถ้วยก่อนประมาณครึ่งหนึ่ง จากนั้นให้ห่อไส้ด้วยแป้งข้าวเหนียวแล้วนำเอาไปต้มจนสุก ก่อนจะนำมาใส่ในพิมพ์เป็นอันเสร็จสิ้น