
ใครที่ชอบทานเมนูสตาร์บัคแล้วละก็ต้องรู้จักขนมหวานทานเล่นคู่กับชา หรือกาแฟ ที่มีชื่อว่า สโคน หรือสคอน (SCONE ซึ่งก็คือเบเกอรี่ QUICK BREAD อังกฤษลักษณะเป็นขนมอบก้อนกลม ทำมาจากแป้งสาลี ไข่ น้ำตาล นมสด และเนย ในบางสูตรมีการใส่ผลไม้อบแห้ง หรือถั่วลงไปด้วย เนื้อสัมผัสกรอบนอก นุ่มใน รสชาติไม่หวานมาก จึงนิยมนำมาตัดแบ่งตรงกลางทาแยม และวิปปิ้งครีมเพื่อเพิ่มรสชาติ ทานคู่กับชา กาแฟแล้วเข้ากันเป็นอย่างดี หรือใครจะทานเป็นอาหารเช้า หรือทานระหว่างวันก็อร่อยอิ่มท้องไม่แพ้อาหารหลักเลย
สโคน ประวัติความเป็นมา และเรื่องน่ารู้
ประวัติของสโคนนั้นยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดขึ้นเมื่อใด หรือใครเป็นผู้คิดค้น แต่ก็มีหลักฐานที่กล่าวถึงเบเกอรี่ชิ้นนี้ว่าเกิดขึ้นที่ประเทศสก็อตแลนด์ ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 โดยสูตรดั้งเดิมนั้นไม่ได้ใช้แป้งสาลีเป็นส่วนผสม แต่จะใช้ข้าวโอ๊ตในการทำ หน้าตาของขนมก็ไม่ได้เหมือนที่เราเห็นในปัจจุบัน คือ มีลักษณะเป็นก้อนกลมแบน และมีขนาดใหญ่กว่าปัจจุบัน จนเปรียบได้กับจานขนาดกลางเลย ในยุคนั้นจะอบในกระทะก้นแบนแล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นสามเหลี่ยม ก่อนการเสิร์ฟให้ได้รับประทาน

จุดเริ่มต้นความนิยมของเมนูเบเกอรี่คู่น้ำชา
สิ่งที่ทำให้สโคนเป็นที่รู้จัก และได้รับความนิยมมากขึ้น จนกลายเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของชาวอังกฤษ เป็นตำนานที่เล่าต่อกันมาตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1840 ว่า เจ้าหญิงแอนดา มาเรีย (THE DUCHESS OF BEDFORD) ได้สั่งให้คนรับใช้จัดชุดชาพร้อมขนมปังให้ในตอนเย็น เพื่อบรรเทาอาการหิวระหว่างรออาหารเย็น ซึ่งหนึ่งในเมนูขนมปังนั้นก็มี SCONE อยู่ด้วย เมื่อได้ลองชิมเบเกอรี่ชิ้นนี้แล้วก็เกิดการติดใจ จนต้องจิบชาพร้อมขนมปัง และของว่างในทุก ๆ วัน และชวนเพื่อน ๆ มาด้วยเสมอ ต่อมามีผู้ทำตาม และกลายเป็นธรรมเนียมที่เกิด AFTERNOON TEA TIME ในช่วงเวลาประมาณ 4 โมง
ขนมอบรสชาติดี มีหลายชื่อ
สโคนนั้นสามารถเรียกได้หลายชื่อในภาษาอังกฤษ บ้างก็เรียกว่า “STONE OF SCONE” หรือ “STONE OF DESTINY” ซึ่งเป็นขนมที่ใช้ในบรมราชาภิเษกสมรสของกษัตริย์ในประเทศสก็อตแลนด์ แต่ก็มีหลายคนที่บอกว่ามาจากภาษาดัชต์ “SCHOONBROT” ที่แปลว่า BEAUTIFUL BREAD หรือขนมปังที่สวยงาม และก็มีการอ่านออกเสียงของชื่อขนมได้สองแบบ คือ สโคน , สคอน หรือสกอน ซึ่งสามารถเรียกได้ทุกแบบ เพราะในภาษาไทยเองก็ยังไม่สามารถแปลศัพท์ที่ถูกต้องได้อย่างเด็ดขาด

ประโยชน์ของการทานเบเกอรี่จากแป้งสาลี
วัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมในการทำสโคนนั้นมีประโยชน์ จึงทำให้กลายเป็นขนมที่มีประโยชน์ สามารถรับประทานแทนมื้ออาหารหลักได้ ยกตัวอย่างเช่น แป้งสาลีที่ได้มาจากเมล็ดข้าวสาลีที่คุณค่าทางอาหาร คือ ประกอบไปด้วยคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และวิตามินหลายชนิด ช่วยในการป้องกันโรคเหน็บชา และระบบประสาท บำรุงผิวหนัง และเส้นผม ป้องกันโรคปากนกกระจอก และโรคโลหิตจาง ฯลฯ
วิธีการรับประทานสโคนให้อร่อย
หลายคนอาจเคยซื้อสโคน ขนมปังคลาสสิคที่มีรสชาติหวานน้อยมารับประทานแล้วรู้สึกว่าไม่ถูกปาก หรือไม่อร่อยเหมือนเมนูเบเกอรี่ทั่วไปที่สามารถทานได้ทันที นั่นอาจเป็นเพราะการทานที่ผิดวิธี ซึ่งวิธีการทานที่ถูกต้องนั้นต้องเริ่มจากการนำมาอุ่นให้ร้อน ตัดแบ่งออกเป็นสองส่วนแล้วทาคลอตครีม หรือวิปปิ้งครีม และแยมลงไป จากนั้นรับประทานทีละชิ้นช้า ๆ คู่กับน้ำชา หรือกาแฟ เพียงเท่านี้ก็จะสามารถทานได้อย่างอร่อย เข้าถึงรสชาติของขนมที่ดีที่สุด หรือใครจะนำมาจิ้มลงไปในครีม และแยม แล้วรับประทานเลยก็อร่อยเช่นกันค่ะ

วัตถุดิบ และขั้นตอนวิธีการทำสโคน
หากจะหาซื้อ สโคน ในร้านเบเกอรี่ หรือคาเฟ่แล้วมักจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง บางร้านนั้นตั้งราคาไว้ที่ชิ้นละ 40 บาทเลยทีเดียว เราจึงได้นำสูตรการทำเบเกอรี่ SCONE มาแนะนำให้ได้ลองทำตาม ซึ่งเป็นสูตรเบเกอรี่ทำง่ายที่ทุกคนสามารถหาซื้อวัตถุดิบ และลงมือทำตามกันได้เองที่บ้าน โดยไม่ต้องไปหาซื้อในราคาที่สูง จะทำทานเอง หรือทำให้คนพิเศษได้รับประทานระหว่างการทานชา กาแฟก็ได้ค่ะ ดังนั้น เราไปเตรียมวัตถุดิบให้พร้อม และลงมือทำขนมโฮมเมดกันเลย
วัตถุดิบ
- แป้งสาลีเอนกประสงค์ 250 กรัม
- ผงฟู 14 กรัม
- เกลือ 1/8 ช้อนชา
- เนยจืด 47 กรัม
- น้ำตาล 43 กรัม
- ไข่ (เบอร์2) 1 ฟอง
- บัตเตอร์มิลค์ 70 มิลลิลิตร

ขั้นตอนวิธีการทำ
- ขั้นตอนแรกใส่บัตเตอร์มิลค์ และไข่ลงไปในชามผสม ใช้ตะกร้อมือตีผสมให้เข้ากัน และพักไว้
- เตรียมชามผสมอีกหนึ่งชาม ใส่แป้งสาลี น้ำตาล ผงฟู และเกลือใส่ลงไป จากนั้นคนให้เข้ากันแล้วใส่เนยจืดแช่เย็นลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันกับส่วนผสมแบบแห้ง จนไม่เหลือก้อนเนย และใส่บัตเตอร์มิลค์ที่เตรียมไว้ลงไป ใช้ไม้พายคนส่วนผสมให้เข้ากันดี
- นำส่วนผสมในขั้นตอนที่ 2 มาเทใส่แผ่นรองนวด กด และพับให้เป็นก้อนเดียวกันให้หนาประมาณ 1 นิ้ว พับไปมาจนแป้งเนียน และแน่น ไม่แตกออกจากกัน ต่อด้วยการห่อด้วยแผ่นฟิล์มถนอมอาหาร พักไว้ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
- เมื่อรอจนครบเวลาแล้วให้ใช้ไม้นวดแป้งนวดให้หนาประมาณ 2.5 เซนติเมตร และนำพิมพ์คุกกี้ชุบแป้งนวล มากดแป้งให้เป็นชิ้น ๆ และนำออกมาวางบนถาดรองอบ รองถาดด้วยกระดาษไข และนำไปพักในตู้เย็นเป็นเวลา 20 นาที
- วอร์มเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 200 องศา และทาไข่ลงบนตัวขนม ก่อนจะนำเข้าไปอบในอุณหภูมิเท่าเดิมเป็นเวลา 15 นาที เสร็จแล้วพักไว้ให้พออุ่นก่อนจัดเสิร์ฟ

บทสรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับเบเกอรี่อังกฤษ ที่สามารถนำไปทานคู่กับชา กาแฟแล้วเข้ากันเป็นอย่างดี ใครชอบแยมรสชาติไหนก็สามารถนำมาทานร่วมกันได้เลย และหลังจากจบบทความนี้ เราเชื่อว่าหลายคนคงรู้จักกับ สโคน กันมากขึ้น รู้จักประวัติความเป็นมา วิธีการรับประทานให้อร่อย และวิธีการทำเบเกอรี่โฮมเมดด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ ยิ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคในช่วงนี้ ที่การรับประทานเบเกอรี่นอกบ้านเป็นเรื่องที่เสี่ยง การทำเบเกอรี่ทานด้วยตัวเองถือเป็นเรื่องที่ตอบโจทย์ที่สุดนะคะ